โลกโซเชียลฯ แชร์คลิปเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทถูกรถบรรทุกพ่วงติดบังโคลนยักษ์ฝ่าด่านหลบหนี ทำรถกระบะพังยับ เสี่ยเจ้าของรถเคลื่อนไหวแล้ว ถามกลับตั้งด่านมีกฎหมายรองรับหรือไม่ ท่าทางลักษณะเหมาะสมหรือเปล่า พบปี 60 เคยเป็นข่าวรถบรรทุกฝ่าด่านกรมทางหลวง ก่อนชั่งน้ำหนักเกินถึง 46 ตัน
วันนี้ (17 มี.ค.) ในโลกโซเชียลฯ ได้มีการแชร์วิดีโอคลิปเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสอบน้ำหนักยานพาหนะเคลื่อนที่ กรมทางหลวงชนบท เรียกรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 53-5094 กรุงเทพมหานคร ที่เสริมบังโคลนขนาดใหญ่ซึ่งผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนนครอินทร์ ขาออกมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทพยายามเรียกให้คนขับรถบรรทุกลงมาคุย แต่คนขับรถบรรทุกไม่เปิดกระจกและไม่ลงมา ทันใดนั้นคนขับรถบรรทุกกลับเคลื่อนรถบรรทุกถอยหลังเล็กน้อย ก่อนเข้าชนรถยนต์กระบะสีเหลืองของกรมทางหลวงชนบทพังเสียหายไป 1 คัน และหลบหนีโดยมุ่งหน้าไปถนนกาญจนาภิเษก โดยมีรถยนต์กระบะสีเหลืองที่อยู่ด้านหน้าพยายามสกัดรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า นายสุวัฒน์ ขุนสวัส ชาวจังหวัดราชบุรี คนขับรถบรรทุกคันที่ก่อเหตุเข้าพบตำรวจ สภ.บางกรวย เพื่อมอบตัวแล้วเมื่อวานนี้ เจ้าตัวอ้างว่าเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทกระโดดขวางรถ ทุบรถเสียงดัง ทำให้ตนตกใจขับรถเบียดออกไป หลังเกิดเหตุได้ขับรถไปส่งดินที่ย่านสะพานพระราม 5 แต่ไม่ทันได้นำดินไปลง เจ้าของรถโทร.มาบอกว่าให้มาพบตำรวจ จึงมามอบตัว และอ้างว่าไม่ได้เสพยาเสพติด เพียงแต่ตกใจทำอะไรไม่ถูกในตอนเกิดเหตุ ตำรวจจึงแจ้งข้อหาหลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติงาน, ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย และขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
ขณะที่นายสรศักดิ์ สันธนะดิลก หัวหน้าชุดเฉพาะกิจสถานีตรวจสอบน้ำหนัก กรมทางหลวงชนบท พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ เข้าแจ้งความเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ยืนยันว่าวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่ประมาณ 10 นาย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่ามีอำนาจในการตรวจตรากวดขันน้ำหนักรถบรรทุก ตามมาตรา 23 ของ พ.ร.บ.ทางหลวง ปี 2535 ส่วนที่คนขับรถบรรทุกอ้างว่าไม่ติดตั้งสัญญาณไฟเตือนนั้น เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถตั้งด่านได้เพราะอาจทำให้รถติด จึงต้องเรียกให้รถที่คาดว่าจะกระทำผิดเข้าจอดที่ปลอดภัย เบื้องต้นรถยนต์กรมทางหลวงชนบทเสียหาย 2 คัน
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pongtorn Bumrungchai ของนายพงษ์ธร บำรุงชัย หรือเสี่ยอ้น เจ้าของบริษัท เลิศขนส่ง จำกัด ผู้ประกอบการขนส่งวัสดุก่อสร้าง โพสต์ข้อความระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นรถบรรทุกสังกัดตนเอง ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และใช้สิทธิ์ช่วยเหลือทางกฎหมายกับทีมงาน
พร้อมกันนี้ตั้งคำถามถึงกรมทางหลวงชนบท ว่า ลักษณะการตั้งด่านมีกฎหมายรองรับหรือไม่ มีหนังสือคำสั่งจากผู้บริหารระดับผู้อำนวยการรองรับก่อนออกปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ หรือพอเกิดเหตุแล้วถึงไปขอออกหนังสือย้อนหลัง เหตุใดจึงไม่ขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมตั้งด่านตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน เหตุใดจึงเรียกตรวจสอบโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งที่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่หน่วยงาน ซึ่งห่างออกไปเพียง 500 เมตร ส่วนการใช้วาจาลักษณะท่าทางเหมาะสมหรือไม่ บุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานที่ได้รับแต่งตั้งหรือไม่ และมีเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติ ออกมาควบคุมตามระเบียบวิธีปฏิบัติหรือไม่
นายพงษ์ธรยังกล่าวฝากถึงอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของชุดตรวจสอบน้ำหนักในเส้นทางถนนราชพฤกษ์ ถนนชัยพฤกษ์ ถนนนครอินทร์ ว่ามีการละเว้นหรือเลือกปฏิบัติหรือไม่ ในการหาหลักฐานนั้นคงไม่ยาก เพราะเส้นทางดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดของบริษัทห้างร้าน บ้านเรือนประชาชน รวมถึงปั๊มน้ำมันต่างๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ หากจริงใจในการตรวจสอบ
อนึ่ง สำหรับนายพงษ์ธร เคยเป็นข่าวเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2560 เมื่อรถบรรทุกสิบล้อคันหนึ่งแหกด่านตรวจน้ำหนักของกรมทางหลวง ที่ตั้งด่านบริเวณถนนสาย 346 ก่อนถึงแยกสันติสุข ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี แล้วหนีไปในไซต์งานก่อสร้าง ก่อนวิ่งหนีลงไปในทุ่งนา เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวคนขับรถบรรทุกออกมาได้
ระหว่างนำรถบรรทุกออกจากไซต์งานก่อสร้าง ปรากฏว่ามีนายพรวิชิต เฟียดชัยภูมิ ซึ่งเป็นพรรคพวกของคนขับรถบรรทุก ขับรกถระบะนิสสันชนรถยนต์ของกรมทางหลวง เพื่อสกัดไม่ให้ติดตามรถบรรทุกคันดังกล่าว แล้วมีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ป้ายแดง ชิงตัวคนขับรถบรรทุกที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีไปได้
จากนั้นมีรถบรรทุกพ่วง 2 คัน จอดปิดล้อมรถบรรทุกคันก่อเหตุเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้าย เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงจึงขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ ทันใดนั้น นายพงษ์ธร บำรุงชัย หรือเสี่ยอ้น แสดงตัวเป็นเจ้าของรถบรรทุก ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายรถ อ้างว่าไม่มีอำนาจเพราะเป็นที่ดินเอกชนไม่ใช่ถนนนทางหลวง
การเจรจาระหว่างนายพงษ์ธร หรือเสี่ยอ้น กับเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ตำรวจและทหาร ยืดเยื้อยาวนาน กระทั่งเวลา 22.30 น. ผกก.สภ.เมืองปทุมธานีได้จัดหาคนขับรถบรรทุกนำรถบรรทุกคันเกิดเหตุไปชั่งน้ำหนัก พบว่ารถบรรทุกดินมีน้ำหนักรวม 46,550 กิโลกรัม หรือกว่า 46 ตัน ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวประกอบ : หวิดบานปลายตำรวจทางหลวงไล่จับสิบล้อแหกด่าน ถูกชิงตัวคนขับหลบหนี
