พบกรมทางหลวงส่งใบแจ้งหนี้ไปยังสหกรณ์รถแท็กซี่แห่งหนึ่ง ระบุว่าผ่านทางระบบ M-Flow ทั้งๆ ที่จริงรถแท็กซี่คันนี้จอดไว้ในอู่นานเป็นปี แค่จะสตาร์ทยังลำบาก ชาวเน็ตสงสัยโดนสวมทะเบียน
วันนี้ (21 เม.ย.) จากกรณีที่กระทรวงคมนาคมเปิดให้บริการระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นำร่องด่านเก็บเงิน 4 แห่ง ได้แก่ ด่านทับช้างและด่านธัญบุรี ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 หรือถนนกาญจนาภิเษก (บางปะอิน-บางพลี) ในรูปแบบผ่านก่อนจ่ายทีหลัง ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นมา โดยการใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทางด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ Video Tolling แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น ทำให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ด้วยความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ปรากฏว่าพบเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกับการสวมทะเบียนรถยนต์เกิดขึ้น เมื่อเฟซบุ๊ก Smart Taxi.,Ltd ของบริษัท สมาร์ทแท็กซี่ จำกัด ผู้พัฒนาระบบแท็กซี่ภายใต้ชื่อ “สมาร์ท แท็กซี่” (SMART TAXI) และได้เข้าร่วมโครงการแท็กซี่โอเค (TAXI OK) ของกรมการขนส่งทางบก ได้โพสต์ภาพหนังสือเรียกให้มาชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางของระบบ M-Flow และ/หรือเรียกให้มาชี้แจงหรือแสดงหลักฐาน ถึงสหกรณ์บวรแท็กซี่ จำกัด เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์ทางทะเบียน (เขียนด้วยลายมือว่า รถจอดสมาร์ท) ลงวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา
ระบุว่า "ด้วยระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (ระบบ M-Flow) ตรวจสอบพบว่ามีการใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน ... (ขอสงวนเลขทะเบียน) ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้กับบัญชีชื่อผู้ลงทะเบียนใช้บริการ (Registered User Account) ของระบบ M-Flow ผ่านในช่องทางที่กรมทางหลวงกำหนดให้เป็นช่องทางเฉพาะสำหรับระบบ M-Flow บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน-บางพลี ผู้ใช้รถยนต์คันดังกล่าวมีหน้าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางจำนวน 30.00 บาท ซึ่งครบกำหนดชำระเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565 แต่กรมทางหลวงยังไม่ได้รับชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางแต่อย่างใด กรณีอาจถือได้ว่าผู้ใช้รถยนต์ดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าเป็นการใช้รถยนต์บนทางหลวงพิเศษโดยเจตนาหลีกเลี่ยงไม่เสียค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นการกระทำความผิดและมีโทษทางอาญาตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. 2497 ต้องระวางโทษปรับ 10 เท่าของอัตราค่าธรรมเนียมที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นนอกจากค่าธรรมเนียมค้างชำระ ผู้ใช้รถยนต์คันดังกล่าวจะมีหน้าที่ต้องชำระค่าปรับจำนวน 10 เท่าของอัตราค่าธรรมเนียมที่กฎหมายกำหนด
กรณีท่านซึ่งเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์ทางทะเบียน ยอมรับว่าเป็นผู้ใช้รถยนต์คันดังกล่าวผ่านช่องระบบ M-Flow จริง และประสงค์จะชำระค่าธรรมเนียมค้างชำระและค่าปรับจากการหลีกเลี่ยงไม่เสียค่าธรรมเนียม 10 เท่าของอัตราค่าธรรมเนียมที่กฎหมายกำหนดดังกล่าว (ค่าธรรมเนียมค้างชำระจำนวน 30.00 บาท และค่าปรับ 10 เท่าจำนวน 300.00 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 330.00 บาท) ท่านสามารถชำระผ่านเว็บไซต์ระบบ M-Flow (www.mflowthai.com)"
อีกด้านหนึ่ง เฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์ภาพรถแท็กซี่สีส้ม ที่จอดในอู่ ตรงกับใบแจ้งหนี้ระบบ M-Flow เจ้าของโพสต์ระบุว่า "พ่อทางด่วนอัจฉริยะ M-Flow รถจอดอยู่เป็นปี อยู่ดีๆ ไปผ่าน M-Flow เฉย แบบนี้ต้องทำยังไงดีฮะ รูปหลักฐานก็ไม่มี มาเป็นตัวหนังสือ สู้ของจราจรก็ไม่ได้ ปล.แค่จะสตาร์ทยังลำบากเลยฮะ #ทางด่วนพิเศษ" ทำเอาชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยว่า รถแท็กซี่คันดังกล่าวถูกสวมทะเบียนหรือไม่ เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์สมาชิกในกลุ่มผู้ใช้ Innova ก็โดนจดหมายทวงเงินจากระบบ M-Flow ทั้งที่รถจอดอยู่ไม่ได้ไปไหนเลย
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
