xs
xsm
sm
md
lg

"หมอสันต์" โพสต์ข่าวดี เตรียมกู๊ดบาย "โอมิครอน" เข้าสู่ขาลงแล้ว เผยอาจจะจบในเร็วๆ นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว เผยสถานการณ์เชื้อโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนเข้าสู่ขาลงแล้ว และอาจจบเร็วเกินความคาดหมาย

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. เว็บไซต์ drsant.com ของ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว ได้โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์เชื้อโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังแพร่กระจายอยู่ในขณะนี้ เผยว่าเชื้อไวรัสกลายพันธุ์อาจจบเร็วเกินความคาดหมาย

โดยระบุข้อความไว้ว่า "โอมิครอนขึ้นหัวหาดเมืองไทยตั้งแต่ 26 พ.ย. 64 ค่อยสะสมกำลังจนเพิ่มจำนวนได้เท่าตัว (doubling time) ใน 4 วันตั้งแต่ 7 ม.ค. 65 ซึ่งผมคาดหมายตามอัตราการเพิ่มในอังกฤษและแอฟริกาใต้ว่าเมื่อถึงวันนี้ (18 ม.ค. 65) โอมิครอนจะเพิ่มได้วันละหนึ่งเท่าตัวจนเข้าแทนที่เดลตาและระบาดไปทั่วประเทศได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น นั่นคือข้อสันนิษฐานหรือการเดา

ส่วนข้อเท็จจริงล่ะเป็นอย่างไร ณ วันนี้ในด้านอัตราการเข้าแทนที่เดลตารวดเร็วนั้นสมคาดจริง คือหลายวันก่อนหน้านี้ศูนย์แล็บที่จุฬาเปิดเผยว่าผลตรวจเชื้อเป็นโอมิครอนมากกว่า 90% แล้ว และเมื่อวานนี้ศูนย์จีโนมทางการแพทย์รามาธิบดีก็เปิดเผยว่าที่ตรวจได้ตอนนี้เป็นโอมิครอน 97.1% (69/71) เดลตา 2.8% (2/71) ดังนั้นค่อนข้างแน่ว่าใน กทม.โอมิครอนได้เข้าแทนที่เดลตาเกือบหมดแล้ว ในต่างจังหวัดนั้นสถานการณ์แตกต่างกันไปตามพื้นที่ เมื่อสองวันก่อนผมเจอหน้า ผอ.ศูนย์แล็บที่มวกเหล็กท่านบอกว่าตอนนี้โอมิครอนเข้าแทนที่เดลตาได้มากกว่า 50% แล้ว ทั้งๆ ที่โอมิครอนเพิ่งมาที่นี่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้นเอง ดังนั้นภาพใหญ่คือโอมิครอนเข้าแทนที่เดลตาได้เกือบหมดแล้วใน กทม. ส่วนทั่วประเทศนั้นคงจะแทนที่ได้หมดตามมาในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามความคาดหมาย ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาฯ (นพ.ยง) ได้แสดงความเร็วของการที่โอมิครอนเข้าแทนที่เดลตาไว้เป็นกราฟที่เข้าใจง่าย ซึ่งผมขออนุญาตคัดลอกมาให้ชมตรงนี้"


แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคืออัตราการป่วย การเข้าโรงพยาบาล และอัตราตายต่อวันที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นจนถึงต้องตระเตรียมรับมือกันขึงขังนั้น เอาเข้าจริงๆอัตราป่วย เข้า รพ. และตาย กลับมีอัตราคงที่ (plateau) มาหลายวันและเริ่มลดจำนวนลงในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่โอมิครอนได้เข้าแทนที่เดลตาได้เกือบหมดแล้ว โดยผมแสดงข้อมูลของ สธ.เป็นกราฟให้ดูข้างล่างนี้


แปลไทยให้เป็นไทยจากสองกราฟนี้ก็คือว่า เรื่องโควิดโอมิครอนได้มาถึง peak และเข้าสู่ขาลงแล้วแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเลย เป็นอะไรที่พลิกความคาดหมาย แต่ก็พลิกไปในทางที่ดี ทำไมโอมิครอนไทยแลนด์ถึงได้น่ารักกว่าที่ยุโรป อเมริกา และเซาท์แอฟริกา ตอบว่าไม่มีใครรู้ ได้แต่เดาเอาแบบมั้งศาสตร์ เช่น เป็นเพราะคนไทยได้วัคซีนซิโนแวคมาก่อน..มั้ง เป็นเพราะอากาศเมืองไทยมันร้อน..มั้ง เป็นเพราะระบบควบคุมโรคของไทยเจ๋งกว่าฝรั่ง..มั้ง เป็นเพราะคนไทยมีนิสัยว่าง่ายใส่มาสก์กันหมด..มั้ง ฯลฯ เหตุผลแท้จริงเป็นอย่างไรไปภายหน้าคงจะมีหลักฐานวิทยาศาสตร์โผล่มาให้เห็นเอง ตอนนี้เอาเป็นว่าโอมิครอนไทยแลนด์กำลังจะจบแล้ว

การเดินทางท่องเที่ยวทำมาค้าขายในประเทศนั้นเดิมก็ทำกันได้อยู่แล้วและสามารถทำต่อไปได้แบบฉลุยแต่ว่าอย่าเพิ่งใจร้อนรีบเอาการ์ดลง หมายความว่าอยู่ห่าง ใส่หน้ากาก ล้างมือไว้ก่อนไม่เสียหลาย ส่วนการเดินทางและค้าขายระดับนานาชาตินั้นเราต้องรอดูเชิงของโลกทั้งใบเขาไปก่อนว่าเขาจะเอาอย่างไรกันแน่ ประเทศอย่างอังกฤษอเมริกานั้นไม่มีปัญหาคือเขาผ่านพีกการติดเชื้อแบบเขย่าประเทศไปแล้ว จบแล้วเขาต้องรีบเปิดอ้าซ่าแน่นอน แต่ประเทศอย่างจีนผมเองก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกันว่าเขาจะเอาอย่างไรกับอนาคตเพราะถึงวันนี้เขายังใช้นโยบายโควิด 0% อย่างเข้มงวดอยู่เลย ดังนั้นใครจะเดินทางท่องเที่ยวหรือค้าขายกับประเทศไหนก็ต้องดูเชิงประเทศนั้นไปแบบเดือนต่อเดือน

กู๊ดบาย..โอมิครอน กู๊ดบาย..โควิด (หวังว่า) ไม่ต้องพบกันอีกนะ


กำลังโหลดความคิดเห็น