สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management) และ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือเอสซีจีซี (SCGC) ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ร่วมจัดการแข่งขัน “SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2022 – Thailand Competition” เฟ้นหาสุดยอดทีมพัฒนาแผนธุรกิจระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Redefining the Future of Sustainable Ventures” ในวันที่ 26 - 27 มีนาคมนี้
ศาสตราจารย์ ดร. เอียน เฟนวิค ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ เปิดเผยว่า “Bangkok Business Challenge @ Sasin เป็นเวทีแข่งขันการวางแผนธุรกิจสตาร์ตอัปสำหรับนิสิตนักศึกษา ภาคภาษาอังกฤษ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 ซึ่งยาวนานที่สุดในเอเชีย โดยมุ่งหวังให้เกิดผลงานด้านการวิจัยและพัฒนาในมุมมองใหม่ ๆ พร้อมผลักดันการทำธุรกิจที่ทำให้เกิดนวัตกรรมจริง และต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้เกิดความยั่งยืน โดยในปีนี้ต้องขอขอบคุณ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือเอสซีจีซี ที่ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management) จัดการแข่งขัน SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันธุรกิจสตาร์ตอัปจากไอเดียของนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี โท และเอกทั่วโลกได้มาโชว์ฝีมือ จากความสำเร็จการแข่งขันรอบ Thailand Competition ในปีที่ผ่านมา เราเล็งเห็นศักยภาพของ นิสิต นักศึกษาไทย เป็นอย่างมาก จึงทำให้ปีนี้เราได้จัดการแข่งขันในรอบ Thailand Competition ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2”
ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรม และรองผู้จัดการใหญ่ New Business เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือเอสซีจีซี กล่าวว่า “เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือเอสซีจีซี ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมระบบนิเวศสำหรับนวัตกรรม หรือ Innovation Ecosystem ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากร ซึ่งการสนับสนุนเยาวชนในระดับอุดมศึกษาให้ก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการที่สามารถนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาธุรกิจโดยมีแนวคิดด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability ถือเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญอย่างมาก เอสซีจีซี จึงร่วมสนับสนุนการแข่งขันสตาร์ตอัปภาคภาษาอังกฤษ SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเวทีการประกวดนี้ เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ ทำให้สตาร์ตอัปที่ร่วมประกวดในประเทศไทยมีเน็ตเวิร์กกับต่างประเทศ พร้อมทั้งได้รับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายแวดวงทั้งในไทยและต่างประเทศ อาทิ ด้านธุรกิจและการตลาด การลงทุน และกิจกรรมเพื่อสังคม จึงมั่นใจได้ว่า เวทีการแข่งขันนี้จะช่วยยกระดับ Innovation Ecosystem ในประเทศไทย และเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน”
สำหรับปีนี้ยังคงแบ่งการแข่งขันออกเป็นการแข่งขันระดับประเทศ (Thailand Competition) และการแข่งขันระดับโลก (Global Competition) ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันในระดับประเทศจะผ่านเข้าสู่การแข่งขันในระดับโลก (Global Competition) พร้อมรางวัลเงินสด รวมมูลค่ากว่า 4,500 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 150,000 บาท สำหรับในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับโลก ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันจะได้รับรางวัลเกียรติคุณพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และทีมที่ชนะรางวัลพิเศษด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะได้รับรางวัลเกียรติคุณพระราชทาน H.R.H. Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Sustainability Award จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทั้งรางวัลเงินสด รวมทุกรางวัล มูลค่ากว่า 60,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2,000,000 บาท
สำหรับ 12 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสู่การแข่งขัน Thailand Competition จากผู้สมัครเข้าแข่งขันทั้งสิ้น 113 ทีมได้แก่
1.ทีม Uniclass จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์
2.ทีม IQMED จากมหาวิทยาลัยมหิดล
3.ทีม Carity จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4.ทีม Grycle จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
5.ทีม Perm จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
6.ทีม Come & Craft Company จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
7.ทีม Defire จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
8.ทีม Jernie จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
9.ทีม YaBez จากมหาวิทยาลัยปทุมธานี
10.ทีม IN-WASTE จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
11.ทีม Shrimpney จากมหาวิทยาลัยมหิดล
12.ทีม CARSUP จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำหรับผู้สนใจสามารถร่วมรับชมและเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าแข่งขันในระดับประเทศผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์ม Facebook: SCG Bangkok Business Challenge at Sasin(www.facebook.com/bangkokbusinesschallenge) ในวันที่ 26 - 27 มีนาคม 2565