เน็กซ์ พอยท์ เผยแผนธุรกิจปีหน้าเปิดให้บริการรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า 10 เส้นทาง ประเดิม พัทยา-สัตหีบ-ศรีราชา มินิบัส 20 ที่นั่ง มี.ค. 65 ตามมาด้วยเส้นทางระยอง และฉะเชิงเทรา อีกด้านเตรียมความพร้อมเปิดสายอีสาน อุดร-อุบล-บุรีรัมย์ และหัวหิน กับนครสวรรค์ พบก่อนหน้านี้เตรียมร่วมทุนเดินรถเมล์อีวีที่เชียงใหม่
วันนี้ (27 ธ.ค.) นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 มีแผนที่จะเปิดให้บริการรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า 10 เส้นทาง โดยใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาทเพื่อจัดทำระบบการจัดเก็บตั๋วโดยสาร และผลิตรถโดยสารให้ได้จำนวน 470 คัน โดยได้ขอใบอนุญาตเส้นทางเดินรถเรียบร้อยแล้ว
สำหรับ 10 เส้นทาง แบ่งออกเป็น 5 เส้นทางภาคตะวันออก ได้แก่ กรุงเทพฯ-พัทยา กรุงเทพฯ-สัตหีบ กรุงเทพฯ-ศรีราชา ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงเดือน มี.ค. 2565 ก่อนที่จะตามมาด้วยกรุงเทพฯ-ระยอง และกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา โดยจะใช้รถโดยสารไฟฟ้าขนาดเล็ก (มินิบัส) ขนาด 7.6 เมตร 20 ที่นั่ง จำนวน 150 คัน เส้นทางละ 30 คันให้บริการ
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมสถานที่จอดรถ และจุดจอดรับส่งผู้โดยสาร คาดว่าจะให้บริการช่วงต้นทางกำหนดไว้ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (BITEC) เพื่ออำนวยความสะดวก และเป็นทางเลือกให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีบางนา แล้วนั่งรถมินิบัสเดินทางไปยังพื้นที่ภาคตะวันออก
"เส้นทางที่ให้บริการในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ เป็นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก และมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้โดยสารที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง หรือประมาณ 80% หรือ 16 คนต่อคันต่อเที่ยว" นายคณิสสร์ระบุ
ส่วนอีก 3 เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ได้แก่ กรุงเทพฯ-อุดรธานี กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และ กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ จะใช้รถโดยสารไฟฟ้าขนาด 12 เมตรชั้นเดียว 32 ที่นั่งให้บริการ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเรื่องอู่จอดรถ จุดขึ้น-ลงผู้โดยสาร และสถานีชาร์จไฟฟ้า เนื่องจากมีระยะทางไกล และมีข้อจำกัดเรื่องสถานีชาร์จแบตเตอรี่
"ในไทยยังมีรถโดยสารไฟฟ้าให้บริการไม่มากนัก ดังนั้น ควรจะต้องมีสถานีชาร์จในระหว่างทาง ในระหว่างที่รถโดยสารเข้าจุดพักรถ ตามเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดว่า ถ้าระยะทางเกิน 400 กิโลเมตร ควรหยุดพัก 30 นาที สอดคล้องกับระยะเวลาการชาร์จรถไฟฟ้าประมาณ 30 นาที รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าโดยสารให้เป็นไปตามที่กำหนด" นายคณิสสร์ระบุ
นอกจากนี้ มีแผนจะเปิดเส้นทางภาคตะวันตก 1 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-หัวหิน และภาคเหนือ 1 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-นครสวรรค์ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเช่นเดียวกัน เชื่อว่าจะไม่มีความเสี่ยง เพราะผลกระทบจากโควิด-19 ผู้ประกอบการรถโดยสารหลายเส้นทางได้เลิกให้บริการไปหลายราย รวมทั้งสายการบินต้นทุนต่ำที่เป็นคู่แข่งได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าการให้บริการรถโดยสารจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้โดยสารได้ใช้รถโดยสารไฟฟ้าที่มีต้นทุนการดำเนินการที่ถูกกว่า เป็นพลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) มีสภาพที่ใหม่ ทันสมัย และเข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องกันโควิด-19
ก่อนหน้านี้ นายคณิสสร์เปิดเผยในงานแถลงข่าว โครงการ “Chiang Mai EV Society” ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ระบุว่า จากการหารือกับผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ มีแผนที่จะนำรถอีวี 20 ที่นั่งไปให้บริการประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ในเส้นทางเดิมที่ได้รับสัมปทานอยู่ จำนวน 40 คัน เช่น เส้นทางสนามบินเชียงใหม่-ตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นต้น
โดย เน็กซ์ พอยท์ และบริษัท ล๊อตเต้ เร็นอะคาร์ ประเทศไทย จำกัด จะสนับสนุนแผนการลงทุน คาดว่าจะสามารถส่งมอบรถอีวีล็อตแรกสำหรับนำไปให้บริการประชาชนได้ในเดือน เม.ย. 2565 จำนวน 5 คัน จากนั้นจะทยอยส่งมอบให้ครบทั้งหมดตามแผนภายในปี 2565
ก่อนหน้านี้ เน็กซ์ พอยท์ เปิดให้บริการรถโดยสารประจำทางครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2564 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยซื้อสัมปทานเดินรถมาจาก บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด ก่อนที่ภายหลังจะนำรถโดยสารไฟฟ้าจำนวน 40 คัน มาใช้วิ่งเป็นสายแรกของประเทศไทย พร้อมสร้างสถานีชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้าอยู่ในสถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2