เคลียร์แล้ว ตั้งแต่ 16 ต.ค. 64 คำสั่งจังหวัดภูเก็ตฉบับใหม่ ไปภูเก็ตฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต้องใช้ผลตรวจโควิด-19 งานนี้ใครจะไปเที่ยวแพกกระเป๋ารอเลย
วันนี้ (12 ต.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงนามในคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 6245/2564 เรื่อง มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) สาระสำคัญระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในห้วงเวลาที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างรัดกุมมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี รวมถึงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง จึงมีความเหมาะสมที่จะผ่อนคลายมาตรการเพื่อเร่งฟื้นฟูการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมควบคู่ไปกับมาตรการทางด้านสาธารณสุข
ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2564 จึงมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 5745/2564 ลงวันที่ 23 ก.ย. 2564 และกำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต โดยผู้เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย ทางน้ำ (ท่าเรือทุกท่า) ในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ โมเดอร์นา สปุตนิกวี ครบ 2 เข็ม หรือสูตรไขว้ครบ 2 เข็ม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือได้รับวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน
หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ ATK (Antigen Test Kit) ที่ยืนยันผลเป็นลบจากสถานพยาบาลหรือห้องปฏิบัติการ และสามารถนำชุดตรวจ ATK ที่ได้มาตรฐานการรับรองจาก อย.ไปตรวจกับสถานพยาบาลหรือห้องปฏิบัติการ หรือ รพ.สต. นำผลยืนยันเป็นลบมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ใช้ยืนยันผลได้ครั้งละไม่เกิน 7 วัน
ส่วนผู้ที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ 1. เด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ ที่เดินทางมากับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล และ 2. ผู้เดินทางมากับรถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย
กรณีนักเรียน นักศึกษาภายในจังหวัดภูเก็ต ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน อายุตั้งแต่ 12-18 ปี ในระหว่างที่รอเข้ารับการฉีดวัคซีนตามระยะเวลาที่กำหนด และมีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต ให้แสดงบัตรประจำตัวนักเรียน นักศึกษาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต โดยให้โรงพยาบาลของรัฐ หรือ รพ.สต.ในพื้นที่ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ ATK และออกใบรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้มีผลใช้ได้ครั้งละไม่เกิน 1 เดือน จนกว่าจะได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด
นอกจากนี้ ยังให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” และลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตล่วงหน้า และขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 (DMHTTA) เป็นต้น โดยคำสั่งดังกล่าวจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับความแตกต่างระหว่างคำสั่งจังหวัดภูเก็ตเดิม กับคำสั่งที่จะบังคับใช้ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ คือเดิมผู้ที่เข้าจังหวัดภูเก็ตนอกจากจะได้รับวัคซีนครบตามจำนวนที่กำหนดแล้ว ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ ATK แล้วนำผลตรวจที่ยืนยันผลเป็นลบมาแสดงที่ท่าฉัตรไชย หรือหากเดินทางโดยเครื่องบิน ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนและผลตรวจโควิด-19 ต่อพนักงานสายการบินที่สนามบินต้นทาง หากไม่มีเอกสารครบจะถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง
แต่คำสั่งฉบับใหม่ ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบตามจำนวนที่กำหนด สามารถเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตได้โดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดและเสียค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองอีก เหมือนช่วงก่อนเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เมื่อเดือน ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา
สำหรับคำสั่งฉบับใหม่ดังกล่าว ยังรองรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่รัฐบาลสนับสนุนค่าที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือต่อคืน จำนวน 2 ล้านสิทธิ และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% โดยเส้นทางภูเก็ตสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อผู้โดยสาร ซึ่งมีประชาชนส่วนหนึ่งให้ความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต แต่ยังติดขัดตรงที่แม้จะฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายตรวจโควิด-19 อีกด้วย โดยการตรวจด้วยวิธี ATK เสียค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 300-700 บาท