xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนไปอ่านโพสต์เก่าของคุณพ่อแตงโม ระบุ "ชีวิตเรามีกัน 2 คนจริงๆ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ย้อนอ่านโพสต์ของ "คุณพ่อโสภณ" คุณพ่อของแตงโม เล่าชีวิตวัยเด็กของแตงโม ชี้ชีวิตเรามีกัน 2 คนจริงๆ หลังหย่ากับคุณแม่แตงโมตอนอายุ 3 ขวบ

กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ใหม่อีกแล้ว หลังจากที่ล่าสุด “นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน” คุณแม่ของนางเอกสาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ได้มาออกรายการ โหนกระแสของ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” พร้อมกับเผยว่าตอนนี้ตนได้เป็นผู้จัดการมรดกของลูกสาวเป็นที่เรียบร้อย และตอนนี้ก็ให้อภัย “ปอ ดนุภัทร เลิศทวีวิทย์” และ “โรเบิร์ต ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์” แบบ 100% และปอได้มาบอกว่าจะชดใช้ค่าปลงศพให้ตามที่เรียกร้อง ซึ่งตนเรียกร้องไปเบื้องต้น 30 ล้านบาท

เมื่อมีการถามว่าแม่สนิทกับแตงโมไหม ทางคุณแม่ได้ตอบกลับว่าคุณแม่สนิทกับแตงโมมาก นิสัยลูกก็เหมือนแม่ครึ่งหนึ่ง เหมือนพ่อครึ่งหนึ่ง แต่นิสัยอ่อนโยนเหมือนแม่ ที่ข่าวบอกส่วนใหญ่สนิทกับพ่อมากกว่า คือเราไม่ได้ทิ้งกันเลย แต่ความเป็นผู้หญิงเราคุยกันตลอด คุยกันเรื่องลึกๆ

อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อปี 2558 “คุณพ่อโสภณ” ได้โพสต์ข้อความเล่าถึงชีวิตที่มีกันเพียงสองคนพ่อลูกไว้ว่า

"ครอบครัวที่มีกันสองคน ที่บอกว่าครอบครัวเรามีกันเพียงสองคนเพราะได้หย่ากับคุณแม่เขาตั้งแต่น้องโมมีอายุประมาณสามขวบ หลังจากนั้นสองคนพ่อลูกก็ตระเวนอาศัยเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่บ้าง เช่าทาวน์เฮาส์หลังรามอยู่บ้างตามประสาพ่อลูกลำพังสองคน ชีวิตที่ผ่านมา ทุลักทุเลพอสมควรด้วยคนเป็นพ่อต้องออกไปทำงานตามเวลาปกติกลับบ้านเย็นบ้างค่ำบ้างแล้วแต่งานในความรับผิดชอบจะแล้วเสร็จ ซึ่งแปลว่าระหว่างวันน้องโมต้องอยู่ให้ได้ด้วยตนเอง อาศัยเพื่อนบ้านมาเป็นเพื่อนบ้าง ไม่มีใครเป็นเพื่อนบ้าง ด้วยความรักที่มีให้แก่กันเกินร้อยเราก็ผ่านวันเวลาที่ยากลำบากเหล่านั้นมาได้ด้วยดีพอสมควร ด้วยสภาพข้อเท็จจริงดังกล่าวผมมีความสามารกเลี้ยงลูกได้ดีเพียงแค่นี้ครับที่เหลือเป็นพระพรจากพระเจ้าที่ให้น้องโมแข็งแกร่งและเป็นเด็กมีความคิดดีจึงมีวันนี้ ที่เป็นแตงโม ภัทรธิดาที่ท่านทั้งหลายได้รู้จัก ก็โตจากเด็กที่ไม่เคยได้รับการถักเปียไปโรงเรียนจากคุณพ่อเพราะพ่อถักไม่เป็นจนทุกวันนี้"

"มารู้ทีหลัง ความจริงการเลี้ยงลูกที่ยังเล็กๆ อยู่โดยมีคุณพ่อเพียงคนเดียวในชีวิตเขาเป็นทุกอย่างของเขา เราจำเป็นจะต้องพูดความจริงกับเขาทุกอย่างโดยไม่มีปิดบังและต้องพยายามให้เขาเข้าใจ มีเหตุมีผลอย่างมากที่สุด การที่คุณพ่อต้องออกไปทำงานแต่เช้ากลับเย็นโดยไม่ได้อยู่กับเขาก็พยายามอธิบายให้ฟังว่าเราต้องออกไปทำงานเพื่อได้เงินเดือนมาเป็นค่าเล่าเรียนค่าขนมของเขาเป็นค่าเช่าบ้านที่ได้อาศัยอยู่กัน ซึ่งดูเหมือนเขาจะเข้าใจ เพิ่งมาทราบจากพี่เพื่อนบ้านที่แสนดีที่คอยมาเป็นเพื่อนเล่นคอยหาข้าวหาปลาให้น้องโมตอนคุณพ่อยังกลับไม่ถึงบ้านเมื่อไม่กี่ปีมานี้ว่า หลายครั้งทีเดียวในตอนเช้าที่คุณพ่อขับรถออกบ้านไปทำงาน น้องโมจะวิ่งร้องไห้ตามรถคุณพ่อไปจนถึงปากซอยต้องรีบวิ่งตามไปอุ้มกลับมาและไม่บอกให้คุณพ่อทราบเพราะกลัวจะไม่มีใจไปทำงาน เพิ่งมาเล่าให้ฟังเร็วๆ นี้ครับ...ชีวิตเรามีกันสองคนจริงๆ"








กำลังโหลดความคิดเห็น