เพจ "สติค่ะลูกกกก" โพสต์ให้ความรู้ "เสื้อชูชีพ" กับ "เสื้อพยุงตัว" อุปกรณ์สำคัญเมื่อทำกิจกรรมทางน้ำมีความแตกต่างกันอย่างไร หลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน "แตงโม นิดา" ได้พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
จากกรณี "แตงโม นิดา พัชระวีระพงษ์" นักแสดงสาว ได้พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ตในเวลากลางคืน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ร่างจมหายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางกระแสน้ำแรงไหลเชี่ยว บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ใกล้สะพานพระราม 7 เขตรอยต่อกรุงเทพฯ กับ จ.นนทบุรี ล่าสุดวันนี้ (26 ก.พ.) ยังไม่พบดาราสาวแต่อย่างใด นอกจากนี้เพื่อนๆ ดาราในวงการหลายคน ต่างช่วยกันโพสต์ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ให้ได้พบและขอให้ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เพจ "สติค่ะลูกกกก" ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้ในเรื่อง "เสื้อชูชีพ" กับ "เสื้อพยุงตัว" เป็นอุปกรณ์สำคัญเมื่อทำกิจกรรมทางน้ำ โดยอธิบายว่า "จากเคสคุณแตงโมที่ตกจากเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เราต้องมาพูดถึงวิธีป้องกันตัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเราสัญจรทางน้ำกันนะคะ ปกติเวลาที่เราจะทำกิจกรรมทางน้ำใดๆ มักจะมีเสื้อชูชีพสีต่างๆ แบบนี้แหละ ให้เราใส่ บอกว่าเป็นระเบียบ ซึ่งนั่นถูกค่ะเสื้อชูชีพสำคัญมากๆ แต่หลายคนยังเข้าใจผิดระหว่าง "เสื้อชูชีพ" กับ "เสื้อพยุงตัว" อยู่ ทำให้เวลาเกิดเหตุอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยได้ไม่มากค่ะเพราะใช้ผิดประเภท เราจะอธิบายแต่ละประเภทแล้วกันเนาะ
1. เสื้อชูชีพ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเกี่ยวกับการช่วยชีวิต ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุจมน้ำ เสื้อนี้จะลอยตัวและมันจะพลิกตัวเราให้หงายขึ้นเหนือน้ำ ไม่ว่าสภาพของน้ำจะเชี่ยวหรือไหลแรงแค่ไหน ไม่ว่าเราจะหมดสติก็ตาม #สำคัญคือแรงลอยตัวจะสูงกว่าเสื้อพยุงตัว
2. เสื้อพยุงตัว แรงลอยตัวจะน้อยกว่าเสื้อชูชีพ จะช่วยพยุงตัวให้เราลอยขึ้นในลักษณะคว่ำหน้า ดังนั้นคนที่ใช้ต้องมีสติอยู่ **สำคัญมากคือควรใส่สายรัดใต้ขาและทุกเส้นให้ครบ เพราะเสื้ออาจหลุดได้ค่ะ ส่วนมากเสื้อพยุงตัวจะใส่ในกรณีที่เล่นกีฬาทางน้ำ
ดังนั้นก่อนการใช้งานที่ใดๆ ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนนะคะ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็นที่ต้องพึ่งเสื้อชูชีพเป็นหลัก ป้องกันเหตุที่เราไม่อยากให้เกิดค่ะ"
คลิก>>อ่านโพสต์ต้นฉบับ