วันนี้(23 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ศิรภัสสร กิจขพิทักษ์ อายุ 37 ปี อาศัยอยู่ที่ 88 หมู่ 2 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา 30250 ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเเละอารมณ์สองขั้วอย่างรุนเเรง ได้รับการรักษาเเละทานยาต่อเนื่องมา 8 ปี รวมถึงยังมีอาการป่วยอีกหลายโรค ทั้ง ภูมิเเพ้ หอบหืด ไมเกรน ลำไส้เเปรปรวน ได้แต่ทานยาประคองอาการตัวเองเรื่อยมา ส่วนลูกชาย เด็กชาย พัณณกร กิจขพิทักษ์ หรือ น้องอันดาอายุ 12 ปี ป่วยเป็นออทิสติกขั้นรุนเเรง รักษามาตั้งเเต่ 3 ขวบ ทุกวันนี้น้องทานยา 14 เม็ดต่อวัน ไม่เคยขาดยา เคยไปนอนรักษาที่โรงพยาบาลเกี่ยวระบบประสาทสมองมาเเล้ว เเต่ก็ไม่ดีขึ้น
"ลูกชายมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเองเเละคนเลี้ยงอย่างรุนเเรง ถึงกับเขียวช้ำทุกๆวัน บางครั้งเป็นบาดเเผลเลือดออกอยู่ซ้ำๆ เเละมีพฤติกรรมร้องหงุดหงิดทำร้ายตัวเองด้วยการเอาหัวไปโขกตามผนังบ้านเเละประตูกกระจก จนทำให้น้องหัวเเตก เเละเป็นเเผล น้องพูดไม่ได้ ไม่เข้าใจภาษาไทยเเละภาษามนุษย์ น้องจำเหตุการที่ทำซ้ำๆเท่านั้น เเละไม่สามารถดูเเลตัวเองเบื้องต้นได้เลย จึงไม่สามารถให้น้องอยู่ลำพังคนเดียวได้"น.ส.ศิรภัสสร กล่าว
น.ส.ศิรภัสสร กล่าวต่อว่า ลูกไม่กินข้าวมาตั้งเเต่ 4 ขวบ จนตอนนี้น้องอายุ 12 ปีเเล้ว ก็ไม่กินข้าวเเละอาหารคาวทุกชนิด ผลไม้ ขนมปัง ก็ไม่กิน โตมาได้เพราะกินนมกล่องเเละขนมไร้สาระมาตลอดหลายปี และลูกชายไม่ชอบการรอคอย รอคอยอะไรไม่ได้ จะหงุดหงิดร้องโวยวายเเละหยิกตามมือ ข้อมือ เเขน หยุมเเขน หยุมหน้า ใช้มือทุบที่กลางหลังของฉันอย่างเเรง หรือไม่ก็ใช้มือเขก ตบ ตีหัวคนเป็นเเม่ "คือฉัน" ไม่ว่าจะพาไปที่ไหนๆเค้าก็จะมีพฤติกรรมเเบบนี้ตลอดๆ การเลี้ยงดูเด็กออทิสติกรุนเเรงมันเหนื่อยเเละเจ็บปวดทุกข์ใจหนักหนามาก เราเป็นเเม่ที่เลี้ยงเค้าอย่างดี ไม่ล่ะสายตามาตลอด 12 ปี แต่วันนี้ใจเราเเทบไม่สู้เเล้ว มันไม่ไหว ไม่ไหวจริงๆนะ เเต่มันหยุดพักไม่ได้ ก็ไม่รู้จะอยู่เลี้ยงลูกได้อีกกี่ปี
"ล่าสุดในโลกโซเชียลได้มีผู้ใจบุญติดต่อคุณหมอที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งคุณหมอพร้อมที่จะรับรักษาน้องอันดา ในส่วนของค่าหมอและค่ายา น้องไม่ต้องจ่ายเนื่องจากมีบัตรคนพิการก็จะสามารถรักษาได้ฟรี แต่เมื่อน้องมีอาการเช่นนี้จึงต้องอยู่ในห้องพิเศษ เพื่อไม่ให้ไปรบกวนคนไข้คนอื่น ๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าน้องจะต้องรักษาตัวนานกี่เดือน คุณแม่จึงมีความเดือดร้อนในเรื่องของค่าห้องพิเศษ ตอนนี้ก็มืดแปดด้าน ไม่รู้จะหันไปพึ่งพาใคร เห็นแต่ภาพของคุณพิมรี่พาย เพราะเขาใจบุญ ช่วยเหลือมาหลายเคส แม่ก็หวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือบ้าง ใจก็อยากให้ลูกได้รักษาตัว เผื่อจะมีความหวังให้ลูกสามารถดูแลตัวเองได้บ้าง คนเป็นแม่ก็จะได้ไปทำมาหากิน"