ส.ส.ก้าวไกลกัดกับเพื่อไทยในโซเชียลฯ ทำไมไม่มีประวิตร-ธรรมนัสในศึกซักฟอกระลอกล่าสุด “โรม” โวยถูกกล่าวหาไม่ส่งชื่อ ทั้งที่ผ่านมาอภิปรายตลอดทั้งป่ารอยต่อและตั๋วช้าง “ภูมิธรรม” บอกเลขาฯ ก้าวไกลต้องผู้ใหญ่กว่านี้ แพ้ในที่ประชุมไปฟ้องแฟนคลับไม่แฟร์ “คำผกา” ซัดเดินเกมการเมืองอำมหิตมาก ฟาดเพื่อไทยหวังจะชนะพรรคเดียว ส่วนธนาพลย้อนรอยคนเดือนตุลาที่ไปทำงานให้ทักษิณกระจอก เลือกสมัครเป็นนายกฯ หวังแก้ข้อหาล้มเจ้า
วันนี้ (17 ส.ค.) จากกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 ส.ค. โดยอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวม 6 คน ขอเวลาอย่างน้อย 3 วัน พร้อมเสนอให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย. 2564
ปรากฏว่าไม่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า ความไม่ชอบมาพากลการบริหารงานในความรับผิดชอบของ พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส มีเบาะแสร้องเรียนเข้ามา แต่ยังต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานให้ชัด ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยปละละเลย แต่ต้องดูหลักฐานเป็นสำคัญเพื่อพิจารณาการเชื่อมโยงถึงหรือไม่ ยังไม่ทันการอภิปรายรอบนี้ ยืนยันไม่เกี่ยวกับดีลลับหรืออุบัติเหตุทางการเมือง พรรคก้าวไกลไม่ได้คิดเรื่องนี้
อีกด้านหนึ่ง ในโลกโซเชียลฯ ยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล เมื่อทวิตเตอร์ @PuneTreerat ของนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาฯ กลุ่มเพื่อไทยพลัส โพสต์ข้อความระบุว่า “น่าแปลกใจยิ่ง เมื่อรายชื่อรัฐมนตรีที่พรรคฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่วางไว้ใจ ไม่มีชื่อ พลเอก ประวิตร พี่ใหญ่ พปชร./ร.อ.ธรรมนัส /หรือ พลเอกอนุพงษ์ ที่กำกับดูแลผู้ว่าฯ ทั้งประเทศ รวม กทม. หรือฝ่ายค้านกำลังบอกว่า พวกคุณไว้วางใจ ประวิตร ธรรมนัส อนุพงษ์ ในการบริหาร? #ไล่ประยุทธ์ #ละครหลังข่าว"
ปรากฏว่าทวิตเตอร์ @Dear_Khattiya ของ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความระบุว่า “ไปถาม ส.ส.วิโรจน์ก้าวไกลสิ เห็นเขาตอบอยู่”
ด้านทวิตเตอร์ @ChaninNume ของนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความระบุว่า “ไปคุยกันให้เคลียร์ก่อนมั้ยครับ? คนหนึ่งบอกว่าหลักฐานไม่พอเลยไม่ยื่น #อภิปรายไม่ไว้วางใจ ประวิตร+ธรรมนัส ส่วนอีกคนออกมาปั่นว่าพรรคร่วมไม่สนับสนุน ผมยืนยันว่า พรรค #เพื่อไทย ถามแล้วถามอีก ให้ส่งชื่อมาตลอด 3 รอบการประชุมครับ แต่ไม่แจ้งมาแล้วจะบอกว่าพรรคร่วมไม่เอาด้วยได้หรือครับ” พร้อมกับแคปฯ หน้าจอข่าวที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่าชื่อบิ๊กป้อมขลัง จับยัดเข้าญัตติซักฟอกไม่ได้ ขัดกับที่นายวิโรจน์ให้ข่าวก่อนหน้านี้
เรื่องนี้ทำให้นายวิโรจน์เข้ามาตอบกลับว่า “ขอเรียนให้คุณชนินทร์ทราบนะครับ ว่ากรุณาอย่างการตอบคำถามเพื่อรักษามารยาทของผมมาใช้เพื่อบ่ายเบี่ยงการตอบคำถามที่สังคมสงสัยเลยนะครับ เข้าใจว่าตอนนี้คุณชัยธวัชก็แจ้งไปแล้วนี่ครับว่าพร้อมพูดคุยซึ่งหน้ากับคุณภูมิธรรมในทุกเวทีครับ” ทำให้นายชนินทร์ตอบกลับมาว่า “ขออภัยคุณวิโรจน์ที่ข้อความผมอาจทำให้รู้สึกไม่ดีครับ ผมตั้งคำถามในฐานะผู้ติดตามข่าวที่ย้อนแย้งกัน และขอบคุณที่มาอธิบายครับ ส่วนการตอบของเพื่อไทย ผมตอบไปในอีกหลายโพสต์ว่าที่ประชุมพรรคร่วมมีการหารือเรื่องประวิตร แต่ไม่อภิปรายเพราะตอนนี้ไม่ใช่ผู้รับผิดชอบตรง+ข้อมูลไม่พอเอาผิดครับ”
ส่วนทวิตเตอร์ @icyremy ของนายเอกชัย ไชยนุวัติ นักวิชาการ ถามว่า “แล้วเมื่อวันอาทิตย์ ส.ส.โจ้บอกจะลุยไม่ไว้วางใจประวิตรเรื่องเรือดำน้ำ! ตกลง ใครจมเรือดำน้ำครับ? ถามตรงๆ ตรงนี้แหละ จะโกรธกันก็ไม่ว่าครับ” ซึ่งหมายถึง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย นายชนินทร์จึงตอบกลับว่า “พูดคุยแล้วครับอาจารย์ พี่โจ้เสนอจริงครับ และยังมีอภิปรายเรื่องงบอาวุธต่างๆ อยู่ แต่เจ้ากระทรวงกลาโหมปัจจุบันคือ พลเอก ประยุทธ์ครับ ส่วนเรื่องไม่เอาประวิตร เพราะพรรคร่วมคุยกันว่าไม่มีหลักฐานที่เอาผิดได้ ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบตรงครับ”
เมื่อมีคนเสริมว่า ส.ส.โจ้ไม่ได้อยู่ในวิปฝ่ายค้าน นายชนินทร์ ตอบกลับมาว่า “ใช่ครับ ในพรรคเพื่อไทย ส.ส.โจ้มีเสนออภิปรายประวิทย์ครับ แต่ในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้มีการเสนอครับ เพราะมีมติร่วมกันว่าจะเน้นเฉพาะคนที่มีความผิดเชิงประจักษ์ และมีหลักฐานชัดเจนครับ”
ที่ฮือฮาที่สุดก็คงจะเป็นทวิตเตอร์ @RangsimanRome ของ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า “ใครที่บอกว่าถามก้าวไกลแล้วว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหน แล้วก้าวไกลไม่ส่งชื่อประวิตรมา คิดให้ดีก่อน “ปล่อยข่าว” นี้เพราะก้าวไกลยืนยันหลายครั้งว่าอภิปรายประวิตร เราอภิปรายประวิตรมาตลอด 2 ครั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งป่ารอยต่อ และตั๋วช้าง ไม่มีเหตุผลที่ก้าวไกลจะไม่อภิปราย #เพื่อใคร”
เรื่องนี้ทำให้ทวิตเตอร์ @phumtham ของนายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย กลุ่มแคร์ อดีตคนเดือนตุลา อ้างถึงคำพูดนายรังสิมันต์ แล้วกล่าวว่า “ผมถามในที่ประชุม แต่อ้ำอึ้งมาตลอด..เพิ่งเมื่อวานที่ประชุมถามเหตุผลก็ตอบอ้อมแอ้ม...ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดครับ...ตรงไปตรงมา”
ก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรรมโพสต์ข้อความกล่าวถึงนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า “เลขาฯ ก้าวไกลต้องเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ อย่าใช้วิธีเล่าที่คลาดเคลื่อนข้อเท็จจริงฝ่ายเดียว ไม่งั้นคงทำงานกันยาก วานนี้เราคุยด้วยความลำบาก คุณโยนให้เราคุยกับคนอื่นและยืนยันเอาตามมติพรรคร่วมฯ การพูดนอกห้องประชุมถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ อย่าใช้วิธีนี้กับมิตร เมื่อเช้าหารือ คุณก็หลบ”
“ถ้าทำงานการเมืองแบบเสนอความเห็นแล้วแพ้ในที่ประชุม ก็ออกมาแสดงความเห็นกับแฟนคลับ พูดเอาดีใส่ตน ทำลายคนอื่น อย่างนี้ทำงานร่วมกันยากครับ”
“ไม่เข้าใจ เลขาฯ พรรคก้าวไกล สถานการณ์วันนี้ทุกคนกำล้งจะตรวจสอบอภิปรายความล้มเหลวรัฐบาล ทำไมเปลี่ยนประเด็นมาด้อยค่าพรรคเพื่อไทย คิดอะไรอยู่ครับ”
“ผมไม่อยากคิดว่า "ต้องด้อยค่าพรรคเพื่อไทยลง จึงจะทำให้ตนแข็งแรงขึ้น" ไม่กล้าคิดจริงๆ”
“ถ้าทำงานการเมือง แล้วอยากประสบความสำเร็จ ได้ความนิยม ต้องตรงไปตรงมาและยึดมั่นในสิ่งที่ตนคิดให้คนอื่นพิสูจน์ ต้องใช้เวลาครับ”
“เมื่อวานถามเลขาฯ ก้าวไกลว่าทุกพรรคขอให้มีประเด็นใหม่ที่ชัดเจนและตรงกับอำนาจหน้าที่ในปัจจุบัน อภิปรายใครก็ได้ ขอมิใช่อภิปรายเอามันตามที่เราอยาก และเป็นข้อเสนอที่เป็นความเห็นพรรคร่วมอื่นทุกพรรค ก้าวไกลแจ้งว่าเอาตามพรรคร่วมฯ เช้านี้นัดสรุป มีก้าวไกลพรรคเดียวหลบ แล้วไง”
“ใครพูดตรงกับความจริงที่สุด หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคยืนยันได้ครับ”
ขณะที่ทวิตเตอร์ @j_sindhuprai ของ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความระบุว่า “พรรคร่วมฝ่ายค้านทำงานอย่างเป็นระบบ และมีกติการ่วมกัน กรณีที่ไม่มีชื่อ ธรรมนัส-ประวิตร ในศึกซักฟอกครั้งนี้ กก. (พรรคก้าวไกล) ได้แถลงข่าวเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ว่ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอ สอดคล้องกับที่ชี้แจงในที่ประชุมพรรคร่วมฯ ว่าข้อมูลยังไม่พร้อม พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงมีมติอภิปรายนายกฯ และ รมต.6 คน”
“การให้ข่าวเช่นนี้เป็นการทำลายการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทำลายการต่อสู้ของฝ่าย ปชต. ลดทอนน้ำหนักการ #อภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องแยกให้ออกว่าใครคือมิตรและศัตรูทางการเมืองในระบอบ ปชต. หยุดกล่าวหาเพื่อนร่วมต่อสู้และจับมือกันเดินหน้าซักฟอกการทำงานของ รบ. ซึ่งเป็นจำเลยที่แท้จริงดีกว่าค่ะ”
ส่วนเฟซบุ๊ก “Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ของ น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า “เลขาฯ พรรคก้าวไกลยืนยันในคลับเฮาส์คืนนี้ว่าพรรคได้เสนอขอเพิ่มชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจประวิตรทันเวลาที่กำหนดกันไว้ คือ ต้องส่งชื่อมาก่อนเวลา 15.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม
โดยพรรคได้ส่งชื่อประวิตรพร้อมข้อกล่าวหาไปทางไลน์เวลาบ่าย 2 โมงกว่าของวันอาทิตย์ มีหลักฐานในไลน์ถ้าไม่ถูกลบทิ้งไป หลังจากนั้นมีการต่อสายมาพูดคุยกันว่าอยากให้ทบทวนรายชื่อประวิตรได้หรือไม่ ในเวลาใกล้เคียงกันประธานวิปฝ่ายรัฐบาล นายวิรัช ก็ต่อสายมาขอให้ไม่อภิปรายประวิตรได้หรือไม่ พรรคก้าวไกลยังสงสัยว่าทำไมคุณวิรัชถึงทราบว่าทางเราได้ส่งชื่อประวิตรเพิ่ม
ต่อมาเพื่อไทยต่อสายปรึกษาพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น แล้วแจ้งกลับมาให้ก้าวไกลทราบว่าได้ปรึกษากันแล้วมีความเห็นขอให้ไม่เพิ่มนอกจาก 6 คนที่เขียนชื่อไปแล้ว พรรคก้าวไกลยืนยันต้องการอภิปรายประวิตรแต่เมื่อฟังเสียงส่วนใหญ่เห็นอย่างไรเราก็คิดว่าไม่ฝ่าฝืนเพื่อรักษาบรรยากาศการทำงานร่วมกันไว้
หมายเหตุ : วันพุธที่ผ่านมา (11 สิงหาคม) ตอนนั้นมีการกำหนดชื่อไว้ 2 คน คือประยุทธ์ กับอนุทิน และตกลงกันว่าภายในปลายสัปดาห์นี้ให้แต่ละพรรคฝ่ายค้านเสนอรายชื่อเพิ่มเติมมา เพื่อรวบรวมเขียนในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #ก้าวไกล"
ส่วนเฟซบุ๊ก “Lakkana Punwichai” ของ น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำผกา แกนนำกลุ่มแคร์ อ้างถึงคำพูดของนายภูมิธรรม และโพสต์ข้อความระบุว่า “มีอยู่ในใจเป็นหมื่นล้านคำ เราแค่อยากรู้ว่า กก. (พรรคก้าวไกล) เล่มเกมแบบนี้ไปทำไม? ทำแล้วมันได้อะไรขึ้นมา? ขนาดคุณภูมิธรรมออกปาก คือมันต้องเหลืออดขนาดไหน” และ “ภูมิธรรมตอบแล้ว โรมว่าไง?”
น.ส.ลักขณายังโพสต์อีกว่า “นั่งฟาดติ่งส้มติ่งก้าวไกลแบบขำๆ กึ่งเอ็นดูนะ แต่ลึกๆ แล้วซีเรียสเพราะเห็นหายนะและอุปสรรคของการปฏิสังขรณ์ประชาธิปไตยในสังคมไทยอยู่ลิบๆ แขกคิดว่าคนที่เดินเกมการเมืองแบบนี้อำมหิตมาก ที่เห็นแต่ชัยชนะของตัวเองจนยอมขายวิญญาณม้วนตัวกลับหลังหันไปฟาดเพื่อไทยหวังจะชนะ ‘พรรคเดียว’ แต่มันจะเป็นชัยชนะบนความพ่ายแพ้ของสังคมไทยและพวกเราทุกคน
การปลุกผีทักษิณ การสร้างวาทกรรม สู้ไปกราบไป การสร้าง narrative (เรื่องเล่า) ว่าด้วยอภิมหาดีล การสร้างทวิลักษณ์ว่าด้วย การเมืองเก่า VS การเมืองใหม่ แขกใช้เวลา 20 ปีตลอดชีวิตการเป็นนักเขียน นักวิจารณ์ของแขกเพื่อจะบอกว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปแต่เป็นกระบวนการ และไม่มีจุดสิ้นสุดในตัวของมันเอง สิ่งเดียวที่เราต้องการคือการเลือกตั้งอันต่อเนื่องซึ่งไม่เคยรับประกันว่าผลของมันจะดีหรือถูก แต่เราต้องเคารพมันแม้เราจะเกลียดมัน
ประชาธิปไตยมันกะพร่องกะแพร่งเสมอ และพรรคการเมืองย่อมสะท้อนใบหน้าของสังคมนั้นๆ และแปลว่ามันไม่มีวันจะสมบูรณ์แบบ ล้มเผด็จการให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาทำลายคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง อย่าคิดแต่เรื่องทำลายคู่แข่งด้วยต้นทุนที่สูงที่สุด นั่นคือต้นทุนที่ว่าด้วยการชุบชีวิตวาทกรรม คนดี VS คนเลว และหรือ คนดีที่เลือกตั้งทีไรก็แพ้ ดังนั้นต้องทำลายพรรคการเมือง ‘ชั่ว’ ที่มักชนะเราเวลาเลือกตั้ง มันเป็นราคาที่แพงเกินไป!
ไม่รับปากว่าจะไม่พูดอีก ขณะเดียวกันก็รู้สึกขยะแขยงตัวเองมากพอแล้วกับความพยายามไปคุยกับติ่งและสลิ่มเฟซสองทั้งปวง แค่ไม่อยากให้ความโง่เขลา ถือดีนี้เป็นอาหารอันโอชะของเผด็จการ และสังคมไทยก็จะชี้นิ้วไปที่แพะตัวเดิมพร้อมๆ กับความเขลาที่หนาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกะลาซ้อนกะลาหนาจนคนเขาคร้านจะวิสาสะด้วย แต่ก็นั่นแหละ ถ้าวันนั้นมาถึงแขกก็ไม่มีอะไรต้อง regret (เสียใจ) เพราะถือว่าได้พูดทุกอย่างแล้วในนาม ‘นางแบก’ สิ่งที่แขก ‘แบก’ มากที่สุด คือ ‘แบก’ การรื้อถอนวาทกรรม ‘ประชาธิปไตยของคนดี’ ที่สมัยนี้เขาเรียกว่า ‘สู้กว่าใคร’ นี่แหละ บอกกันได้แค่นี้ ที่เหลือก็กรรมใครกรรมมันค่ะ”
ส่วนทวิตเตอร์ Thanapol Eawsakul ของนายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โพสต์ข้อความระบุว่า “ความกระจอกของพวกเดือนตุลาที่ไปทำงานให้ทักษิณ คือการปล่อยให้ทักษิณไปเลือกสมัคร สุนทรเวช เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชาชน ด้วยความคิดตื้นๆ แต่เพียงว่าจะทำให้ข้อหาล้มเจ้าที่ฝ่ายพันธมิตรกล่าวหาทักษิณนั้นหายไป (แต่ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะสุดท้าย...ก็ถีบหัวส่งสมัครและยุบพรรคพลังประชาชนอยู่ดี) ที่น่าผิดหวังกว่านั้นคือ คนเดือนตุลาพวกนี้ไปแก้ต่างให้สมัครว่ามาตามกระบวนการประชาธิปไตย แล้วพวกเขาก็ไปงานรำลึก 6 ตุลาทุกปี” อย่างไรก็ตาม ข้อความดังกล่าวได้ถูกลบไปแล้ว