xs
xsm
sm
md
lg

แฉ “พิยดา” ฉลาด! ปฏิเสธทุกข้อหา ใช้เทคนิคสู้คดีโกงเด็ก 14 หลอกขายมือถือจนเครียดตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทนายดังชี้ “พิยดา” สาวสิบแปดมงกุฎหลอกขายมือถือต้นเหตุเด็ก 14 เครียดเส้นเลือดสมองแตกตาย ใช้เทคนิคสู้คดี ปฏิเสธไปก่อนทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้จ้างใครเปิดบัญชี ไม่ได้โกงใครเลย เลิกขายไปแล้ว และถ้าสืบเจอเส้นทางการเงินหงายไพ่ผิดสัญญาทางแพ่ง ตราบใดตำรวจไม่ทำงานเชิงรุกก็ต้องเจอมิจฉาชีพหัวหมอแบบนี้

วันนี้ (29 ก.ย.) จากกรณีที่ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทนายความส่วนตัว เข้ามอบตัวสู้คดีที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ในกรณีที่ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายเป็นเด็กชายวัย 14 ปี จำหน่ายโทรศัพท์มือถือในราคา 5,000 บาท แล้วไม่ส่งของตามที่ตกลง เป็นเหตุทำให้เด็กชายคนดังกล่าวมีอาการเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต และยังพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ได้เป็นคนกระทำผิด ไม่เคยคุยและไม่เคยหลอกเด็ก รวมทั้งไม่รู้จักกับผู้ต้องหาเป็นหญิง 2 คนที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และไม่ได้จ้างให้เปิดบัญชีด้วย แต่ยอมรับว่าเป็นแม่ค้าออนไลน์ เคยขายโทรศัพท์มือสองมาก่อน แต่หยุดขายไปแล้วตั้งแต่ปีก่อน ทรัพย์สินทุกอย่างได้มาจากการขายออนไลน์ทั้งนั้น

เฟซบุ๊ก “ทนายคู่ใจ” ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ตั้งข้อสังเกตระบุว่า “วิเคราะห์ 5 ข้อต่อสู้คดีโกงไอโฟนของ “พิยดา กับคำให้การปฏิเสธ” จากกรณีที่นักเรียนสั่งซื้อไอโฟนแล้วโดนโกงจนเส้นเลือดแตก เสียชีวิต ล่าสุดผู้ที่คาดว่าเป็นตัวการใหญ่ได้เข้ามามอบตัวต่อตำรวจ แต่เบื้องต้นให้การปฏิเสธ เรามาวิเคราะห์กันหน่อยดีกว่าว่าสาเหตุที่นางให้การปฏิเสธ มีจุดประสงค์ หรือเหตุผลอย่างไรกันแน่

1. ปฏิเสธไปก่อนทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา เป็นสิทธิผู้ต้องหา หรือจำเลยอยู่แล้วที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหา หากพยานหลักฐานไม่ได้จะแจ้ง หรือจำนนต่อหลักฐาน ก็เป็นเทคนิคการต่อสู้คดี

2. อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่รู้จักกับผู้เสียหายเลย เป็นการปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนร่วมกับการกระทำความผิด ไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้อง

3. ไม่ได้จ้างใครเปิดบัญชี ปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับเจ้าของบัญชีเลย จุดประสงค์คือลองเชิงตำรวจว่าจะสืบถึงความเชื่อมโยงของเส้นทางการเงินได้หรือไม่

4. ไม่ได้โกงใครเลย เลิกขายไปแล้ว ประเด็นนี้ให้การว่าไม่ได้รับเงินมาเลย ไม่ได้มีนิติสัมพันธ์กับทางผู้เสียหายเลยเหมือนกัน

5. ผิดสัญญาทางแพ่ง ท่าไม้ตายในกรณีที่สืบเจอเส้นทางการเงิน อาจหงายไพ่ว่า เป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง รับเงินมาจริง แต่เป็นเรื่องที่ส่งมอบของล่าช้า ท้ายสุดก็ให้ศาลตัดสินเอา

เหล่านี้เป็นข้อต่อสู้ที่เป็นมาตรฐานของเหล่ามิจฉาชีพคดีฉ้อโกง ตราบใดที่ไม่มีการจับกุม หรือการทำงานเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะมีมิจฉาชีพหัวหมอพวกนี้ออกมาอาละวาดครับ

อย่าลืมว่าโจรมันรู้กฎหมาย ยิ่งกว่าสุจริตชนเสียอีก”


กำลังโหลดความคิดเห็น