ในสงครามญวน-ไทย ๑๔ ปีในเขมร “อานามสยามยุทธ” ไม่เพียงแต่ใช้อาวุธเข้าประหัตประหารกันเท่านั้น ยังใช้สงครามจิตวิทยาช่วงชิงความนิยมจากชาวเขมรกันด้วย ประวัติศาสตร์ได้บันทึกเกร็ดสนุกไว้เรื่องหนึ่งว่า
เมื่อองต๋ากุน มาเป็นแม่ทัพใหญ่แทนองเตียนกุนที่กินยาตาย ตอนนั้นชาวเขมรกำลังเอือมระอาที่ทั้งทหารญวนและไทยต่างเข้าไปเก็บพืชผลที่ชาวเขมรปลูกไว้เป็นอาหาร องต๋ากุนจึงต้องการจะแสดงให้ชาวเขมรเห็นว่าทหารญวนยุคใหม่นั้นโอบอ้อมอารี มีเมตตาแก่ราษฎรเขมรยิ่งกว่าทหารไทย จึงสั่งไพร่พลทั้งหลายห้ามเบียดบังเอาทรัพย์สิ่งของจากชาวเขมรเป็นเด็ดขาด แม้แต่ผักต้นเดียวก็ไม่ได้
วันหนึ่งองต๋ากุนเห็นทหารญวนถือผักมากำมือหนึ่งจึงเรียกตัวมาถาม ทหารผู้นั้นก็ตอบตามประสาซื่อว่าชาวบ้านเขาให้ องต๋ากุนถามว่าไม่รู้กฎระเบียบข้อนี้หรือ ทหารก็ตอบว่ารู้ แต่นี่ชาวบ้านเขามีน้ำใจไม่ได้ไปข่มขู่เอามา องต๋ากุนก็บอกว่ากฎไม่ได้บอกถ้าเขาให้เอาได้ จึงให้ประหารชีวิตทหารผู้นั้นตามกฎอาญาทัพ แล้วตัดหัวเสียบประจาน
สมเด็จพระอุไทยราชา เจ้าเมืองเขมร เห็นทหารญวนอดอยาก ให้อะไรก็ไม่เอา เลยจับสุนัขและจระเข้ที่มีชุกชุมอยู่ในเขมรส่งไปให้กองทัพญวน เพราะรู้ว่าเป็นของโปรด องต๋ากุนบอกว่าสุนัขและจระเข้ไม่มีเจ้าของ ให้รับไว้เป็นอาหารของกองทัพได้
ทหารญวนที่กำลังอดอยากเลยปรีเปรมกันไป นี่ถ้าท่านแม่ทัพบอกกฎข้อนี้ให้ละเอียดซะอีกหน่อย ก็คงไม่มีคนต้องโทษ ใครจะโง่ไปกินผักให้หัวขาด