ของอย่างนี้ต้องให้ผู้ใหญ่เขาสั่งเขาสอน ประวิตรเตือนสติไฮโซลูกนัท ด่า รปภ.ศาล "รถกูแพงกว่าบ้านมึงอีก" ชี้เป็นตรรกะผิดๆ วัดค่าคนด้วยวัตถุหรือเงิน ถ้าจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจริง ทุกคนต้องเสมอภาคไม่ว่ารวยหรือจน แล้วเราจะไม่เหยียด ชี้วิธีเกลือจิ้มเกลือไม่ช่วยอะไร สังคมตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ใช่สังคมในอุดมคติ ด้านลูกนัทน้อมรับขอโทษแล้วจะปรับปรุงตัว ส่วนโบว์ ณัฏฐา ถูกใจสิ่งนี้
วันนี้ (24 พ.ย.) เฟซบุ๊ก Pravit Rojanaphruk ของนายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสข่าวสด โพสต์ข้อความกล่าวถึงกรณีที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท แนวร่วมม็อบราษฎร ด่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศาล เพราะโมโหที่ถูกปิดประตูไล่ ก่อนที่ภายหลังจะอ้างว่าสั่งสอนขี้ข้าเผด็จการ ระบุว่า "กรณี "รถกูแพงกว่าบ้านมึงอีก" ผมไม่เห็นด้วยกับการด่าคนด้วยประโยคที่ตัดสินวัดค่าคนด้วยเงิน การผลิตซ้ำวาทกรรมเหยียดคนด้วยเงิน ไม่ว่ากรณีไหน การที่ลูกนัทด่า รปภ.ว่า "รถกูแพงกว่าบ้านมึงอีก" ก็เช่นกัน มันคือการผลิตซ้ำตรรกะที่วัดค่าคนด้วยวัตถุหรือเงิน
แม้ลูกนัทจะออกมาโพสต์อธิบายเมื่อคืนว่าถูกกระทำก่อน และต้องการสั่งสอนยามผู้เป็นขี้ข้าระบอบเผด็จการ รวมทั้งต้องการสั่งสอนให้ยามรู้สึกบ้างว่าระบอบนี้เป็นอย่างไร ทำนองเกลือจิ้มเกลือ หนามยอกเอาหนามบ่ง แต่ผมก็ยังเห็นว่าการต่อสู้เพื่อสังคมที่เสมอภาค และเป็นประชาธิปไตย จำต้องเกิดจากการยืนยันในหลักการว่ามนุษย์เราทุกคนเสมอภาคกัน ไม่ว่ารวยหรือจน ไม่ว่าเกิดมาจากครอบครัวแบบไหนเพราะไม่มีผู้ใดเลือกเกิดได้ การต่อสู้ทางวาทกรรมจึงสำคัญยิ่งหากเราต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง หากเราตระหนักว่าการต่อสู้เพื่อสังคมที่เสมอภาคกว่า เริ่มจากการพิจารณาตนเอง และละความคิดและวาทกรรมที่ดูถูกวัดค่ามนุษย์ด้วยเงิน เราย่อมจะไม่ผลิตซ้ำวาทกรรมเหยียดคนรูปแบบต่างๆ
ขอเตือนว่า บางครั้งการต่อต้านเผด็จการมิได้หมายความว่าคุณจะเป็นประชาธิปไตยไปโดยปริยาย บางทีคุณอาจเป็นเพียงศัตรูของเผด็จการกลุ่มหนึ่งรูปแบบหนึ่งเท่านั้น และอาจเป็นเผด็จการอีกแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
ส่วนเรื่องวิธีการหนามยอกเอาหนามบ่งนั้น หรือเกลือจิ้มเกลือนั้น ผมเห็นว่าไม่ช่วยสร้างสังคมที่เสมอภาคเช่นกัน วิธีการที่ผิดย่อมผิด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต่อต้านการมีโทษประหารชีวิต คุณก็ไม่ควรเรียกร้องให้มีการใช้โทษประหารชีวิต ไม่ว่ากับผู้ใด หรือหากคุณต่อต้านการเหยียดสีผิวหรือดูถูกชนชาติอื่น หรือต่อต้านการเหยียด LGBT คุณย่อมจะไม่ผลิตซ้ำวาทกรรมเหล่านั้นกับผู้อื่น
หากคุณไม่เห็นด้วยกับ ม112 คุณย่อมไม่เรียกร้องให้มีการใช้กับผู้ใด รวมถึงฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเพราะเหตุอะไร
สังคมตาต่อตา ฟันต่อฟัน นั้นมิใช่สังคมในอุดมคติอย่างแน่นอน ความคิดแบบถ้ามึงเลวได้กูก็เลวแบบมึงได้มิสามารถรังสรรค์สังคมที่มีหลักการเสมอภาค
สรุป หากผมเป็นลูกนัท ผมจะไปขอโทษยามคนนั้นที่ใช้คำด่าแบบวัดค่าความเป็นคนด้วยเงิน และจะโพสต์ขอโทษสาธารณะ"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ด้าน นายธนัตถ์ ได้โพสต์คอมเมนต์ระบุว่า "I appreciates this krub ขอบพระคุณพี่ที่ตักเตือนและจะนำไปปฏิบัติและปรับปรุงนะครับ" ก่อนที่นายประวิตรจะกล่าวว่า "May the light be with you. ขอให้แสงสว่างนำทางลูกนัท"
ต่อมา นายธนัตถ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Nat Thanakitamnuay โดยสรุปว่า ขออนุญาตขอโทษสังคม ที่เลือกใช้คำพูดที่ส่อถึงการเหยียดฐานะรายได้และการเงินของเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ต่อไปนี้ถ้าจะเลือกด่า จะกระทำโดยคำนึงถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ ตนรู้สึกเสียใจเช่นกันที่ทำให้มวลชนผิดหวังในคำพูดที่เลือกใช้ ถือว่าเป็นการตัดสินใจทดลองที่ผิด จึงขอรับผิด และรับผิดชอบคำพูดของตัวเองไวั ณ ที่นี้ ในโอกาสหน้าจะไปทำธุระอะไรที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จะพกกระเช้าติดไปด้วย ขอบคุณมวลชน ชาวเน็ต และสื่อมวลชน ที่ช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ และตักเตือน ทุกคอมเมนท์ ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือไม่เห็นด้วย มีผลต่อการพิจารณาตัวเองและปรับปรุง
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ขณะที่ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ อดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และนักเคลื่อนไหวการเมือง ถึงกับถูกใจคำพูดของนายประวิตร และยกคำพูดของนายประวิตรลงในเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ว่า
“บางครั้งการต่อต้านเผด็จการมิได้หมายความว่าคุณจะเป็นประชาธิปไตยไปโดยปริยาย บางครั้งคุณอาจเป็นเพียงศัตรูของเผด็จการกลุ่มหนึ่งรูปแบบหนึ่งเท่านั้น และอาจเป็นเผด็จการอีกแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม”
“สังคมตาต่อตา ฟันต่อฟัน นั้นมิใช่สังคมในอุดมคติอย่างแน่นอน ความคิดแบบถ้ามึงเลวได้กูก็เลวแบบมึงได้มิสามารถรังสรรค์สังคมที่มีหลักการเสมอภาค”
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่