เข้าสู่โค้งสุดท้ายในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤกษภาคม นี้ บรรยากาศการหาเสียงกำลังเข้มข้น บรรดาผู้สมัครต่างนำเสนอนโยบายของตน เพื่อมุ่งหวังให้ถูกใจประชาชนให้มากที่สุด และ 1 ในผู้สมัครที่ชื่อ วิน เมธวิน อังคทะวานิช ผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท เบอร์ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขันอาสาเป็นตัวแทนของคนพญาไท ขอโอกาสเข้าไปทำงาน ได้นำเสนอนโยบายด้วยแนวคิด “เปลี่ยนพญาไทให้วิน”
ก่อนหน้านี้ วิน เมธวิน ได้นำเสนอนโยบาย 4 ด้าน ให้ชาวพญาไท ได้รับรู้โดยการหาเสียงไปแล้ว ได้แก่ 1.พญาไทปลอดภัย ติดตั้งเสา 4 มิติ มีกล้อง CCTV ไฟฟ้าส่องสว่าง และinternet ฟรี 2.พญาไทมั่งคั่ง ให้ตั้งขายของริมทางเท้าได้ไม่เว้นวันจันทร์ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วย Street Food, Street Matket บริหารจัดการร้านค้าริมถนน 3.พญาไทปลอดโรค มีหมอใกล้บ้าน 3 วันต่อสัปดาห์ 4.พญาไทเป็นเลิศ พัฒนาโรงเรียนสังกัดกทม.ให้เป็นโรงเรียน 3 ภาษา ลูกหลานคนพญาไทต้องได้เรียนดีและใกล้บ้าน
วิน เมธวิน บอกว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ส่วนตัวอยากมาเน้นย้ำในนโยบาย พญาไทปลอดโรค ให้ได้เข้าใจถึงแนวคิดนี้ว่าสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพญาไทเพียงใด หลังจากที่ได้ลงไปสัมผัสพื้นที่จริงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับรู้รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนตามชุมชนต่างๆในเขตพญาไทว่า ที่ผ่านมาปัญหาด้านสาธารณสุขสำหรับพวกเขายังไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
“จากข้อมูลพบว่าพื้นที่เขตพญาไทมีโรงพยาบาลเอกชนจำนวนมาก คนมีเงินหากเจ็บป่วยขึ้นมา สามารถเลือกรักษาโรงพยาบาลไหนก็ได้ แต่คนในชุมชนในเขตพญาไท ที่มีอยู่ราว 21 ชุมชน ส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย ไม่มีงานประจำ ไม่มีประกันสังคม ทำให้ไม่ได้รับการดูแลใส่ในใจด้านสาธารณสุขเท่าที่ควร เวลาคนในชุมชนเจ็บป่วยเร่งด่วนขึ้นมา ไม่รู้จะไปหาหมอหายาที่ไหน คนที่มีรายได้น้อย เขาขาดโอกาส ไม่สามารถไปรักษาตัวที่รพ.เอกชนได้ เขาก็ต้องไปสาธารณสุขใกล้บ้าน เวลาไปก็พบแต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไม่ได้เจอหมอ อาการเจ็บป่วยก็ทำได้แค่ทุเลา เพราะอาจจะได้แค่ยาแก้ปวด ซึ่งไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง”
วินยังได้ขยาย ถึงแนวคิดนี้ว่า สาธารณสุขใกล้บ้าน ควรมีหมอ 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษากับแพทย์ ได้หมอ ได้ยาดี คุณภาพชีวิตด้านสุขภาวะอนามัยของคนในชุมชนก็จะดีตามไปด้วย “ถ้าผมมีโอกาสได้เข้าไป ผมจะเร่งนำเรื่องนี้ไปสู่ฝ่ายบริหารอย่างเร่งด่วน และต้องลงมือทำทันที เพราะชีวิตความเป็นความตายของคนมันรอไม่ได้ และ ผมคิดว่า การออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ก. และผู้ว่ากทม.ครั้งนี้ สำคัญไม่แพ้การเลือกตั้ง ส.ส. เพราะเป็นการแสดงพลัง ของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะคนพญาไท เราจะมีโอกาสได้เลือกตัวแทนของเราจริงๆ ตามระบอบประชาธิปไตย ภายใต้การเลือกตั้ง อยากให้ออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะๆ เพื่อให้ได้ตัวแทนประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆที่หมักหมมกันมานาน”