xs
xsm
sm
md
lg

วิจารณ์สนั่น! ม.บูรพาให้นิสิตแต่งสลับเพศรับปริญญา ตรวจจิตเวช ด้านผู้ช่วยอธิการฯ แจงสื่อสารคลาดเคลื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.พิมลพรรณ เลิศล้ำ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหารภาพลักษณ์องค์กร มหาวิทยาลัยบูรพา ชี้แจงประเด็นให้นิสิตแต่งสลับเพศรับปริญญา ตรวจจิตเวชก่อน ยันเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ต้องการให้นิสิตยืนยันตัวตนทางเพศสภาพเท่านั้น เนื่องจากมีการเลื่อนพิธีพระราชทานปริญญาบัตรนาน 2 ปี

จากกรณีในโลกโซเชียลมีการแชร์ประกาศจาก "โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา" ให้นิสิตมหาวิทยาลัยบูรพาที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2561-2562 และต้องการขอแต่งกายสลับเพศเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในปี พ.ศ. 2565 ทำนัดตรวจที่คลินิกจิตเวชของโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 1-9 พฤศจิกายน จนกลายเป็นประด็นที่ชาวเน็ตนำมาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

ต่อมา เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ดร.พิมลพรรณ เลิศล้ำ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหารภาพลักษณ์องค์กร มหาวิทยาลัยบูรพา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของ รพ.ที่โพสต์ประกาศโดยไม่ได้แจ้งมหาวิทยาลัยให้ผู้เข้ารับปริญญามาดำเนินการ ด้วยเห็นว่าสำนักพระราชวังแจ้งกำหนดการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรผู้สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา 2561-2562 เป็นวันที่ 19-21 มกราคม 2565 หลังจากเลื่อนไป 2 ปีด้วยสถานการณ์โควิด-19

แต่ข้อเท็จจริงกระบวนการแจ้งเข้ารับปริญญาของผู้สำเร็จการศึกษาปี 2561-2562 ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ที่ผ่านมายังดำเนินการอิงประกาศมหาวิทยาลัยปี 2560 ที่ต้องไป รพ. แต่เพียงขอใบรับรองแพทย์ยืนยันตัวตนทางเพศสภาพเท่านั้น ไม่ถึงต้องพบจิตแพทย์

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยกำลังจัดทำร่างประกาศใหม่สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาปี 2563 จะมีการประชุมผู้บริหารที่เกี่ยวข้องวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้เพื่อจัดทำร่างประกาศที่สมบูรณ์ ทิศทางเป็นการให้นิสิตแจ้งความประสงค์ต้องการแต่งกายสลับเพศเพื่อเข้ารับปริญญาเท่านั้น ไม่ต้องขอใบรับรองแพทย์ เนื่องจากพิธีการมีนิสิตเป็นพัน ต้องตรวจสอบชื่อบุคคลให้ถูกตัวตนเท่านั้น ไม่ได้เป็นการแบ่งแยก แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกและการรักษาความปลอดภัย

ดร.พิมลพรรณกล่าวด้วยว่า ต้องขออภัยถึงการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนจนกระทบต่อความรู้สึก ได้ตำหนิทาง รพ. และ รพ.ได้ยกเลิกประกาศดังกล่าวหลังโพสต์ไปไม่กี่ ชม.ในวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมทั้งได้ทำความเข้าใจกับคณาจารย์และนิสิตที่ไม่เห็นด้วยแล้ว ทั้งนี้มหาวิทยาลัยบูรพาให้ความสำคัญเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ Gender ซึ่งรวมถึงกลุ่มหลากหลายทางเพศด้วย

นอกจากนี้ พบว่าผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม นางสาวสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวด้วย โดยได้กล่าวว่า

ประกาศโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพาที่ออกมา หากดำเนินการจริง หรือพบเห็นสถาบันการศึกษาอื่นๆ ดำเนินการเช่นที่ว่า ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 มาตรา 3 ระบุการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ และมาตรา 17 ระบุการกำหนดนโยบาย กฎ ระเบียบ ประกาศของหน่วยงานรัฐ ที่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ จะกระทำมิได้ โดยสามารถร้องเรียนผ่านคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (วลพ.) หรือพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)


กำลังโหลดความคิดเห็น