นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) ได้กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 26 ปี วันสถาปนาองค์การจัดการน้ำเสีย ในวันที่ 15 สิงหาคม 2564 องค์การจัดการน้ำเสียเป็นรัฐวิสาหกิจในการกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2538 มีภารกิจในการจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนและบริหารจัดการน้ำเสียชุมชน ให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศ และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเสีย โดยองค์การจัดการน้ำเสียได้พัฒนาองค์กรให้ตอบสนองความต้องการในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม และรวมถึงการให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขน้ำเสีย ได้แก่
- การลงนามในบันทึกความร่วมมือการบริหารจัดการน้ำเสียในภาคตะวันออก ระหว่างองค์การจัดการน้ำเสีย กับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) ในการร่วมศึกษาแนวทางการบริหารจัดการน้ำเสียและการนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ในด้านอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
- การลงนามในบันทึกความร่วมมือระหว่างกรมราชทัณฑ์ และองค์การจัดการน้ำเสีย เพื่อร่วมกันพัฒนาปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียของกรมราชทัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียและมีความเหมาะสมในการดำเนินงาน
- การพัฒนารูปแบบของระบบบำบัดน้ำเสียให้มีความเหมาะสมในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่ดินสำหรับก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีให้แก่ประชาชนในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่โครงการ โดยการก่อสร้างศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ ที่รวมระบบบำบัดน้ำเสียกับประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับไว้ด้วยกัน โดยออกแบบให้ส่วนการบำบัดน้ำเสียจะอยู่ใต้ดินและส่วนพื้นที่บนดินจะเป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ เช่น สนามฟุตบอล สนามเด็กเล่นและสันทนาการต่างๆ
- การมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมกันลดความสกปรกจากบ้านเรือน โดยการฝึกอบรมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ชุมชนต่างๆ เช่น การประกอบ การติดตั้งและดูแลรักษา ถังดักไขมันอย่างถูกวิธี เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ต่างๆ
นายชีระ วงศบูรณะ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์โรคโควิด-19 องค์การจัดการน้ำเสียได้งดกิจกรรมในวันสถาปนาครบรอบ 26 ปี เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 โดยองค์การจัดการน้ำเสียได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการสนับสนุนสิ่งของที่มีความจำเป็นให้แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน