ไทยสมายล์บัสประกาศเพิ่มเที่ยวรถสาย ปอ.7 ศึกษานารี 2-หัวลำโพง กะกลางคืน ทดแทนรถเมล์ครีมแดง ขสมก.ที่จะหยุดให้บริการคืนนี้ ตามนโยบาย 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ ด้านอดีต ส.ส. "วัชระ เพชรทอง" ร้องขอให้มีรถธรรมดาวิ่งควบคู่ต่อไป ชี้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยจ่ายแพงขึ้น 300%
วันนี้ (28 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้รถประจำทางสาย 7 คลองขวาง-หัวลำโพง แบบรถพัดลมครีม-แดง ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ทำการเดินรถเป็นวันสุดท้าย ก่อนที่จะให้บริษัท ต.มานิตย์การเดินรถ จำกัด เดินรถโดยสารสาย ปอ.7 โรงเรียนศึกษานารีวิทยา-หัวลำโพง แบบเต็มตัวตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 ตามนโยบาย 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการของกรมการขนส่งทางบก โดยบริษัท ต.มานิตย์การเดินรถ ให้บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ขสมก.ยังเดินรถประจำทางสาย 7ก พุทธมณฑลสาย 2-พาหุรัด ตามปกติ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้บริการ
ด้านบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด ประกาศจะเพิ่มเที่ยวให้บริการตั้งแต่คืนวันที่ 1 มี.ค. 2565 โดยช่วงเวลาปกติ ตั้งแต่เวลา 04.00-19.45 น. และช่วงกลางคืนตั้งแต่เวลา 20.00-03.45 น. ทั้งนี้ รถจะออกจากอู่เอกชัย จ.สมุทรสาคร รับ-ส่งผู้โดยสารโรงเรียนศึกษานารีวิทยา ถนนบางบอน 3 ซอยเพชรเกษม 69 ถนนเพชรเกษม ถนนอินทรพิทักษ์ วงเวียนใหญ่ ถนนประชาธิปก สะพานพระปกเกล้า ถนนเจริญกรุง วัดมังกรกมลาวาส วงเวียน 22 กรกฎา สิ้นสุดที่สถานีรถไฟหัวลำโพง สามารถตรวจสอบพิกัด GPS ติดตามรถได้ที่แอปพลิเคชัน TSB GO
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ส่วนนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสมพาส นิลพันธุ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ระงับการหยุดเดินรถเมล์ ขสมก.สาย 7 คลองขวาง-หัวลำโพง ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2519 ถึงปัจจุบันกว่า 46 ปี และให้เดินรถธรรมดาควบคู่กับรถปรับอากาศต่อไป เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้มีรายได้น้อยนับหมื่นคนที่จะต้องจ่ายค่ารถเมล์แพงขึ้น 300% จากเดิม 8 บาทตลอดสาย เป็น 15-20-25 บาทตามระยะทาง เป็นการบีบบังคับไม่ให้ทางเลือกแก่ประชาชน