xs
xsm
sm
md
lg

อวสาน "แท่นน้ำประปาดื่มได้" ยุคสมัยเปลี่ยนไป ชำรุดไร้การดูแล เสี่ยงแพร่เชื้อโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ : Google StreetView
ปิดตำนานแท่นน้ำประปาดื่มได้ 387 จุด กรุงเทพมหานครยื่นโนติสการประปานครหลวง ให้รื้อถอนออกให้หมด พร้อมซ่อมทางเท้าให้ด้วย เหตุชำรุดทรุดโทรม ขาดการดูแลรักษา และสถานการณ์โควิด-19 เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีก่อน ผู้ผลิตก๊อกน้ำชื่อดังเสนอติดตั้งทั่วกรุงฯ ยอมควักค่าใช้จ่าย การประปาให้ใช้น้ำฟรี หวังคนเดินถนนไม่ต้องเสียเงินซื้อห้าบาทสิบบาท แม้จะมีเสียงวิจารณ์โฆษณาแฝงก็ตาม

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ส่งหนังสือถึงการประปานครหลวง ขอความเห็นชอบยกเลิกการสนับสนุนโครงการติดตั้งแท่นน้ำประปาดื่มได้ จำนวน 400 จุด พร้อมกับหนังสือแจ้งยกเลิกการให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการดังกล่าว โดยขอให้การประปานครหลวง ดำเนินการรื้อถอนแท่นน้ำประปาดื่มได้และอุปกรณ์ประกอบ มีผลตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 2564 และจัดซ่อมพื้นที่ทางเท้ากลับคืนสู่สภาพเดิมภายใน 30 วัน โดยการประปานครหลวงเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด หากการประปานครหลวงไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด กรุงเทพมหานครจะเป็นผู้ดำเนินการรื้อถอน และเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการประปานครหลวงต่อไป

สำหรับสาเหตุการยกเลิกให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการติดตั้งแท่นน้ำประปาดื่มได้ดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันจุดติดตั้งชำรุดทรุดโทรม ขาดการดูแลรักษา ประกอบกับในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อ โดยไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ อีกทั้งทำให้เกิดการกีดขวางทางเท้าและทัศนียภาพของเมือง ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกันนี้ สำนักการจราจรและขนส่ง ได้ทำหนังสือแจ้งสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา เพื่อรับทราบการยกเลิกโครงการดังกล่าว และขอให้ สนข. ช่วยตรวจสอบการรื้อถอนแท่นน้ำประปาดื่มได้อีกทางหนึ่งด้วย ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา สำนักการจราจรและขนส่ง ได้ทำหนังสือเร่งรัดไปยังการประปานครหลวง ให้ดำเนินการรื้อถอนแท่นน้ำประปาดื่มได้ จำนวน 400 จุดโดยด่วน โดยมีระยะเวลาดำเนินการรื้อถอน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. ถึง 21 ธ.ค. 2564

อย่างไรก็ตาม นายคมกฤช ทินกร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า แท่นน้ำประปาดื่มได้และอุปกรณ์ประกอบ ทั้งหมดที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันจำนวน 387 จุด เป็นทรัพย์สินและอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่เสนอเป็นผู้ดำเนินการจัดหาและดูแลรักษาแท่นน้ำดื่มฯ ดังกล่าว ซึ่งมีการลงนามความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร กับการประปานครหลวง ตั้งแต่ปี 2547 โดยมีวัตถุประสงค์ในการคืนกำไรสู่สังคม ด้วยการมีส่วนร่วมในการดูแลความเป็นอยู่ที่ดี และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม หลังจากที่การประปานครหลวงได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักการจราจรและขนส่งแล้ว ได้มีหนังสือแจ้งให้บริษัทเอกชนดังกล่าวทราบ โดยให้ประสานงานกับสำนักการจราจรและขนส่ง เพื่อดำเนินการรื้อถอนแท่นน้ำประปาดื่มได้และอุปกรณ์ประกอบทั้งหมด

โดยเบื้องต้นได้ทำการรื้อถอนแท่นน้ำประปาดื่มได้ ในถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่สี่แยกราชประสงค์ถึงสี่แยกปทุมวันแล้ว พร้อมคืนผิวทางเท้าให้กรุงเทพมหานคร เพื่องานปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าวของสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร แต่เนื่องจากแท่นน้ำประปาดื่มได้ที่ต้องรื้อถอนมีจำนวนมาก ประกอบกับต้องมีการซ่อมผิวทางเท้าทุกแห่งหลังจากรื้อถอนด้วย จึงไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดได้ภายในระยะเวลา 30 วัน แต่การประปานครหลวงได้นิ่งนอนใจ ได้มีหนังสือแจ้งให้บริษัท จัดทำแผนงานการรื้อถอนแท่นน้ำประปาดื่มได้ดังกล่าว โดยให้ระบุเวลาแล้วเสร็จที่แน่นอน และให้เร่งประสานงานในรายละเอียดกับกรุงเทพมหานครโดยด่วน โดยยังคงเหลือแท่นน้ำประปาดื่มได้ที่รอการรื้อถอนจำนวน 380 จุด ซึ่งการประปานครหลวงจะติดตามอย่างใกล้ชิด ให้บริษัทเอกชนเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยด่วนที่สุดตามเจตจำนงของกรุงเทพมหานคร เพื่อสนับสนุนการสร้างทัศนียภาพสวยงามให้ชาวกรุงเทพมหานครและแขกผู้มาเยือนอย่างยั่งยืน

ภาพ : การประปานครหลวง
สำหรับแท่นน้ำประปาดื่มได้บนทางเท้าดังกล่าว พบว่าเป็นความร่วมมือระหว่างการประปานครหลวง กรุงเทพมหานคร และกลุ่มบริษัทจินดาสุข ผู้ผลิตก๊อกน้ำทองเหลืองซันวา เพื่อบริการน้ำดื่มที่สะอาดให้แก่ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งสามารถดื่มได้โดยตรงจากก็อก ลักษณะจะเป็นติดตั้งแท่นน้ำประปาพร้อมเครื่องทำความเย็นบนทางเดินเท้า ตัวแท่นน้ำดื่มโครงสร้างทำด้วยสเตนเลส ส่วนตัวก็อกน้ำเป็นแบบชนิดกด จำนวน 1 หัว ซึ่งน้ำจะพุ่งออกจากตัวก็อกขึ้นด้านบนในแนว 60 องศา สามารถใช้ปากรองรับน้ำที่ออกจากตัวก็อกได้โดยตรง เหนือแท่นยังมีป้ายโฆษณาขนาด 1 x 1.20 เมตร โดยเริ่มติดตั้งมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 ถึงเดือนมกราคม 2547 โดยกลุ่มบริษัทจินดาสุข สนับสนุนค่าใช้จ่าย 12 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมจัดพนักงานออกไปทำความสะอาดแท่นน้ำประปาอย่างสม่ำเสมอ ตลอดอายุการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม โครงการติดตั้งแท่นน้ำประปาดื่มได้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าแท่นดังกล่าวมีก๊อกน้ำเพียง 1 ก๊อก และเหนือแท่นยังมีป้ายโฆษณา ต่างจากของเดิมที่มีเฉพาะแท่นน้ำประปาเท่านั้น และมี 2 ก๊อก สร้างปัญหาเรื่องการรกสายตาเป็นอย่างมาก เพราะเน้นโฆษณามากกว่าบริการน้ำดื่ม ประกอบกับจุดติดตั้งแต่ละแห่งล้วนอยู่ใจกลางเมือง คนพลุกพล่าน อาทิ ป้ายรถเมล์ หน้าห้างสรรพสินค้า ทางเข้า-ออกอาคาร หน้าโรงภาพยนตร์ ทำให้ในขณะนั้น กองประชาสัมพันธ์ การประปานครหลวงชี้แจงว่า ป้ายดังกล่าวไม่ใช่ป้ายโฆษณา แต่เป็นป้ายระบุว่า น้ำดื่มสะอาดเพื่อประชาชน Drinking Tower ดูแลและบำรุงรักษาโดยซันวา เท่านั้น ซึ่งกลุ่มบริษัทจินดาสุขเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายและดูแลทำความสะอาดทั้งหมด ส่วนการประปานครหลวง อนุญาตให้ใช้น้ำฟรี และกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้ติดตั้งก๊อกน้ำบริเวณทางเดินสาธารณะ โดยคาดหวังว่าประชาชนจะได้ดื่มน้ำเย็นจากก๊อกโดยไม่ต้องเสียเงิน ช่วยประหยัดได้อย่างน้อยครั้งละ 5-10 บาท

ในอดีต กิจการประปาในยุคเริ่มต้น มีการติดตั้งก๊อกน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ที่ติดตั้งตามริมถนนหนทาง เพื่อให้คนยากจนที่ไม่มีเงินต่อน้ำประปามารองน้ำไปใช้และดื่มฟรี ภายหลังถูกยกเลิกเพราะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งเพื่อแย่งน้ำกินน้ำใช้ อีกทั้งมีคนมานั่งอาบน้ำ ซักผ้าตามริมถนน ซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่าดู จึงได้ยกเลิกไป กระทั่งการประปานครหลวงเคยติดตั้งจุดบริการน้ำประปาดื่มได้เมื่อปี 2529 ในสมัยที่นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ เป็นผู้ว่าการการประปานครหลวง กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตั้งตามสถานีขนส่ง สถานศึกษา โรงพยาบาล เพื่อให้คนที่สัญจรไปมาตามริมถนน ได้อาศัยบริโภคน้ำดื่มฟรีโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ รวมทั้งสิ้น 129 จุด แต่ในขณะนั้นมีปัญหาด้านการดูแลรักษา แท่นน้ำดื่มสกปรก มีการงัดแงะหัวก๊อกไปขาย ทำให้ส่วนใหญ่ใช้งานไม่ได้ กระทั่งมาถึงยุคแท่นน้ำประปาดื่มได้ตามทางเท้า มีทั้งหมด 387 จุด  แต่ด้วยระยะเวลาผ่านไป 17 ปี ขาดการดูแลรักษา ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กรุงเทพมหานครตัดสินใจยกเลิกโครงการในที่สุด ยังคงเหลือจุดติดตั้งน้ำประปาดื่มได้ที่การประปานครหลวงรับผิดชอบเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น