“สุชาติ ตันเจริญ” รอง ปธ.สภาฯ พร้อม ส.ส.หลายพรรค ร่วมให้การรับรอง “เอกอัครราชทูตจีน” หารือความร่วมมือกันในหลายด้าน ยกจีนคุมโควิด-19 ได้ดี ขอบคุณบริจาควัคซีนให้ไทยหลายล้านโดส รับปากผลักดันรถไฟเร็วสูงเชื่อมต่อเส้นทางจีน-ลาว
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.65 เวลา 16.00 น. ณ บ้านพักรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 จ.นนทบุรี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ให้การรับรอง นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย, นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายไพศาล พืชมงคล เลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย - จีน, น.ส.สตีจิตร ไตรพิบูลย์สุข รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และคณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การรับรอง
ในระหว่างการหารือ นายสุชาติ ได้กล่าวชื่นชมเอกอัครราชทูตฯ ที่เพิ่งจะมารับตำแหน่งในประเทศไทยได้เพียง 5 เดือน แต่ได้เข้าพบปะบุคคลสำคัญของไทยหลายวาระ ก่อให้เกิดความร่วมมือเพิ่มขึ้นระหว่างกันในหลายด้าน และได้กล่าวชื่นชมจีนที่สามารถควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่คลี่คลาย แต่จีนก็ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี รวมทั้งขอบคุณที่จีนบริจาควัคซีนให้ไทยถึง 3.3 ล้านโดส พร้อมระบุด้วยว่า จะผลักดันให้รถไฟความเร็วสูงของไทยเชื่อมต่อกับรถไฟลาว - จีนในอนาคตอันใกล้ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นไปด้วยดี รวมไปถึงการผ่อนคลายมาตรการด้านการเดินทางที่ทำให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจสามารถเดินทางเข้าออกระหว่างทั้ง 2 ประเทศได้สะดวกขึ้น ตลอดจนการเปิดด่านศุลกากรเพิ่มเติม ทำให้สามารถขนส่งสินค้าได้มากยิ่งขึ้น
ด้าน นายหาน จื้อเฉียง กล่าวถึงมูลค่าการค้าระหว่างจีน - ไทยที่เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และด้วยสาเหตุดังกล่าวทำให้การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างทั้งสองประเทศต้องหยุดชะงักไป อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในระหว่างการหารือเพื่อกำหนดมาตรการต่าง ๆ ในการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อที่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้เช่นเดิม รวมถึงนักศึกษาไทยก็จะได้กลับไปศึกษาต่อในจีนเป็นกลุ่มแรกในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ ยังได้แจ้งให้ทราบว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จะเสด็จฯ ไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อร่วมงานพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือน ก.พ.65 ด้วย.