xs
xsm
sm
md
lg

แอมเนสตี้โต้กระแส กลุ่มคนรักสถาบันขับไล่ อดีตรอง ผอ.ข่าวกรองจี้สอบท่อน้ำเลี้ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แฟ้มภาพ
องค์กรแอมเนสตี้ ประเทศไทย แจงหลังกลุ่มคนรักสถาบันเคลื่อนไหวขับไล่ หงายการ์ดไม่ฝักใฝ่การเมือง หลังเคลื่อนไหวเขียนจดหมายล้านฉบับกดดันปล่อยตัว "รุ้ง" คดี 112 ขณะที่อดีต ผอ.ข่าวกรองจี้มหาดไทยตรวจสอบที่มาเงินทุน ชี้ไม่มีประเทศไหนให้เอ็นจีโอเคลื่อนไหวตามอำเภอใจ เพราะอยู่ใต้กฎหมายไทย

วันนี้ (24 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊ก Amnesty International Thailand ขององค์กรแอมเนสตี้ ประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความชี้แจง หลังเกิดกระแสจากกลุ่มเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ขับไล่องค์กรดังกล่าวออกนอกประเทศ หลังแอมเนสตี้ปิดสำนักงานทั้งหมดในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังทางการฮ่องกงบังคับใช้กฎหมายโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนรวมทั้งเมื่อปีที่แล้วปิดสำนักงานอินเดีย หลังนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย เพิกถอนใบอนุญาตองค์การพัฒนาเอกชน หรือเอ็นจีโอ มากกว่า 15,000 แห่ง และระงับบัญชีธนาคาร หลังตรวจสอบพบว่ามีการรับเงินจากต่างชาติ

โดยแอมเนสตี้ ประเทศไทย ชี้แจงข้อกล่าวหาโดยสรุปว่า เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีสมาชิกกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย ทำกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ เพื่อเรียกร้องสิทธิให้แก่ผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นเวลาหลายทศวรรษ โดยเข้ามามีบทบาทในไทยจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 จากผู้สนับสนุนแอมเนสตี้ทั่วโลก ส่งจดหมายนับแสนฉบับถึงรัฐบาลไทย เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว นักศึกษาและประชาชนที่ถูกจับกุมจากการประท้วง

สำหรับที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเข้าใจผิดว่าตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกานั้น ในความเป็นจริงมีจุดกำเนิดมาจาก ปีเตอร์ เบเนนสัน ทนายความชาวอังกฤษ เขียนบทความเรียกร้องปล่อยตัวนักศึกษาชาวโปรตุเกสสองคน ที่โดนรัฐบาลจับกุมเพราะดื่มเหล้าและชนแก้วสดุดีเสรีภาพ ดังนั้นจึงทำให้สำนักงานใหญ่ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าเป็นองค์กรที่รับเงินมาจากรัฐบาลต่างประเทศนั้น เงินทุนสำหรับการจัดกิจกรรมล้วนแต่มาจากการรับบริจาคของบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจด้านสิทธิมนุษยชน และค่าสมัครสมาชิกในแต่ละปี และปฏิเสธที่จะรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล หรือแหล่งทุนอื่นๆ

หนึ่งในคำชี้แจงระบุว่า "แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นองค์กรที่รณรงค์ในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนโดยไม่ฝักใฝ่อุดมการณ์ทางการเมือง หรือลัทธิใดๆ เน้นทำงานเกี่ยวกับการรณรงค์เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม และการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนแก่ประชาชนทั่วไปเท่านั้น เนื่องจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลมีพันธกิจเพียงเพื่อให้สังคมเกิดการตระหนักถึงสิทธิมนุษยชน"

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้แจงว่า มีสมาชิกและผู้สนับสนุนกว่า 10 ล้านคน ในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และมีสำนักงานกระจายตัวอยู่กว่า 70 ประเทศ ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนมาแล้วกว่า 60 ปี เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญในการปกป้องเสรีภาพ ความยุติธรรม และสันติภาพในโลกในปี 2520 หรือล่าสุด ฆาลิด ดราเรนี นักข่าวชาวแอลจีเรียได้รับการปล่อยตัว หลังจากถูกคุมขังเพียงเพราะทำหน้าที่รายงานข่าวเมื่อปี 2563

"แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังคงทำหน้าที่เป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนให้กับบุคคลที่ถูกละเมิด เพราะเรามีความเชื่อมั่นว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมาล้วนมีความเท่าเทียม ไม่ควรมีใครถูกกดให้ต่ำลง" คำชี้แจงจาก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ระบุ

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิก

ด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "แอมเนสตี้อยู่ใต้กฎหมายไทย คนไทยที่จะไปชุมนุมกดดันให้รัฐบาลไล่แอมเนสตี้ออกไปจากเมืองไทย ผมเชียร์ เห็นด้วยและอยากให้ออกไปพ้นๆประเทศไทย

แอมเนสตี้มีสองส่วน แอมเนสตี้อินเตอร์เนชันนัล สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และปาซิฟิก จดทะเบียนกับกระทรวงแรงงาน ส่วนแอมเนสตี้ที่วุ่นวายอยู่นี้ จดทะเบียนเป็นสมาคมกับกระทรวงมหาดไทย โดยรับเงินสนับสนุนมาจากต่างประเทศ มีพนักงานคนไทยกว่า 20 คน

จะเป็นเอ็นจีโอไม่แสวงหากำไร จะมาจากประเทศไหนไม่สำคัญ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ถ้าการทำงานกระทบหรือบ่อนทำลายต่อความมั่นคง ก็ผิดกฎหมาย ต้องจัดการ ขอเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบที่มาของเงินทุน เงินดำเนินงานถูกต้องหรือไม่ การดำเนินถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่จดทะเบียนหรือไม่

เมื่อวันก่อน อินเดียจับกุมนาย Parvez ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ประสานงาน JKCCS. ปัญหาแคชเมียร์ในความยึดครองของอินเดีย ถูกจับกุมข้อหาระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนในแคชเมียร์

ไม่มีประเทศไหนยอมให้เอ็นจีโอมีเสรีภาพทำอะไรก็ได้ตามใจ ตามสั่งของเจ้าของเงินทุน อย่าหลงใหลคำว่าเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน จนประเทศฉิบหาย อย่าเห็นแก่เงินต่างชาติจนทรยศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง อย่าเห็นฝรั่งหัวแดงดีกว่าคนในชาติตนเอง"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า กลุ่มเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ออกมาขับไล่องค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล หลังจากออกมาเคลื่อนไหวให้เขียนจดหมาย 1 ล้านฉบับถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเรียกร้องกดดันให้ปล่อยตัว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม หลังถูกถอนการประกันตัวในคดีมาตรา 112 โดยที่ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การชุมนุมของ น.ส.ปนัสยาและพวก ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

โดยก่อนหน้านี้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ออกแคมเปญ "หยุดขบวนการแทรกแซงประเทศไทย ร่วมขับไล่แอมเนสตี้พ้นประเทศ" โดยให้ประชาชนที่เห็นด้วยร่วมลงชื่อผ่าน Google Forms ขณะที่ นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ออกมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของนายเสกสกล พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมามีกลุ่มเอ็นจีโอลงไปหาหมู่บ้านเสื้อแดง พร้อมกับทูตประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่จะสอบถามว่า “รักเจ้ามั๊ย” หรือ “มีกองกำลังมั๊ย” จะสู้กับเจ้าอย่างไร จะให้สนับสนุนอะไรบ้างต่างๆ นานา ซึ่งจุดยืนของตนคือ ต้องการระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น