การจัดงานเกษตรแฟร์ 65 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ผ่านไป 3 วันคึกคัก แม้ออกร้านอาหารสโมสรนิสิตน้อยกว่าปีก่อนจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่การเข้าชมงานเข้มวัคซีน 2 เข็มขึ้นไป ตรวจคัดกรองเข้มข้น และส่งเสริมการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด งานมีไปจนถึงเสาร์ที่ 5 ก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดงานเกษตรแฟร์ 65 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด "เกษตรวิถีใหม่ หลังมหันตภัยโควิด" พบว่าตลอด 3 วันที่ผ่านมาเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนผู้สนใจเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้าอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด ภายในงานแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ โซน A ตลาดน้ำนนทรี มีผู้ให้ความสนใจมากที่สุด เนื่องจากมีร้านอาหารให้เลือกซื้อรับประทานจำนวนมาก
โซน B เศรษฐกิจฐานราก, โซน C เทคโนโลยีการเกษตร, โซน D ต้นไม้และอุปกรณ์การเกษตร, โซน E คาเฟ่อินเดอะการ์เด้น, โซน F สัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ ซึ่งจะอยู่ใกล้ประตูวิภาวดีรังสิต, โซน G สินค้าเกษตรอุปโภค-บริโภค, โซน H เคยู ช้อปปิ้งมอลล์ ใกล้อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มีการจำหน่ายเนื้อหมูและไข่ไก่ราคาถูก, โซน J ร้านค้าหน่วยงานภาครัฐและแฟรนไชส์, โซน K สินค้าจากบริษัทห้างร้าน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงวิจัยนวัตกรรมของมหาวิทยาลัย การแสดงศิลปวัฒนธรรม ดนตรี นาฏศิลป์ และร่วมกับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำผู้ประกอบการภายใต้หน่วยงานของ อว. แสดงสินค้ากว่า 100 ร้านค้าในโซน BCG Market @ Kaste Fair อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มีการออกร้านอาหารสโมสรนิสิตน้อยกว่าปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เหลือเพียงแค่ร้านรวงข้าว คณะเกษตร, ร้านกาแฟ A Feel Good Things by ENVI คณะสิ่งแวดล้อม และร้านกาแฟ Sis Cafe ของวิทยาลัยบูรณาการศาสตร์เท่านั้น โดยพบว่านิสิตคณะเกษตรได้ร่วมกันออกร้านอาหารที่ชื่อว่าร้านรวงข้าว ภายในคณะเกษตร โซน K ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมนอกหลักสูตร สานสัมพันธ์ร่วมแก้ไขปัญหาประจำวัน โดยปีนี้นิสิตและรุ่นพี่ที่สมัครใจเข้าร่วมกิจกรรมจะต้องตรวจ ATK ทุกวัน หากตรวจเจอผลเป็นบวกพร้อมปิดร้านทันที รวมทั้งปรับเมนู ลดขั้นตอน ลดคน พร้อมบริการส่งอาหาร เมนูที่น่าสนใจ ได้แก่ ซี่โครงย่าง ไก่ย่างสปาไวน์ ต้มไก่ที่มีให้เลือกใส่กัญชาและไม่ใส่กัญชา เมนูส้มตำ และของรับประทานเล่นต่างๆ
ส่วนนิสิตคณะสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันออกร้านกาแฟ A Feel Good Things by ENVI บริเวณด้านข้างศูนย์เรียนรวม 1 โซน K หลังจากเว้นวรรคมา 2 ปี จำหน่ายกาแฟดริป น้ำอัดลม ม็อกเทล เปิดตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ซึ่งนิสิตที่เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อหาประสบการณ์เป็นครั้งแรกก่อนเรียนจบปีนี้ โดยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว พร้อมวางมาตรการจัดการร้านเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีร้านค้าโซนนิสิตที่สนใจออกร้านจำนวน 134 ร้านค้า มีนิสิตเข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 500 คน
ก่อนหน้านี้ ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า หลังจากเผชิญสถานการณ์โควิด-19 มานานกว่า 2 ปี มหาวิทยาลัยฯ ตั้งใจจะพัฒนาทั้งความรู้และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน จึงได้จัดงานเกษตรแฟร์ 65 ในยุคนิวนอร์มัล เพื่อฝึกนิสิตให้ทำงานเป็นทีม เป็นผู้ประกอบการ จิตอาสา และฝึกความอดทนในการทำงานจริงตลอด 9 วัน พร้อมกับช่วยเหลือสังคม ประชาชน อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการให้มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน กลับไปสู่ชุมชน และสังคม
ในปี 2563 ที่ผ่านมาการจัดงานเกษตรแฟร์มีผู้เข้าชมงานกว่า 750,000 คน สร้างรายได้ให้เกษตรกรมากถึง 4,800 ล้านบาท (ปี 2564 ไม่มีการจัดงาน) จึงคาดหวังว่างานเกษตรแฟร์จะเป็นต้นแบบการใช้ชีวิตประจำวันในวิถีใหม่ ซึ่งเราทุกคนจำเป็นต้องใช้ชีวิตเดินหน้า ทั้งการงาน อาชีพ การเรียน การทำกิจกรรม และบทบาทหน้าที่ต่างๆ ในสังคม ภายใต้สถานการณ์โควิดอย่างปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยนำเนื้อหมู วัว และไข่ไก่จำหน่ายราคาถูก รวมทั้งเปิดจุดฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยทั่วไป เพื่อช่วยประชาชนให้เข้าถึงวัคซีนได้เร็ว และปลอดภัยมากขึ้น
สำหรับการจัดงานเกษตรแฟร์ 65 เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจะมีไปจนถึงวันที่ 5 ก.พ. 2565 (วันเสาร์) โดยผู้เข้าร่วมงานต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มขึ้นไปจากแอปพลิเคชัน "หมอพร้อม" หรือผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR ไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง โดยมีจุดคัดกรอง 6 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 ประตูพหลโยธิน จุดที่ 2 ประตูงามวงศ์วาน 1 จุดที่ 3 ประตูสวนวรุณาวัณ (สำนักพิพิธภัณฑ์ฯ) จุดที่ 4 แยกโครงการหลวง จุดที่ 5 แยกสำนักการกีฬา และจุดที่ 6 แยกคณะเกษตร (อาคารวชิรานุสรณ์)
ตลอดเวลาที่เข้าชมงาน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 100% งดรับประทานอาหารหรือชิมอาหารขณะเดินชมงาน เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร เดินชมงานตามระบบเดินทางเดียว (One way) ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์ ตามจุดต่างๆ ที่ให้บริการในงาน รวมทั้งทิ้งขยะและคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบตามจุดต่างๆ ที่ให้บริการ จำนวน 20 จุดภายในงาน สำหรับร้านค้าที่ออกบูท ต้องรับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มขึ้นไป ตรวจ ATK ทุกวัน จัดแอลกอฮอล์ล้างมือสำหรับลูกค้า และเพิ่มชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดด้วยแอปพลิเคชันธนาคารแทนเงินสดเพื่อลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญ เป็นต้น
สำหรับงานเกษตรแฟร์ เดินทางสะดวกด้วยรถประจำทางผ่านถนนงามวงศ์วาน ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต และรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงที่สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์