ทุกวันนี้ หากกล่าวถึงนักธุรกิจสตรีที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตา ต้องมีชื่อของ “ไอซ์-วรรณวนัส ภัทรพงศ์สินธุ์” อยู่ในลิสต์ลำดับต้นๆ แน่นอน ที่สำคัญเธอสามารถขึ้นมายืนแถวหน้าด้วยวัยเพียงไม่ถึง 30 ปี แต่ด้วยความเป็นคนที่ใฝ่รู้ ไม่หยุดนิ่ง ขยันคิดหาไอเดียธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์และการศึกษา ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ไม่เพียงเท่านั้น ยังบินไปลงทุนด้านอสังหาฯ ไกลถึงประเทศกรีซ และธุรกิจชิปปิ้งที่สหรัฐอเมริกาก็กำลังไปได้ดี โอกาสนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับนักธุรกิจสตรีหน้าใหม่มาดเท่คนนี้ให้มากขึ้น พร้อมเจาะลึกเคล็ดลับความสำเร็จด้วยกัน
“ตอนนี้ ไอซ์ รับราชการในองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือสังคม ในศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี ซึ่งเป็นงานที่ไอซ์รัก เพราะเป็นงานที่มีคุณค่าทางจิตใจค่ะ” ไอซ์ วรรณวนัส เริ่มบทสนทนา และเล่าต่อว่า “ไอซ์โตมาในครอบครัวข้าราชการค่ะ คุณพ่อรับราชการ ส่วนคุณแม่เคยเป็นทหาร ก่อนจะหันมาทำธุรกิจเต็มตัวค่ะ”จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจของคุณแม่ เกิดขึ้นเมื่อเธออายุ 8 ขวบ ที่ต้องเผชิญหน้ากับประสบการณ์เกือบเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถคว่ำ ต้องนอนไอซียู อยู่ 2-3 คืน “เป็นช่วงที่ไอซ์อยู่กับคุณตาคุณยาย คุณแม่ออกจากราชการไปทำงานอยู่ที่ซานฟรานซิสโก พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น คุณแม่เลยทิ้งทุกอย่างบินกลับมา แล้วเริ่มต้นทำธุรกิจที่เมืองไทย”
แม้ว่างานหลักของ ไอซ์ วรรณวนัส จะรับราชการ แต่คงเพราะได้ดีเอ็นเอนักธุรกิจจากคุณแม่มาเต็มตัว เธอจึงจัดสรรเวลาจากงานประจำลุยทำธุรกิจส่วนตัวไปด้วย โดยเผยถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจลงทุนทำธุรกิจที่ประเทศจีนว่า
“ด้วยความที่ไอซ์ชอบออกไปร้านอาหาร เป็นคนชอบตระเวนกินของอร่อยๆ และชอบเรียนรู้ภาษาตลอดเวลา จึงเริ่มสังเกตเห็นว่า คนจีนเขาชอบอะไรที่เป็นไทยๆ และชอบคนไทย ไอซ์เลยเริ่มคิดว่า ถ้าเราลองมาตั้งใจทำอะไรกับคนจีนซักอย่าง น่าจะสนุก ก็ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ ค่ะ สำหรับประเภทธุรกิจที่ลงทุนที่ประเทศจีนทุกวันนี้ หลักๆ คือ ปล่อยห้องเช่า และมีค่ายมวยที่เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจด้านการศึกษา โดยมีสำนักงานอยู่ที่ เซี่ยเหมิน (Xiamen) และปักกิ่ง “ก่อนหน้าจะเกิดโควิด-19 ด้วยความที่เราลงทุนทำธุรกิจกับคนจีน จึงต้องบินไป เซี่ยงไฮ้-เซียะเหมิน-เสิ่นเจิ้น ทุก 2-3 เดือน แต่ช่วงนี้ต้องงดเดินทาง แต่ธุรกิจอสังหาฯ กับค่ายมวยที่เซี่ยงไฮ้ก็ยังไปได้เรื่อยๆ ค่ะ”
ที่ผ่านมาธุรกิจของเธอในประเทศจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เพราะเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง และไม่เคยปล่อยโอกาสดีๆ ผ่านไป นอกจากธุรกิจในประเทศจีนแล้ว เธอยังขยายการลงทุนไปไกลถึงประเทศกรีซ (Greece) อีกด้วย “ไอซ์มีลงทุนอสังหาฯ ปล่อยบ้านเช่า ที่ประเทศกรีซ (Greece) เป็นการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ชาวอเมริกัน ที่รู้จักกันที่เซี่ยงไฮ้ เราปล่อยเช่าวิลล่าบนเกาะครีต (Crete) ที่เมืองเอเลาน์ดา (Elounda) โดยใช้ชื่อว่า Bingbing มารีโนเวตใหม่ ตอนนี้ใกล้จะเสร็จแล้ว หากสถานการณ์การท่องเที่ยวคลี่คลาย ก็น่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ตอนต้นปี 2565”
เมื่อถามถึงโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่เตรียมลงทุนเพิ่มเติมหลังจากนี้ เธอบอกว่า ความที่เป็นคนไม่เคยหยุดคิด จึงมีหลายอย่างที่อยากทำ “จริงๆ ก็คิดไว้ตลอดเวลา ส่วนจะทำอะไรที่บ้านเรา ตอนนี้คิดว่ายัง เพราะไอซ์ถนัดต่างประเทศมากกว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ประเมินแล้ว หากจะลงทุนทำอะไร ไอซ์ยังมองต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องการขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อะไรในต่างประเทศ เช่น สิ่งที่เราชอบกิน หรือชอบทำ มันจะง่าย”
และนี่เอง ที่เธอตัดสินใจเปิดอีกหนึ่งไลน์ธุรกิจนั่นคือ ทำชิปปิ้ง ที่สหรัฐอเมริกา “สืบเนื่องมาจากไอซ์มีเพื่อนคนจีนที่รู้จักกันที่เซี่ยงไฮ้ แต่อยู่สหรัฐอเมริกา เขามีโกดังสินค้าที่ลอสแอนเจลิส และเราได้คุยกันว่าจะทำชิปปิ้ง ซึ่งไอซ์มีพื้นฐานด้านนี้อยู่แล้ว ประกอบกับเราประเมินแล้วว่า สถานการณ์โควิด ที่ประเทศไทยกว่าจะดีขึ้นคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ไอซ์เลยมาสานต่อธุรกิจที่ชอบ โดยทำชิปปิ้งรับขนส่งสินค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่รถยนต์หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ จำพวกวิตามิน ก็สามารถสั่งได้ หลักๆ เรา ส่งไปประเทศจีน และที่ผ่านมาก็มีส่งให้คนรู้จักที่ประเทศไทยด้วย สำหรับคนไทยใครสนใจจะสั่งนำเข้าสิ้นค้าก็สามารถใช้บริการได้ค่ะ”
ครั้นถามถึงเคล็ดลับที่ทำให้การธุรกิจประสบความสำเร็จ เธอตอบอย่างอ้อนน้อมถ่อมตน คิดว่ายังไม่ได้ถึงขั้นประสบความสำเร็จ
“อย่างที่บอกพอโควิดมา ยอมรับเลยว่า เรายังไม่ได้ประสบความสำเร็จมากอย่างที่เราตั้งใจไว้ มันคือการลองผิดลองถูก กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับไอซ์ยังคงมองว่า เงินมันไม่ใช่ทุกอย่างนะคะ แต่ความสัมพันธ์ ความจริงใจ และการมีทีมงานที่ดี เป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ สิ่งเหล่านี้จะต้องไปด้วยกัน ธุรกิจจึงจะสำเร็จค่ะ”
เมื่อถามถึงความรู้สึก ที่นักธุรกิจสตรีรุ่นใหม่ หลายคนต่างยกให้เธอเป็นไอดอล ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม และแอบเขินว่า “ต้องขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความเมตตา แต่อย่างที่บอกค่ะว่าพอเจอวิกฤติโควิด-19 ทำให้ไอซ์กลับมามองการใช้ชีวิตในแบบที่เปลี่ยนไป โควิดทำให้เราต้องหันกลับไปมองสิ่งที่เรามีรอบตัว เป้าหมายก็ยังไปไม่ถึงจุดที่ตั้งใจไว้ เราต้องขยันเพิ่มอีกหลายเท่า”
จากบุคลิก และการใช้ชีวิตที่ดูเรียบง่าย มีความสุข นั่นเป็นเพราะเธอมีปรัชญาในการมองชีวิตให้ถูกให้เป็น “บางทีเราสอนคนอื่นให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่พอทำงานมากๆ ก็มีบ้างที่เครียด จนบางทีลืมไปเลยว่า ความสุขตัวเองหายไปไหน จริงๆ แล้วก็ คือ เราต้องไม่ทุกข์ ต้องมีทัศนคติที่ดีในการมองโลก ต้องคิดบวกไว้ให้มาก เพราะจะเป็นแรงกำลังในการดำเนินชีวิต ยอมรับว่า แต่ก่อนเคยเครียดและมองอะไรเป็นลบหมด พอทำงานมากขึ้น เราโตขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น ทำให้มีมุมมองอีกแบบ ทุกข์ไปก็เท่านั้น เลือกที่จะมีความสุขดีกว่า ทุกอย่างต้องพอดี ไม่ตึง ไม่บีบคั้นตัวเองเกินไป และอย่าไปคิดร้ายใคร แม้ในวันที่ต้องเจอเรื่องร้ายๆ หรือสถานณ์เป็นลบ ก็ให้เรามองข้อดีของมัน ว่ามีอะไรที่เป็นข้อดีบ้าง ไอซ์เชื่อว่า ในเรื่องลบ มันจะมีบวกซ่อนอยู่เสมอ เราต้องสะกัดบวกออกจากลบให้ได้ ว่าเหตุการณ์นั้นสอนอะไรเรา ไม่เช่นนั้นชีวิตเราก็จะจมอยู่แต่กับความทุกข์ และอีกอย่างที่ช่วยได้ คือ การหาอะไรอ่านแล้วพัฒนาสมอง และการเพิ่มพลังงานบวกให้กับเรา ก็จะทำให้เรามีความสุขได้นะคะ”
ท้ายนี้ ไอซ์ วรรณวนัส อยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อยว่า “ไม่ต้องไปรีบอะไรมากค่ะ คนที่ประสบความสำเร็จผู้ใหญ่รอบตัวไอซ์หลายท่าน ก็เครียดกันเยอะนะคะ ใช้ชีวิตไปด้วย ทำงานไปด้วย บางคนมาใช้ชีวิตสบายตอนแก่ ก็น่าเสียดายค่ะ ควรใช้ชีวิตสบายๆ ทำทุกอย่างให้เต็มที่ในแต่ละวัน พอเราทำเต็มที่แล้ว เราจะไม่มาเสียดายทีหลังเลย แค่เราชอบทำอะไร ก็ลองทำในสิ่งที่เราชอบทำอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ และต้องเปิดใจลองทำในสิ่งที่ไม่ชอบด้วย ลองเพื่อเรียนรู้ ว่าเราได้ลองทำแล้วนะ แต่ไม่ใช่แนวของเรา อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ แล้วเราก็ตั้งใจในสิ่งที่เราชอบทำให้มีความสุข พอเราชอบทำอะไร มันก็จะไปได้ไกล แล้วเราจะมีความสุขกับสิ่งนั้นด้วยค่ะ”
เป็นข้อคิดทิ้งท้าย จากประสบการณ์ชีวิต ที่มีมุมมองความคิดเฉียบคม จากผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่สามารถสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนอีกมากมาย ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ ในสิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ใช่ได้เช่นกัน