นายศศิน เฉลิมลาภ นักอนุรักษ์คนดัง เผยปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดชะอำ ไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง หลังมีการก่อสร้างที่ก่อปัญหาเพิ่ม และหาดทรายเหลือน้อยลงทุกปี วอนรัฐบาลหน้าหารัฐมนตรีที่มีความรู้ในด้านนี้เข้ามาแก้ไขด้วย
วันนี้ (7 ม.ค.) เฟซบุ๊ก “ศศิน เฉลิมลาภ” หรือ นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า “ที่หาดนี้เทศบาล พ่อค้าแม่ค้า เขาเห็นการกัดเซาะชายฝั่งจริงๆ แต่ไม่มีความรู้ว่าสาเหตุเพราะอะไร และไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรเพราะคลื่นทะเลก็รุกเข้ามาทุกปี
มีสามเรื่องที่มองด้วยตาไม่เห็น
1. ถนนเลียบหาดชะอำ สร้างบนเนินทรายธรรมชาติมานานหลายสิบปี มีกิจกรรมสารพัดหน้าถนนนี้ รบกวนการสะสมตัวของทรายจากลมพัดขึ้นฝั่ง และทำหน้าที่ปะทะแรงคลื่นช่วงมรสุม ให้ทรายย้อนไปเป็นหาดทรายและสันดอนทรายใต้น้ำ ก่อนที่คลื่นเดิ่งเบาๆในช่วงหลังมรสุมจะพาขึ้นมาแต่งหาดให้สวยใหม่ อันนี้แก้ยากที่สุด อาจจะต้องพึ่งการเติมทรายจากแหล่งทรายใกล้ๆมาช่วย
2. ทุกคนอยากได้หาดทรายกว้างๆ ตลอดไป เพื่อวางร่มเก้าอี้ผ้าใบ ด้านหลังก็จอดรถ ด้านหน้าก็ให้วิ่งเล่น และลงน้ำ ซึ่งตามธรรมชาติจะไม่เป็นแบบนั้นเพราะมีน้ำขึ้นน้ำลง และช่วงหาดกว้างสวยหลังมรสุมเดือน มี.ค.จนถึง ต.ค. และหาดแคบช่วงฤดูมรสุมสี่เดือน พ.ย.- ก.พ. จึงมีความพยายามถมหิน เทปูนให้พื้นที่ที่ต้องเปลี่ยนแปลง คงที่เข้าไว้ โดยคิดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อหน้าหาดที่เป็นหาดทรายกว้าง แต่ที่ไหนได้ คลื่นที่ปะทะแนวหินจะแรงยกตัวและพัดทรายหน้าหาดออกไปเรื่อยๆ หลายปี หาดก็ลึกหดแคบเรื่อยๆ ทำให้เกิดการกัดเซาะหาดทรายให้แคบลึก จนน่ากลัวว่าจะเซาะถึงที่จอดรถและถนน อันนี้ควรแก้ไขโดยการรื้อโครงสร้างแข็งพวกนี้ออกและยอมให้หาดทรายขยายหดตามธรรมชาติ เราก็ใช้หาดเท่าที่เป็นปกติ
3. ลานเอนกประสงค์ของเทศบาลสร้างยื่นไปในทะเล ให้คนไปยืนถ่ายรูป กีดขวางตะกอนและกระแสน้ำ และทำให้คลื่นปะทะเลี้ยวเบนเข้ากัดเซาะบริเวณที่สิ้นสุดลาน ทำให้ต้องถมหินป้องกัน เมื่อถมหินเริ่มต้น คลื่นจะปะทะแล้วเลี้ยวเบนกัดเซาะต่อเนื่อง และต้องถมหินไปเรื่อยๆ เรื่องนี้ผสมกับข้อสอง เลยไปกันใหญ่ ถ้ายอมรื้อให้อยู่ในแนวเส้นชายฝั่ง จะช่วยได้เยอะ
โครงการเขื่อนใหญ่ขั้นบันไดให้ม้าวิ่ง นี้เริ่มเกิดขึ้นในช่วงปี 2556-2558 ช่วงนั้นหน่วยงานต่างๆ ยังไม่มีองค์ความรู้เรื่องธรณีสัณฐานชายฝั่งกันครับ
ตอนนี้มีความรู้แล้วก็หวังว่าคนรุ่นหลังจะค่อยๆหาทางแก้ไขให้ถูกต้องในระยะต่อไปนะครับ รัฐบาลหน้ากรุณาหารัฐมนตรีที่รู้เรื่องมาแก้ไขด้วยนะ คุณบิ๊กป็อกแกไม่เชื่อใคร
คลิกโพสต์ต้นฉบับ