นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยเผยถึงกรณีผู้สื่อข่าวบางสำนักไปเข้าตรวจสอบ หลวงปู่แสง ชี้แม้ไม่มีการร้องเรียน แต่เรื่องนี้มีภาพปรากฏชัดเจน พร้อมขอความร่วมมือตรวจสอบสื่อทุกสำนัก คำนึงถึงจรรยาบรรณวิชาชีพ
จากกรณีการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวบางสำนัก ที่ไปเข้าตรวจสอบ หลวงปู่แสง จันดะโชโต (ญาณวโร) สำนักสงฆ์ดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากภาพที่ปรากฏออกไปมีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยล่าสุดมีคำแถลงการณ์จากกองบรรณาธิการข่าวเวิร์คพอยท์สั่งพักงานผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว เป็นเวลา 7 วัน และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรม ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว
วันนี้ (13 พ.ค.) นายพีระวัฒน์ โชติธรรมโม นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว “ถือเป็นข้อปฏิบัติที่ดีของกองบรรณาธิการในการดำเนินการเบื้องต้น โดยในส่วนของสมาคมได้มีการพูดคุย หารือถึงปัญหานี้เช่นกัน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคุณธรรมจริยธรรม รวมถึงจรรยาบรรณวิชาชีพของสื่อว่าผิดจริงหรือไม่ แม้จะไม่มีการร้องเรียน แต่เรื่องนี้มีภาพปรากฏชัดเจน และขอความร่วมมือตรวจสอบสื่อทุกสำนักที่ร่วมทำข่าวในวันดังกล่าวด้วย
โดยหลังจากนี้ ทางสมาคมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแล จริยธรรม และวิชาชีพของสื่อทุกแขนง โดยจะจัดอบรมจรรยาบรรณของสื่อใหม่ เนื่องจากมีสื่อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก รวมไปถึงจะนำเสนอข้อมูลให้กับ กสทช. ในการร่วมกำกับดูแลข่าวสารที่ออกสู่หน้าจอ เพื่อให้เป็นไปตามครรลองของสื่อมวลชนที่ควรเป็นนายพีระวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในปัจจุบันการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนมีความหลากหลายมากขึ้นในช่องทางต่างๆ เพราะมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การสื่อสารนำเสนอได้รวดเร็ว แต่สิ่งที่ไม่ควรเปลี่ยนหรือหายไปคือจรรยาบรรณวิชาชีพ ว่าสื่อมวลชนไม่ควรใช้อารมณ์ ความคิดเห็นส่วนตัว หรืออคติของตนเอง ในการตัดสินทุกคน หรือเหตุการณ์ ควรต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน และนำเสนออย่างเป็นกลาง การปฏิบัติตนควรให้เกียรติแหล่งข่าวทุกคน ทุกสถานะ และสื่อทุกคนในทุกตำแหน่งควรกระทำให้เป็นแนวทางเดียวกัน
ส่วนคำตัดสินการสอบสวนจริยธรรมของแต่ละสำนักนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร ทางสมาคมฯ ไม่อาจไปกำหนดได้ แต่เชื่อว่ากรอบหรือหลักการที่สมาคมฯ ได้กำหนดกฎระเบียบไว้จะเป็นแกนหลักที่ทางกองบรรณาธิการแต่ละสำนักข่าวจะยึดเป็นแนวทาง โดยสมาคมฯ จะติดตามการสอบสวนนี้ และจะมีแถลงการณ์แจ้งต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นกรณีที่ สังคมให้ความสนใจ
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงสื่ออิสระ สื่อโซเชียล และสื่อทุกแพลตฟอร์ม ขอให้คำนึงถึงจรรยาบรรณวิชาชีพ ไม่ว่าจะนำเสนอข่าว ออกอากาศ หรือเป็นการถ่ายทอดสด ให้ทำอย่างถูกต้อง และเหมาะสม หากเป็นกรณีที่ต้องมีการสืบสวนหาความจริง ก็ควรให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สื่อไม่ควรใช้ตนเองเป็นคนตัดสินแหล่งข่าว เด็ดขาด ไม่ว่าจะรู้จัก สนิทสนมกัน หรือไม่ก็ตาม”