หลังหนุ่ม "อุ๋ย บุดด้าเบลส" เสนอ "กรมการปกครอง" เชื่อมข้อมูลบริจาคอวัยวะลงบัตรประชาชน ด้าน "กรมการปกครอง" ได้เข้าชี้แจง โดยเปิดเผยว่า ปัจจุบันสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่ได้นานแล้ว และข้อมูลของผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ ก็จะถูกนำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำ (CHIP) บนบัตรประจำตัวประชาชนทันที
จากกรณีนักร้องดัง "อุ๋ย นที เอกวิจิตร" หนึ่งในสมาชิก "บุดด้าเบลส" หลังเจ้าตัวได้มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะโดยระบุว่าอยากให้กระทรวงมหาดไทยมีการเชื่อมโยงข้อมูลเรื่องนี้ลงไปใงบนบัตรประชาชน เนื่องจากจะได้สะดวกทั้งในส่วนของผู้ต้องการบริจาครวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 ก.พ. "อุ๋ย บุดด้าเบลส" ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "Oui Buddhabless" อีกครั้ง ในประเด็นการบริจาคอวัยวะ โดยได้ระบุข้อความว่า
"เรื่องเกิดจากผมคิดเล่นๆ ว่าถ้าแจ้งความประสงค์ต้องการบริจาคอวัยวะแล้วบันทึกข้อมูลลงไปในบัตร ตอนทำบัตรประชาชนใหม่ที่เขตได้เลย คงจะดีไม่น้อย ปราดุกว่า ตึ่กโป๊ะ! ปรากฏว่ากรมการปกครอง fanpage เขาหูตาไว เลยเข้ามาให้ความกระจ่าง ตาสว่างกับผมแบบนี้ครับ
กรมการปกครองขอขอบคุณคุณอุ๋ยที่ให้ความสนใจ และให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการบริการของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองมีการเชื่อมฐานข้อมูลกับสภากาชาดไทยกันมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 มาจนถึงปัจจุบันครับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่ต้องการบริจาคอวัยวะเพื่อการปลูกถ่าย เช่น ดวงตา หัวใจ ตับ ไต ปอด และอื่นๆ โดยสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศไทย/สำนักงานเขต/เทศบาลและเมืองพัทยา หรือคนไหนที่ไปทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ สะดวกมากๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ดำเนินการในระบบให้แล้ว ข้อมูลของผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ ก็จะถูกนำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำ (CHIP) บนบัตรประจำตัวประชาชนทันที ในปัจจุบันมีผู้มาแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะฯ แล้วจำนวนกว่า 25,000 ราย
สุดท้ายนี้ กรมการปกครองขอขอบคุณทุกความคิดเห็นและถือโอกาสนี้เชิญชวนคุณอุ๋ยและพี่น้องประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมาร่วมแจ้งความประสงค์บริจาคอวัยวะฯ กันเยอะๆ นะครับ ขอบคุณมากครับ"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ