ชาวเน็ตโพสต์ข้อความถึง "สนามบินเบตง" ที่สร้างเสร็จมาแล้วกว่า 2 ปี แต่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้เพราะรันเวย์สั้น เครื่องบินขนาดใหญ่ไม่สามารถลงได้ เครื่องบินที่ลงได้ก็มีน้ำมันไม่พอให้บินไป-กลับ ประกอบกับสนามบินไม่มีคลังน้ำมันสำหรับเครื่องบิน โดยปัจจุบันเป็นเพียงจุดถ่ายภาพ ซึ่งทำเสียดายเงินก่อสร้างกว่า 1,900 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ถือแถน ประสพโชค" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับสนามบินเบตง จังหวัดยะลา มูลค่าการก่อสร้างสูงถึง 1,900 ล้านบาท หลังสร้างเสร็จมาแล้ว 2 ปีแต่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ จนปัจจุบันกลายเป็นเพียงแค่จุดเช็กอินถ่ายภาพเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
"เดิมสนามบินเบตงออกแบบมาเพื่อให้เครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์แบบใบพัดไปลงเท่านั้น เพราะขนาดรันเวย์เดิมที่ออกแบบมารองรับเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ไม่ได้ ทีนี้ระยะทางในการบินไปกลับดอนเมือง-เบตง เป็นระยะทางรวมกันทั้งสิ้นเป็นตัวเลขกลมๆ คือ 2,000 กว่ากิโลเมตร
แต่เครื่องบินเครื่องยนต์ใบพัดที่สายการบินมีใช้อยู่บินได้แค่ในระยะทาง 1,400 กิโลเมตร โดยเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มพิกัดและที่สนามบินเบตงไม่มีคลังน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับใช้เติมให้กับเครื่องบิน นั่นคือถ้าเครื่องบินเครื่องยนต์ใบพัดบินออกจากดอนเมืองไปลงที่เบตง ก็จะมีน้ำมันบินกลับไม่ถึงดอนเมือง ถ้าจะบินก็คือต้องไปแวะเติมน้ำมันที่หาดใหญ่ก่อน ซึ่งในทางการบินจะเป็นการเพิ่มต้นทุน
นั่นคือ แบบเครื่องบินใช้เครื่องยนต์ใบพัดที่ว่าจะให้บินไปเบตงจึงไม่มีทางทำได้ถ้าจะบินตรงไปกลับ แต่ถ้าจะเปลี่ยนแบบเครื่องบินให้ใหญ่ขึ้นมีปริมาณน้ำมันพอที่จะบินไปกลับ เครื่องก็ขึ้นลงไม่ได้เพราะรันเวย์สั้นไปสำหรับเครื่องบินขนาดใหญ่ที่พิสัยบินไกลกว่า
มันจึงยักกึกติดกักอยู่แบบนี้ ไม่นับรวมถึงการตั้งลำเครื่องบินเวลาขึ้นลงที่อาจมีปัญหาเรื่องน่านฟ้ากับมาเลเซีย คุยกับผู้ที่รู้เรื่องการบินได้ข้อมูลมาแบบนี้ นั่นคือการคิดน้อย คิดไม่ครบ สักแต่ใช้งบประมาณของรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งใช้เงินภาษีไปถึง 1,900 ล้าน แต่ตอนนี้ใช้งานตามวัตถุประสงค์ของการสร้างสนามบินไม่ได้ กลายเป็นจุดเช็กอินถ่ายภาพ 1,900 ล้านไปอย่างน่าเสียดาย เงินและเวลา 2 ปีกว่าถูกใช้ไปอย่างไม่เกิดประโยชน์"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ