xs
xsm
sm
md
lg

"หมอแล็บฯ" ยัน "เป็นไปไม่ได้" ฉีดวัคซีนโควิดแล้วทำให้ตั้งครรภ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"หมอแล็บแพนด้า" ยืนยันกรณีสาวโพสต์ฉีดวัคซีนโควิดทำตั้งครรภ์เป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะวัคซีนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโปรตีนที่สร้างทารก อีกทั้งไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ยืนยันว่าวัคซีนโควิดมีผลต่อยาคุมกำเนิด

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่งโพสต์ข้อความสอบถามหลังตนเองฉีดวัคซีนโควิดของ "ไฟเซอร์" ครบ 2 เข็ม พบประจำเดือดขาด 1 วัน จึงมาตรวจดู พบว่าที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด ซึ่งปกติจะกินยาคุมกำเนิด

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (21 พ.ย.) "หมอแล็บแพนด้า" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่า

"ฉีดวัคซีนแล้วท้องทั้งๆ ที่กินยาคุมฯ ส่วนใหญ่จะกังวลเรื่องวัคซีนทำให้มีลูกยากซะมากกว่า

ประเภทของวัคซีนมี 4 ชนิด
1. วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม ได้แก่ วัคซีนดีเอ็นเอ (DNA) หรือเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA)
2. วัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Recombinant viral vector vaccine)
3. วัคซีนที่ทำจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ (Protein subunit vaccine)
4. วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccine)

วัคซีนแต่ละตัวจะมีวิธีที่จะจัดการไวรัสโควิดในวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่สุดท้ายวัคซีนทุกตัวจะมีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัส ซึ่งจะไปจัดการกับตัวโปรตีนเฉพาะบางตัวที่ประกอบอยู่ในไวรัส พอพูดถึงโปรตีนก็กลัวกันว่าวัคซีนจะเข้าไปจัดการกับ “syncytin-1” ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการสร้างรก และมีส่วนช่วยในการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์

โปรตีนตัวนี้ไม่ได้เป็นส่วนประกอบของไวรัสโควิดเลยครับ การฉีดวัคซีนแล้วจะทำให้มีลูกยากจึงไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ว่าเป็นเรื่องจริง แล้วถ้ายิ่งฉีดวัคซีนจะไปส่งผลต่อยาคุม ทำให้ตั้งครรภ์ทั้งๆ ที่เราคุมกำเนิด อันนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสได้รับวัคซีนป้องกันโควิดก็ควรฉีดครับ"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ



กำลังโหลดความคิดเห็น