นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตแกนนำพันธมิตรฯ โพสต์ข้อความเปิดเผยถึงอาการล่าสุดของ “อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ระบุต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง ก่อนหน้านี้อาการยังทรงตัวไม่ดีไปกว่าเดิม ระบุได้เปิดบัญชีเพื่อระดมเงินเป็นค่ารักษาพยาบาล ยังไม่รู้จะต้องอยู่ รพ.อีกนานเท่าไหร่
จากกรณีอาการป่วยของ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 71 ปี อดีต 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และอดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งถูกส่งตัวฉุกเฉินเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้วยอาการเลือดออกในสมองเมื่อคืนวันที่ 15 ต.ค. ต่อมาได้ย้ายไปรักษาต่อที่กรุงเทพฯ ด้วยวิธีการทำขดลวดเส้นเลือดในสมอง หลังพบเส้นเลือดกลางสมองโป่งพองแต่ส่วนที่แตกเลือดหยุดไหลแล้ว แพทย์เผยอาการดีขึ้นตอบสนองได้ดี ลืมตาได้ ความดันปกติ และมีจิตใจเข้มแข็งมาก ต่อมาได้เข้ารับการผ่าตัดที่สมองผ่านไปได้ด้วยดี แต่ต้องนอนดูอาการใน ICU ต่อ
ล่าสุดวันนี้ (27 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “สุริยะใส กตะศิลา” รายงานความคืบหน้าอาการของ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ โดยได้มีการระบุข้อความว่า
“รายงานอาการ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หลังการผ่าตัดที่ รพ.กรุงเทพ แล้วอาการยังคงทรงตัว อยู่ในห้องไอซียู แม้จะมีการตอบสนองอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ดีไปกว่าช่วงก่อนเข้ารับการผ่าตัดเท่าไหร่นัก และหมอบอกว่าพบเส้นเลือดด้านซ้ายมีอาการตีบขึ้นมาอีก (เคยเป็น Stroke เมื่อหลายปีก่อน) ต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด
ช่วงบ่ายวันนี้ผลการเอกซเรย์พบว่ามีหลอดเลือดตีบเป็นกระจุกๆ ไม่เป็นเยอะ มีอักเสบหลอดเลือด คือแช่ในน้ำทีแตกนาน ใช้ยาขยายเพื่อลดอาการหดตัว เกร็ง และตีบ เป็นยาตัวใหม่ที่เอาอยู่ หลังหกโมงเย็นหมอจะผ่าตัดใส่ขดลวดใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง หมอบอกไม่น่าเป็นห่วงเป็นธรรมชาติของโรคนี้
ซึ่งแน่นอนค่ารักษาพยาบาลก็ต้องเพิ่มตามไปด้วย วันนี้จึงยังเป็นเรื่องยากที่จะตอบได้ว่าอาการดีขึ้นหรือยัง? หรือเมื่อไหร่จะไปเยี่ยมได้? หรือจะออกจาก รพ.ได้เมื่อไหร่?
ผมได้คุยกับพี่หน่อย ภรรยาอาจารย์ ถึงความห่วงใยของมิตรสหายและพี่น้องพันธมิตรฯ ที่เคยต่อสู้ร่วมกันมา ถามไถ่อาการกันมาตลอดและมีความตั้งใจอยากแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลด้วย จึงได้เปิดบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล (รายละเอียดตามภาพข้างล่าง) แม้จะมีมิตรสหายผู้ใจดีรักใคร่อาจารย์อยู่แล้วในเบื้องต้นก็ตาม แต่ด้วยอาการที่ยังต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของหมออย่างใกล้ชิด ไม่รู้จะนานเท่าใด จึงจำเป็นต้องเปิดบัญชีขึ้นมา
และก็ขอบคุณพี่น้องที่ทยอยบริจาคมายังบัญชีพี่หน่อยก่อนหน้านี้ด้วยนะครับ ขอบพระคุณความห่วงใยของพี่น้องที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาแทนครอบครัวอาจารย์สมเกียรติด้วยนะครับ”
อ่านโพสต์ต้นฉบับ