xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งชีพ” ชี้การศึกษาเป็นสิทธิพื้นฐาน ชวน “พี่ตูน” เปลี่ยนเป้าหมาย “วิ่งเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่” ให้ทุกคนมีสิทธิเสมอกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เชิญชวน “พี่ตูน” เปลี่ยนเป้าหมายจากวิ่งเพื่อทุนการศึกษาน้องๆ มาเป็นเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ให้ทุกคนมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษา

จากกรณี ตูน บอดี้สแลม ชวนทุกคนฟิตร่างกาย แล้วมาวิ่งไปด้วยกัน เพื่อหาทุนการศึกษาให้แก่น้องๆ ในโครงการ "ก้าวเพื่อน้องปีที่ 2 เวอร์ชวลรัน ๑๐๙ คำขอบพระคุณ" เป็นการสานต่อกิจกรรมวิ่ง ก้าวเพื่อน้องเวอร์ชวลรัน ในปี 2563 ซึ่งรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย ถูกนำไปใช้สนับสนุนน้องๆ ที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ยังไม่มีทุนไปต่อ ม.ปลาย หรือสายอาชีพ ได้ทั้งหมด 109 คน

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (21 ธ.ค.) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yingcheep Atchanont” เชิญชวน “พี่ตูน” เปลี่ยนมาวิ่งเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ดีกว่า เพราะรัฐธรรมนูญปัจจุบันเขียนให้เรียนเป็นสิทธิพื้นฐานอยู่แล้ว ทั้งนี้ นายยิ่งชีพได้ระบุข้อความว่า

“เห็นข่าวพี่ตูนเตรียมวิ่ง 109 กิโลเมตร เพื่อช่วยหาทุนการศึกษาให้นักเรียนที่จบ ม.3 แล้วยังไม่มีเงินเรียนต่อ ก็ "จุกอก"

นึกย้อนไปถึง #รัฐธรรมนูญของเรา และช่วงรณรงค์ประชามติปี 2559

1. รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่เขียนให้ประชาชนมีสิทธิได้รับการศึกษาฟรี แต่เขียนเป็น "หน้าที่ของรัฐ"​ ว่า รัฐต้องให้เรียนฟรี 12 ปี โดยระบุเลยว่า นับตั้งแต่ "ก่อนวัยเรียน" ไม่ใช่ตั้งแต่ ป.1 ทำให้เมื่อนับไป 12 ปี จะจบการเรียนฟรีที่ ม.3

ขณะที่ฉบับปี 2540 เขียนไว้ชัดเจนว่า บุคคลมีสิทธิเสมอกันในการรับ "การศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปี" ที่รัฐจะต้องจัดให้โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ก็กำหนดไว้ชัดเจนว่า “การศึกษาขั้นพื้นฐาน” หมายความว่า ป.1-ม.6 รัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 49 กำหนดว่า บุคคลมีสิทธิเสมอกันในการรับ "การศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปี" ที่รัฐจะต้องจัดโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 ตัดคำว่า "ขั้นพื้นฐาน" ออก เปิดช่องให้ตีความเพิ่มได้ว่า การศึกษาสิบสองปีนั้นเริ่มจากเมื่อใดถึงเมื่อใดบ้าง

มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวถึงเหตุผลของการเขียนมาตรา 54 เช่นนี้ว่า ทุกวันนี้ระบบการศึกษาไม่ทัดเทียมกัน เพราะเด็กจะพัฒนาได้ต้องอยู่ระหว่าง 2-5 ขวบ ซึ่งคนมีตังค์ได้รับการพัฒนา แต่คนจนไม่ได้รับการพัฒนา เพราะฉะนั้นพอถึงมัธยมปลายก็เสียเปรียบ สู้กันไม่ได้เพราะตอนนั้นสมองไม่พัฒนาแล้ว สิ่งที่เราทำก็คือการร่น 12 ปีลงมาข้างล่างเพื่อรองรับคนจน แล้วพอถึงมัธยมปลาย คนจนก็จะได้รับการดูแลเพราะจะมีกองทุนการศึกษาให้ ส่วนคนมีสตางค์ก็ออกสตางค์ เพราะฉะนั้นความทัดเทียมถึงจะเกิดขึ้นได้จริง

อะไรดีไม่ดีกว่ากันอาจคิดเห็นต่างกันไปได้ แต่สรุปได้ว่า มีชัยจงใจเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนการเรียนฟรีจาก ป.1-ม.6 เดิมมาเป็น อนุบาล-ม.3 ด้วยความคิดของเขา

2. เรื่องนี้เคยเป็นดีเบตใหญ่ก่อนทำประชามติ เพราะฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่ารัฐธรรมนูญนี้จะทำให้สิทธิการศึกษาฟรีหดสั้นลง ควรให้เรียนฟรีอย่างน้อยจบ ม.ปลาย หรืออาชีวะ ไม่ใช่ตัดแค่ ม.3 แล้วไปเพิ่มเรียนฟรีอนุบาล เพราะคนที่รายได้น้อยต้องการเลื่อนชนชั้นผ่านระบบการศึกษา การเรียนให้จบสูงมีความหมาย หากให้จบแค่ ม.3 ก็คือต้องเป็นชนชั้นแรงงาน ทำงานได้ค่าแรงขั้นต่ำตลอดไป

คนหนึ่งที่พูดเรื่องนี้บ่อยมาก ตอนนั้นเรียนอยู่แค่ ม.5 เลยต้องพูดแทนเด็กนักเรียน ม.ปลายตลอด และผมรู้สึกผิดมากว่า เราให้เด็กพูดเรื่องนี้ สู้เรื่องนี้แทนคนทั้งประเทศมากเกินไป คือ เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ตอนนี้อยู่ในคุก

ขณะที่บรรยากาศการทำประชามติตอนนั้น เงียบงัน ตกอยู่ในความหวาดกลัว อีกคนที่เขียนเรื่องนี้ออกมารณรงค์เป็นจริงเป็นจังผ่านตัวอักษร คือ ส.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ที่ร่างจดหมายหนึ่งหน้า มีเรื่องการตัดสิทธิเรียนฟรีถึงแค่ ม.3 ด้วย แล้วส่งจดหมายเป็นหมื่นฉบับไปให้ประชาชนในเขตภาคเหนือ แล้วก็ถูก คสช.จับ เอาตัวขึ้นศาลทหาร ไม่ได้ประกัน ต้องเข้าคุกจริงๆ 21 วัน

แล้วดอกผลของการรณรงค์ไม่ได้ในวันนั้นก็เบ่งบานออกมาในวันนี้

3. อย่างไรก็ดี คสช.กลัวเสียคะแนนเพราะการไปตัดสิทธิเรียนฟรี จึงใช้อำนาจ #ม44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 28/2559 สั่งให้ "เรียนฟรี 15 ปี"

เขียนมันสวนทางกับรัฐธรรมนูญของตัวเองไปเลยว่า ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานดําเนินการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๕ ปี ให้มีมาตรฐานและคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย

คำสั่งนี้ไม่เคยถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ และไม่ได้อยู่ในลิสต์ของประกาศที่เรารณรงค์ให้ยกเลิกด้วย ก็ไม่รู้ทำไมว่ามันไม่ถูกบังคับใช้แล้วเหรอ?? มันหายไปไหนเหรอ?? หรือมันเป็นแค่แผ่นกระดาษโกหกพกลม ที่จริงๆ แล้วนักเรียนจบ ม.3 แล้วยังไปต่อไม่ได้

ระดับพี่ตูนแล้ว ออกวิ่งเพื่อช่วยนักเรียน 109 คน ไม่น่าจะยากเกินไป น่าจะระดมทุนได้ภายในระยะเวลาไม่นาน ไม่ต้องไปช่วยกันเยอะๆ ก็คงระดมทุนได้ไม่ยาก แต่ถ้าพี่ตูนอยากจะเปลี่ยนเป็นออกวิ่งเพื่อการ #เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ก็น่าจะช่วยคนที่เข้าสู่ระบบการศึกษาในวันนี้และอนาคตได้อีกหลักล้านคน ถ้าวิ่งไปก็รับบริจาคไปด้วยก็ได้ เก็บได้เท่าไรก็ช่วยคนเท่าที่ช่วยได้เฉพาะหน้าไปก่อน แต่ถ้าตั้งเป้าหมายหลักชัย "แสงสุดท้าย" ไว้ที่การช่วยคนให้ได้ทุกคนพร้อมๆ กันอย่างไม่เลือกหน้า และยืนยันเสรีภาพของทุกคนที่จะรณรงค์คัดค้านกับความคิดของคนมีอำนาจ อันนั้นก็จะพยายามฟิตร่างกายไปวิ่งด้วยครับ”

อ่านโพสต์ต้นฉบับ
กำลังโหลดความคิดเห็น