อุทยานฯ เผยภาพเสือโคร่งพิการขณะกัดกินซากควายป่า โดยคาดอาจเป็นตัวเดียวกับที่ทำร้ายชาวบ้าน และเห็นควรดักจับเสือโคร่งพิการดังกล่าวมาไว้ดูแลในสถานที่ปลอดภัย เพราะเสือโคร่งตัวพิการจะหากินจับสัตว์ป่าในธรรมชาติได้ยาก
วันนี้ (8 ก.พ.) เพจเฟซบุ๊ก "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้โพสต์ภาพเสือโคร่ง ซึ่งมีลักษณะขาพิการและมีร่างกายซูบผอม ขณะกำลังกัดกินซากควายป่าเพื่อประทังชีวิต และเพื่อความอยู่รอด ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ป่าปิล๊อกคี่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งนี้ ชาวเน็ตที่เห็นภาพดังกล่าวได้ส่งความห่วงใยไปยังเสือโคร่งตัวดังกล่าว เพราะเนื่องจากสภาพร่างกายมีความพิการอาจยากต่อการล่าสัตว์เพื่อความอยู่รอด โดยบางรายขอให้เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่เพื่อนำตัวเสือโคร่งมาดูแลช่วยเหลือให้แข็งแรง
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า จากกรณีเสือโคร่งทำร้ายชาวบ้านที่เข้าไปเลี้ยงควายป่าบริเวณลำห้วยปิล๊อก-ลำห้วยสะมะท้อ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้จัดชุดเฝ้าระวังเสือโคร่งที่อาจเข้ามาในพื้นที่เสี่ยงต่อการทำร้ายชาวบ้าน และประสานทางมูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland Foundation) ทำการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) จำนวน 20 ตัว เพื่อติดตามเสือโคร่งที่อยู่ในพื้นที่ป่าดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 4-7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
ภาพถ่ายจากกล้องตัวดังกล่าวพบเสือโคร่งจำนวน 1 ตัว มีลักษณะขาหลังด้านขวาขาดพิการใช้การไม่ได้ กำลังกินซากควายอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกันกับที่ทำร้ายชาวบ้านปิล๊อกคี่ โดยทางมูลนิธิฟรีแลนด์ และองค์กร IUCN มีความเห็นร่วมกันว่าเห็นควรดักจับเสือโคร่งตัวที่พิการน่าสงสารดังกล่าว นำมาไว้ดูแลในสถานที่ปลอดภัย เพราะเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าวจะหากินจับสัตว์ป่าในธรรมชาติได้ยาก ประกอบกับมีหมู่บ้านปิล๊อกคี่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ใกล้พื้นที่หากินของเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าวด้วย เกรงว่าในอนาคตเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าวอาจจะไม่ปลอดภัย
คลิกโพสต์ต้นฉบับ