วันนี้ (13 ก.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า วันนี้ตนได้อ่านข่าวเป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าสะเทือนใจมาก กรณีมีนักเรียนหญิงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผันตัวเองมาเป็นโจรปล้นร้านทอง เนื่องจากไปลงทุนในแชร์ออนไลน์ ปรากฏว่า ถูกหลอกลวง เรื่องนี้ตนเคยพูดหลายครั้ง ว่า ปัญหาการฉ้อโกงประชาชนในประเทศไทยนั้น ต้องมีการแก้กฎหมาย และต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เพราะวันนี้รูปแบบอาชญากรรมเปลี่ยนไปแล้ว อาชญากรรมในรูปแบบออนไลน์มีมากมาย
วันนี้แชร์ออนไลน์มีเป็นหมื่นๆ บ้าน โพสต์กันเกลื่อน มีคนเข้าไปอยู่ในวงจรนี้เป็นล้านๆ คน ยังไม่มีหน่วยงานรัฐเข้าไปดำเนินคดีจับกุมและป้องกันก่อน แต่พอผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนแล้ว กว่าจะแจ้งความก็ยากเนื่องจากเหตุเกิดในโลกออนไลน์ พื้นที่ต่อเนื่องกัน มีการทำธุรกรรมกันทางมือถือทำให้เกิดเหตุทั่วประเทศ จึงไม่มีเจ้าภาพในการดำเนินคดี คดีเหล่านี้จึงเป็นปัญหาใหญ่ กระบวนการพิจารณาคดีแชร์ลูกใช้เวลายาวนานบางคดีหลายปี ในอดีตเคยยาวนานถึง 20 ปี อย่างคดีแชร์บลิสเชอร์
ตรงนี้เป็นข้อเท็จจริงให้ประจักษ์แล้วว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สิ่งที่ผู้เสียหายทุกคนอยากได้คืนที่สุดคือเงินทองที่ถูกฉ้อโกง ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ประชาชนพลเมืองคนไทยนั้น ต้องได้รับการคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่พอถูกฉ้อโกงไปแล้วรัฐยึดทรัพย์ไปกว่าจะคืนได้ใช้เวลายาวนาน ตรงนี้คือความไม่เป็นธรรม เราพูดกันตลอดว่าความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมคือความไม่เป็นธรรม ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้คนไทยต้องไม่ถูกโกงนั่นคือสาระสำคัญที่สุด
นายสามารถ กล่าวต่อว่า สมัยตอนตนเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ได้ผลักดันกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามแชร์ลูกโซ่ ร่วมกับหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่กับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้มีการผลักดันกฎหมายเข้าสู่สภา แต่เนื่องด้วยเป็นร่างการเงินต้องให้นายกฯพิจารณา ตอนนี้เองไม่มีการดำเนินการต่อเพราะร่างการเงิน นายกฯไม่รับรองจึงทำให้ร่างตกไป และทุกวันนี้ยังขาดการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีเหยื่อมากขึ้นทุกวัน ตนคิดว่าถ้ายังปล่อยไว้ก็จะมีอาชญากรที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ จะมีคนถูกหลอกที่อายุน้อยลงจนถึงอายุมากขึ้น
เราเห็นกันมาหมดแล้วจะทำอย่างไรให้คนเหล่านั้นไม่ไปหลอกคนอื่น คือ การให้เขาเหล่านั้นเข้าถึงความยุติธรรม ในประเทศจีนมีหน่วยงานมอนิเตอร์ลิ่งดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ และรีบยึดทรีพย์คืนให้กับผู้เสียหาบจึงทำให้อาชญกรไม่เข้ามาอยู่ในวงจรนี้ อย่าลืมว่าสมัยก่อนนั้นจะเอาเงินคนอื่นต้องไปซื้อปืน ปล้นธนาคาร ปล้นร้านทอง แต่เห็นไหมว่าการปล้นธนาคาร ปล้นร้านทองนั้นถูกจับได้ทันที เงินที่ปล้นธนาคารก็คืนให้กับธนาคารเลยทันที ทองที่ถูกปล้นจากร้านทองก็ถูกคืนให้ร้ายทองเลยทันที แต่พอถูกฉ้อโกงในรูปแบบออนไลน์นั้น เงินไม่สามารถคืนให้กับผู้เสียหายได้ทันที ต้องเข้าสู่กระบวนการชั้นศาลนั่นคือสิ่งที่ไม่เป็นธรรมกับกระบวนการยุติธรรม ถึงเวลาแล้วที่นายกฯต้องสั่งการในเรื่องนี้ เพราะเคยแถลงนโยบายเรื่องนี้ไว้กับรัฐสภา ว่า การแก้ปัญหาการฉ้อโกงประชาชนนั้นเป็น 1 ใน 12 เรื่องด่วนของรัฐบาลที่ต้องทำภายใน 1 ปี