ที่เรียกกันว่า “พระเจ้าท้ายสระ” นั้น หมายถึง สมเด็จพระสรรเพชญที่ ๙ หรือ พระภูมินทราชา พระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระเจ้าเสือ ซึ่งขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ ๓๐ ของกรุงศรีอยุธยา เรื่องราวของพระองค์ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในรัชสมัยครองราชย์ ๒๔ ปีก็คือ ทรงโปรดเสวยปลาตะเพียนมาก ถึงกับทรงออกพระราชกำหนดห้ามผู้ใดจับปลาตะเพียนไปบริโภค ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับถึง ๕ ตำลึง และตีความกันว่าเพราะจะเก็บไว้เสวยเอง...ฟังดูแล้วก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะปลาตะเพียนเป็นปลาพื้นบ้านมีชุกชุมอยู่ทั่วไป สมัยนั้นคนก็มีไม่มาก กินกันยังไงก็ไม่หมด
อีกเรี่องหนึ่งที่ทรงโปรดเป็นพิเศษก็คือ ไปประทับที่พระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์เป็นประจำ ซึ่งพระที่นั่งองค์นี้เป็นพระที่นั่งอยู่ในสระน้ำท้ายวัง จึงเรียกกันว่า “พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ”
พระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์เป็นปราสาทจตุรมุขขนาดเล็กๆ สร้างขึ้นบนเกาะกลางสระน้ำในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชก่อนที่จะเสด็จไปประทับที่กรุงละโว้ ในสระก่อเป็นภูเขาและมีน้ำพุ เป็นที่พักผ่อนพระอิริยาบท สมัยพระเจ้าเสือก็โปรดมาประทับที่พระตำหนักนี้ พงศาวดารฉบับ “คำให้การขุนหหลวงประดู่ทรงธรรม” ระบุว่า ในสระนี้มี...
“...ปลาหน้าคน แลปลากะโห้ ปลาตะเพียนทอง แลปลาต่างๆในท้องสระ...”
ขออธิบายเพิ่มสักนิดว่า “ปลาหน้าคน” นั้นเป็นของแปลก เพิ่งเป็นข่าวในปี ๒๕๖๓ มานี่เองว่า มีชาวประมงที่จังหวัดกระบี่จับได้ ลักษณะเหมือนปลาเก๋า แต่หน้าเหมือนคน นักวิชาการประมงบอกว่า ปลานี้มีชื่อว่า ปลาอุก หรือ ปลาอุกยักษ์ พบได้ในทะเลไทยทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน แต่มีจำนวนน้อยมาก เป็นปลาทะเล แต่ทำไมไปเหมือนปลาน้ำจืดสมัยกรุงศรีอยุธยาได้
สำหรับปลาตะเพียน ถ้าพระเจ้าท้ายสระทรงโปรดเสวยมาก พระองค์ก็คงไม่ต้องถึงกับออกกฎหมายห้ามไม่ให้ใครมาแย่งปละตะเพียนในสระนี้ แต่ปลาตะเพียนทองเป็นปลาสวยงาม ทุกวันนี้ก็ยังเลี้ยงกันในตู้ปลา โดยเลี้ยงไว้ดูไม่ใช่เลี้ยงไว้กิน
ผู้เขียนเคยไปที่ท่าน้ำวัดค่ายบางกุ้ง ริมแม่น้ำแม่กลอง ที่อำเภออัมพวา สมุทรสงคราม ที่นั่นมีปลาตะเพียนหางแดง หรือปลาตะเพียนทองฝูงใหญ่ ไม่เหมือนหน้าวัดอื่นที่มักมีแต่ปลาสวาย เวลามีคนไปชมปลาและให้อาหารปลา ปลาตะเพียนทองก็จะเบียดเสียดขึ้นมาแย่งอาหารกันแน่น
จึงคิดว่าที่พระเจ้าท้ายสระทรงออกพระราชกำหนดห้ามจับปลาตะเพียนทองไปบริโภคนั้น ก็คงมีพระราชดำริที่จะอนุรักษ์ปลาสวยงามนี้ไว้ ไม่ใช่ทรงห้ามมาแย่งเสวยเป็นแน่
นี่ก็อาจจะเป็น“เฟคนิวส์” สมัยโบราณ ข่าวออกกฎหมายห้ามคนมาแย่งกินปลาตะเพียน สนุกกว่าข่าวออกกฎหมายอนุรักษ์ปลาตะเพียนเสียอีก หรืออาจจะไม่รู้ว่าอนุรักษ์ไปทำไมก็ได้ เลยหาว่าหวงไว้เสวยเองซะเลย