ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีชิงทองคำหนัก 153 บาทจากร้านทองในห้างโลตัส โคราช ได้ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา กำลังนำตัวกลับมาที่นครราชสีมา อ้างไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ พบประวัติเคยขับรถส่งไอซ์และยาบ้าเมื่อปี 59 ก่อนพ้นโทษออกมาก่อเหตุซ้ำ
วันนี้ (15 เม.ย.) จากกรณีที่คนร้ายสวมหมวกอีโม่งดำปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวลายสีดำ ใช้อาวุธปืนสั้นบุกชิงทรัพย์ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ตั้งอยู่ภายในห้างโลตัส โคราช ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 13.16 น. ของวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ทองคำรูปพรรณ 1 ถาด รวม 51 เส้น น้ำหนักทองเส้นละ 3 บาท รวมทั้งสิ้น 153 บาท มูลค่ากว่า 4.8 ล้านบาท แล้วหลบหนีไป ต่อมาศาลจังหวัดนครราชสีมาได้อนุมัติหมายจับ นายกิตติพงษ์ แพไธสง หรือเบส อายุ 28 ปี ชาว ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในข้อหาชิงทรัพย์ ไปเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : ออกหมายจับหนุ่มชิงทองโคราช อดีตทหารเคยมีคดียา ห้างทองให้แจ้งเบาะแสจับได้มีรางวัล
คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดังโคราช กวาดทองไปมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ สภ.เมืองนครราชสีมา สามารถติดตามจับกุมตัวนายกิตติพงษ์ได้แล้วที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่มีงานทำและไม่มีเงินใช้ ขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมตัวกลับมาสอบสวนที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมติดตามทองคำรูปพรรณของกลางที่ได้จากการชิงทรัพย์ ขณะนี้สามารถติดตามทองคำคืนมาได้บางส่วนแล้วที่บ้านพักในจังหวัดนครราชสีมา
สำหรับประวัติอาชญากรรมของนายกิตติพงษ์ พบว่าเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2559 เคยถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมตามหมายจับที่ 125/2559 พร้อมพวกรวม 7 คน ได้ที่ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หลังก่อเหตุส่งมอบยาไอซ์ 11 กิโลกรัม และยาบ้า 6,000 เม็ด โดยพบว่านายกิตติพงษ์ ขับรถเก๋งนิสสันมาวางยาเสพติดส่งให้กับพวก ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ยึดของกลาง และขยายผลจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน โดยนายกิตติพงษ์ถูกแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ถูกจำคุกก่อนจะพ้นโทษออกมา กระทั่งมาก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ทองคำดังกล่าว