ผู้ปกครองโวยโรงเรียนให้ไปรับเงินสดเยียวยานักเรียน 2,000 บาทด้วยตัวเอง เสี่ยงโควิด แทนที่จะโอนเงินง่ายๆ พบความจริงทำไม่ได้ เหตุโรงเรียนต้องสมัครบริการธุรกิจ เสียค่าธรรมเนียมนับหมื่นบาท แล้วใช้เงินอุดหนุนไม่ได้ ถ้าทำผ่านเคาน์เตอร์เป็นร้อยรายการไม่ทำให้แน่นอน ส่วนการให้ครูโอนไปยังผู้ปกครองผิดระเบียบ
วันนี้ (6 ก.ย.) จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ Drama-addict เปิดประเด็นที่มีผู้ปกครองโรงเรียนรัฐบางแห่งแจ้งมาว่าทางโรงเรียนจ่ายเงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาทตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ปกครองก็ให้เลขบัญชีไปแล้ว แต่แจ้งให้ผู้ปกครองไปรับเงินด้วยตัวเอง ไม่โอนเข้าบัญชีธนาคาร ผู้ปกครองที่อยู่โรงเรียนในพื้นที่สีแดงเข้มฝากมาบอกว่าแบบนี้จะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยไม่จำเป็นหรือไม่ แทนที่จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารง่ายๆ
ปรากฏว่าได้มีความเห็นจากบุคลากรทางการศึกษาที่หลากหลาย โดยสรุปก็คือ แม้ครูอยากจะโอนเงินให้ผู้ปกครองตามนโยบาย แต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เพราะขัดต่อระเบียบทางการเงิน เนื่องจากเงินเยียวยานักเรียน กระทรวงศึกษาธิการโอนให้กับบัญชีของโรงเรียน ซึ่งเป็นนิติบุคคล หากโอนเข้าบัญชีครูแล้วให้ครูโอนไปยังบัญชีผู้ปกครองก็ไม่นับเป็นหลักฐานการโอนได้ เนื่องจากหลักฐานการโอนต้องเป็นสลิป หรือรายการเดินบัญชีที่ออกจากบัญชีโรงเรียนถึงบัญชีผู้ปกครอง และมีตราประทับจากธนาคารเท่านั้น
ขณะที่บัญชีของโรงเรียน การทำธุรกรรมต่างๆ ต้องไปทำที่สาขาของธนาคาร หากทำรายการนับร้อยรายการ แต่ละจังหวัดมีนับร้อยโรงเรียน ธนาคารไม่ทำให้แน่นอน เพราะเสียเวลาลูกค้าคนอื่นมาก อีกทั้งการโอนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ธนาคารแจ้งว่าไม่มีเจ้าหน้าที่สำหรับคีย์ข้อมูล เมื่อติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่ พบว่าให้ทางโรงเรียนสมัครบริการ Corporate Online บริการเพื่อลูกค้าธุรกิจ เหมือนกับการจ่ายเงินเดือนพนักงาน ซึ่งมีค่าสมัคร และมีค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน รวมกันแล้วนับหมื่นบาท ซึ่งไม่สามารถนำเงินอุดหนุนทางการศึกษามาจ่ายได้เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน จึงต้องใช้วิธีถอนเงินแล้วจ่ายเงินสดแก่ผู้ปกครองแทน
ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีหนังสือถึงสมาคมธนาคารไทย เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการยกเว้นค่าธรรมเนียมบริการการโอนเงินและรับเงินโอนทุกประเภทรายการและทุกกรณีการโอนเงินผ่านธนาคารทุกธนาคารของ สพฐ. หน่วยงาน/สถานศึกษาในสังกัด ผู้ปกครอง นักเรียน และหน่วยงานอื่นๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาสมาคมธนาคารไทยได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านธนาคาร
ปรากฏว่าการโอนเงินจากหน่วยเบิกจ่ายส่งตรงไปยังสถานศึกษาในสังกัด หรือตรงไปยังผู้ปกครอง นักเรียนสามารถทำได้ โดยต้องแจ้งรายชื่อหน่วยเบิกจ่ายพร้อมเลขที่บัญชีที่สั่งจ่ายทุกแห่งให้สมาคมฯ และธนาคารสมาชิกทราบล่วงหน้า และระบุชื่อโครงการในทุกรายการที่ส่ง ซึ่งสมาคมฯ จะประสานไปยังธนาคารสมาชิกและยกเว้นค่าธรรมเนียมเป็นกรณีพิเศษ แต่การโอนจากสถานศึกษาไปยังผู้ปกครอง นักเรียนไม่สามารถยกเว้นค่าธรรมเนียมในการโอนเงินให้ได้ เนื่องจากมีข้อติดขัดจากแนวปฏิบัติที่ได้ตกลงร่วมกัน ซึ่งไม่สามารถระบุรายการที่จะได้รับยกเว้นได้ชัดเจน และแนะนำว่าให้เลือกใช้บริการที่เป็นการโอนเงินด้วยหมายเลขบัตรประชาชนของผู้รับโอนที่ผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคารไว้แล้ว
