โดย อาจารย์เอกรัตน์ จันทร์รัฐิติกาล ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล (ฝ่ายไทย)
หากจะกล่าวถึงศิลปวัฒนธรรมจีนที่แสดงถึงความเป็นจีนในระดับสากล สิ่งหนึ่งที่คนไทยและคนทั่วโลกมีภาพจำที่แจ่มชัดมาก คือ การออกกำลังกายชนิดหนึ่ง ที่มีการวาดมือเป็นวงกลมไปมาด้วยจังหวะที่เชื่องช้า นั่นคือ วัฒนธรรมมวยไท่จี๋ (หรือที่คนไทยคุ้นเคยในการออกเสียงแบบจีนแต้จิ๋วว่า มวยไท้เก๊ก , คนตะวันตกจะเรียกว่า ไทชิ ตามการเลียนเสียงด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ)
มวยไท่จี๋มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีความสุขุมลุ่มลึกอยู่ในหลักวิชา ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจากปรัชญาอินหยางที่ว่าด้วยความสมดุลย์ของทุกสรรพสิ่งที่อิงอาศัยกัน ในสมัยโบราณเป็นการออกกำลังกายของนักพรตในลัทธิเต๋า ภายหลังมีการนำมาประยุกต์ใช้กับวิชาการป้องกันตัวจนเกิดเป็นศาสตร์วิชามวยสายอ่อนรูปแบบต่างๆ
แม้ท่ารำที่เชื่องช้าและการฝึกที่ไม่รุนแรงจะถูกตั้งคำถามมากมายจากคนจำนวนมากถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผล แต่กระนั้นองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ก็ยังขึ้นทะเบียนให้มวยไท่จี๋เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวิชามวยไท่จี๋ที่มีความสำคัญมากกว่าการนำมาถกเถียงเรื่องการต่อสู้หรือผลแพ้ชนะ
โดยเฉพาะในยุคที่โลกทุกวันนี้เรียกร้องสันติภาพ ความเป็นรัฐอารยะจึงไม่ได้วัดที่การมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่เพียงอย่างเดียว แต่หากหมายรวมถึงการมีความเป็นผู้ที่รู้จักอ่อนน้อม ยืดหยุ่น และเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม การนิ่งสงบสยบเคลื่อนไหวและการชนะโดยไม่ต้องรบ จึงเป็นหนึ่งในปรัชญาจีนที่ลุ่มลึกที่จะก่อให้เกิดสันติภาพโลกได้มากกว่า การพยายามคุกคามกันด้วยการแทรกแซงด้านเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งประวัติศาสตร์โลกล้วนสอนให้เราทราบแล้วว่า ไม่เคยมีผู้ชนะที่แท้จริงในการต่อสู้ทุกครั้ง มีแค่เจ็บมากกับเจ็บน้อยเท่านั้น
ด้วยความสำคัญของมวยไท่จี๋ ที่มีคุณประโยชน์มากกว่าการต่อสู้ ในการประชุมสองสภาที่ผ่านมา คุณโจวเจี้ยนผิง สมาชิกสภาที่ปรึกษาทางการเมือง ได้ยกประเด็นเรื่องมวยไท่จี๋ขึ้นในที่ประชุมมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ว่า ต้องการให้รัฐบาลผลักดันมวยไท่จี๋เข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ควบคู่ไปกับการผลักดันให้มีการสาธิตเชิงท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ของประเทศจีน
หากภาครัฐและภาคประชาชนของจีนเห็นชอบและตอบรับแนวคิดนี้ ต่อไปประเทศจีนก็จะมีศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่เป็นสัญลักษณ์ของชาติอยู่ในการแข่งขันโอลิมปิก เช่นเดียวกับ ญี่ปุ่น มียูโด กับ คาราเต้, เกาหลี มี เทควันโด เป็นต้น
สำหรับในประเทศไทย สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้ริเริ่มในการจัดตั้งชมรมวิทยายุทธ์จีนขึ้นมาเป็นแห่งแรกในประเทศไทย มีการนำวิทยายุทธ์จีนไปบรรจุลงในวิชาพลศึกษาให้นักศึกษาได้เรียนรู้ ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมสอนมวยไท่จี๋ให้กับโรงเรียนมัธยมในเครือข่ายทั่วประเทศไทย
โดยในช่วงตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ทางสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล ได้เชิญบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในมวยไท่จี๋ตระกูลสำคัญ คือ มวยไท่จี๋ตระกูลเฉิน และมวยไท่จี๋ตระกูลหยาง มาให้การฝึกสอนคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษาไทย และนักศึกษานานาชาติ ตลอดจนผู้ที่สนใจมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสิ้นกว่า 3,000 คน
แม้ความช้าทำให้เรารู้สึกไม่ทันความรวดเร็วของโลก แต่ก็สามารถลดผลเสียจากความเร่งรีบที่มากเกินไปได้
แม้ความอ่อนจะดูใช้ไม่ได้ในการปะทะ แต่ก็สามารถผ่อนคลายความแข็งของร่างกายและความเครียดของจิตใจได้
แม้ความสงบนิ่งจะดูไม่มีประโยชน์ แต่หากเราเห็นโทษของความวุ่นวายก็จะเข้าใจคุณค่าของความสงบนั้นได้เช่นกัน
จะเข้าใจรสชาติของสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ได้ ก็ต้องขอเชิญทุกท่านให้ลงมือฝึกดู การอ่านเพียงอย่างเดียวแล้วคิดตามก็ไม่ต่างจากการนึกถึงรสอาหารผ่านการอ่านเมนูซึ่งไม่มีวันจะเข้าใจได้อย่างแท้จริงเลย