ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุอาการท้องเสียของชาวจังหวัดจันทบุรี มาจาก "Norovirus Genogroup II" ชี้อันตรายต่อผู้สูงอายุ ติดจากการกิน สัมผัส เชื้ออาจจะอยู่ตามสิ่งแวดล้อม แนะล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ไม่สามารถทำลายเชื้อได้
จากกรณีที่ชาวจันทบุรีจำนวนมากเกิดอาการท้องเสียพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความกังวล และเรียกร้องให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขเร่งหาสาเหตุที่แท้จริง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจากน้ำแข็งและน้ำประปา จนล่าสุดนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรีต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจอาหาร และโรงงานน้ำแข็งนั้น
ต่อมา นายแพทย์ อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า จากการสอบถามผู้ป่วยในพื้นที่พบว่ามีอาการคล้ายอาหารเป็นพิษแต่ยังไม่พบอาการท้องเสียเป็นกลุ่มก้อน จึงยังไม่สามารถสอบสวนได้ว่าใครเป็นคนแรกที่มีอาการคล้ายอาหารเป็นพิษ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก Opass Putcharoen กล่าวถึงผลการตรวจอุจจาระของผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียระบาดใหญ่ที่จันทบุรี ว่า
"ศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิกตรวจอุจจาระของคนที่มีอาการท้องเสียระบาดใหญ่ที่จันทบุรี ผลเป็น Norovirus Genogroup II จำนวน 6 ราย จาก 8 ราย อาการคลื่นไส้อาเจียนจะเด่น ท้องเสียจะเกิดขึ้นเร็ว รุนแรงในบางราย หายเองภายในประมาณสองวัน ผู้สูงอายุอาจจะมีอาการมากและรุนแรง
โรคนี้ติดติดง่าย จำนวนเชื้อน้อยๆ ก็ทำให้เกิดอาการท้องเสียที่รุนแรงได้ ติดทางการกิน สัมผัส เชื้ออาจจะอยู่ตามสิ่งแวดล้อม แนะนำล้างมือด้วยสบู่ เชื้อฟุ้งกระจายในอากาศได้ แอลกอฮอล์ไม่สามารถทำลายเชื้อได้นะครับ ใครกลับบ้านช่วงปีใหม่แถวนั้น ก็ระวังเรื่องอาหารการกิน ล้างมือด้วยน้ำสบู่ (ดีต่อทั้งโรคท้องเสียต่อโควิด)"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ