หมอตาเตือนภัย! พบคนไข้ถูกอุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์ไล่นกยิงตา ชี้อันตรายมากทำจุดรับภาพไหม้ (ชมคลิป)

นพ.ยิ่งพันธุ์ จักษุแพทย์ เผยเคสเตือนภัยหลังพบคนไข้รายหนึ่งซึ่งถูกอุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์ที่ไล่นกได้ยิงเข้าที่ตามีอาการมองไม่เห็น บริเวณกลางภาพเป็นสีดำ ย้ำอันตรายอย่างมาก แนะหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีแสงเลเซอร์ และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เลเซอร์แบบนี้

วันนี้ (3 ต.ค.) เฟซบุ๊ก "Yingpan Tarawatcharasart" หรือ นพ.ยิ่งพันธุ์ ธาราวัชรศาสตร์ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ได้ออกมาเผยเคสคนไข้รายหนึ่ง ซึ่งถูกอุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์ที่ไล่นกได้ยิงเข้าที่ตา โดยระบุว่า "เตือนภัยจากแสงเลเซอร์ เมื่อวานผมเจอผู้ป่วยคนหนึ่ง เป็นผู้ชายอายุ 23 ปี ใช้อุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์แบบในภาพเพื่อไล่นกที่เกาะตามบ้าน แล้วเผลอกดยิงเข้าที่ตาตัวเอง มีอาการมองไม่เห็น บริเวณกลางภาพเป็นสีดำ เมื่อตรวจดูก็พบว่ามีจุดรับภาพไหม้เป็นจุดสีขาวดังรูป

ปัจจุบันเราพบว่าอุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์มีขายทั่วไปในท้องตลาด มีหลายสี หลายความเข้มข้นแสง ส่วนมากมักใช้เป็น pointer ชี้บนจอภาพขณะบรรยาย, เอามาไล่นก, ส่วนเด็กๆ ก็ชอบซื้อมาเล่นกัน แกล้งยิงใส่กัน ยิงใส่ตากัน ส่วนสถานบันเทิงหรือคอนเสิร์ตก็ใช้เลเซอร์ในการแสดงให้ดูสวยงามน่าตื่นเต้น จักษุแพทย์พยายามเน้นย้ำเสมอว่าแสงเลเซอร์เหล่านี้มีอันตรายต่อดวงตา อาจทำให้จอประสาทตาบวม มีเลือดออก เกิดรูรั่ว หรือรอยไหม้ที่ทำให้ตามัวถาวร

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความยาวคลื่นแสง ความเข้มข้นแสง ระยะเวลาที่ได้รับแสง และตำแหน่งที่แสงเลเซอร์ยิงเข้าในดวงตา The American National Standards Institute จำแนกแสงเลเซอร์เป็น 4 ระดับ เช่น แสงสีส้มแดง ไม่เกิน 1mW เป็น class II แสงสีเขียวน้ำเงิน ไม่เกิน 5mW เป็นclass III ซึ่งแสงเลเซอร์ใน class 3 และ 4 ถือว่ามีอันตรายรุนแรงต่อดวงตาและผิวหนัง

สำหรับเคสนี้เป็นเลเซอร์สีเขียวความเข้มข้นสูง class III ทำให้เกิดจุดไหม้บริเวณกลางจุดรับภาพพอดี ทำให้ตามัวค่อนข้างมาก หากเป็นไปได้ผมแนะนำให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีแสงเลเซอร์ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เลเซอร์เหล่านี้ โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้โดยไม่ตั้งใจ และเคสแบบนี้มีจำนวนไม่น้อยเลยครับ

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. พบ มีผู้ใช้TikTok รายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวีดีโอ วิธีการใช้อุปกรณ์เลเซอร์ไล่นก โดยระบุข้อความว่า "เลเซอร์สีน้ำเงิน ไล่นกได้ ไม่ทำอันตรายตัวนก"