นักเล่าข่าวดัง แฉ สเตตัสบุคลากรทางการแพทย์ ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ รายชื่อด่านหน้าตกหล่น แต่พบบางคนเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาลยังได้ฉีด ตั้งเกณฑ์ขึ้นมาใหม่โดยไม่อิงตามสาธารณสุข ถาม “ทำไมยังเกิดขึ้น”
วันนี้ (14 ส.ค.) เฟซบุ๊ก “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้เผยแพร่โพสต์ข้อมูลบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ประสงค์ออกนาม 2 ราย และกล่าวว่า “ทำไมยังเกิดขึ้น” โดยรายแรกโพสต์ข้อความระบุว่า “บันทึกรอยแผลของช่วงชีวิตนี้ไว้ในความทรงจำ ท้ายที่สุดของการรอคอยอย่างมีความหวัง คือ ด่านหน้าอย่างพวกเรา … ยังคงถูกปฏิเสธการฉีดวัคซีน เหลือเชื่อจริงๆ ที่รายชื่อด่านหน้าไม่กี่ตึกรวบรวมยากเย็น เห็นรายชื่อคนที่ได้รับแล้ว เราเจ็บปวดใจแทนด่านหน้าทุกคนที่กัดฟันสู้เพื่อโรงพยาบาล อุทิศชีวิตเดียวที่มีนี้ เพื่อคนไข้ บางคนไม่ได้ทำงานใน รพ. แล้วด้วยซ้ำ บางคนคือใครจากไหนไม่รู้ เราสงสารตัวเองที่เชื่อมั่นว่าผู้บริหารจะเห็นคุณค่าของพวกเรา แต่กลับปล่อยให้สิทธิที่เราควรได้รับถูกขโมยไปต่อหน้าต่อตา หรือจริงๆ แล้วเห็นความเป็นความตายของเราเป็นเรื่องตลกร้าย
เรามีกันแค่คนละหนึ่งชีวิตและเป็นคนที่คลุกคลีกับคนไข้โควิดจริงๆ แล้วเราควรเรียกร้องหาความยุติธรรมได้จากใคร นาทีนี้ยอดสะสมคนไข้เป็นแสน ทุกคนเสี่ยง แต่จริงๆ แล้ว priority (ลำดับความสำคัญ) คืออะไร คือใคร งงไปหมดแล้ว ตอนนี้คนหน้างานเหนื่อย สะบักสะบอมทั้งร่างกายและจิตใจเหลือเกิน ยังจะให้เขาเดินต่อไปข้างหน้าด้วยภูมิคุ้มกันที่เปราะบางนี้จริงหรือ ตอนนี้พวกเรากำลังเฝ้าคนไข้โควิดตรงหน้า ในขณะที่ใครต่อใครกำลังได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพนั้น และคิดว่าทำไมการที่เราต้องการเพียงความปลอดภัยเพื่อที่จะไปดูแลคนไข้ต่อมันถึงได้ยากเย็นขนาดนี้”
อีกรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า “หมดใจ หมดศรัทธา แต่เดิมถูกละเลยอยู่แล้ว ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อคนไข้ เพราะเบื้องบนไม่เคยจะช่วยบรรเทาเหตุการณ์ที่หนักหน่วงได้เลย ตอนนั้นคนไข้โควิดค้างในอีอาร์ (ห้องฉุกเฉิน) 20 กว่าเคส ไหนจะเคสฝากบลาๆ เกย์ออกซิเจนหมด ทาง รพ. ไม่สามารถจัดสรรมาให้ได้ทันที เราก็ต้องขอรับบริจาคมาทันที เพราะคนไข้เรารอไม่ได้ อุปกรณ์ N95 Face shield ในวอร์ดหมด พวกเราก็ต้องหาซื้อมาใช้กันเองให้ได้ จนมาวันนี้แหล่ะมันเกินไป รพ. ได้รับไฟเซอร์มาเพื่อให้บุคลากรด่านหน้าที่ต้องดูแลคนไข้โควิดต่อ กลับไม่ได้รับความยุติธรรม
เมื่อรายชื่อผู้มีสิทธิ์ฉีดไฟเซอร์ออกมา รายชื่อคนด่านหน้าตกหล่น ทาง รพ. ตั้งเกณฑ์ขึ้นมาใหม่โดยไม่อิงตามของทาง สธ. (กระทรวงสาธารณสุข) ทำให้วัคซีนที่นำเข้ามาเพื่อให้ด่านหน้า กลับถูกใครไม่รู้ที่ไม่เคยแม้แต่เคยเจอคนไข้โควิดหรือไม่รู้จักชุด PPE ด้วยซ้ำมาสวมรอยขโมยวัคซีนไป เมื่อตั้งคำถามกับทางผู้บริหารกลับได้คำตอบคือความเงียบ แบบนี้จะให้เราชาวด่านหน้ารู้สึกยังไง ไม่ใช่ว่าคุณไม่ควรได้รับวัคซีนนะ แต่คุณควรลำดับความสำคัญ หรือมีจิตสำนึกด้วยว่าใครควรได้ฉีดก่อนและใครรอได้ แล้วใครจะดูแลคนไข้ของเราหากบุคลากรด่านหน้าไม่มีอีกต่อไป”