xs
xsm
sm
md
lg

ทูตไทยในสหรัฐฯ เผยเบื้องหลังดีลวัคซีนไฟเซอร์ ชี้ต้องใช้หลายภาคส่วนเข้าถึงรัฐบาลมะกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน เผยเบื้องหลังดีลวัคซีนกับสหรัฐฯ ชี้ ทำงานอย่างหนัก อาศัยทุกช่องทาง ไม่ใช่แค่ข้าราชการด้วยกันเอง ต้องไปถึงกลุ่มต่างๆ ภาคเอกชน หาแนวร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ช่วยโน้มน้าว เผยกำลังผลักดันส่งมอบวัคซีนที่รัฐบาลซื้อ 20 ล้านโดส ให้ได้โดยเร็ว

วันนี้ (2 ส.ค.) จากกรณีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา บริจาควัคซีนโคเมอร์เนตี (COMIRNATY) ของบริษัท ไฟเซอร์-ไบออนเทค หรือที่เรียกกันเป็นภาษาชาวบ้านว่าวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1,503,450 โดส แบบให้เปล่าโดยไม่มีเงื่อนไข โดยได้จัดส่งทางอากาศมาถึงประเทศไทยเมื่อเช้าวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริจาควัคซีน 80 ล้านโดส ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน โดยคาดหวังว่าจะช่วยให้ไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว

สำนักข่าววอยซ์ออฟอเมริกา ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ “ทูตไทยในวอชิงตันเผยเบื้องหลังดีลวัคซีนกับสหรัฐฯ” โดยสัมภาษณ์ นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ระบุว่า เดิมทางสถานทูตฯ ได้รับแจ้งจากทำเนียบขาวโดยตรงว่าจะบริจาควัคซีนให้ไทย 1.5 ล้านโดส ในเวลาไล่เลี่ยกัน นางแทมมี ลัดดา ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกเชื้อสายไทย ก็โทร.มาแจ้งข่าวว่า ในนามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความห่วงใยกับประชาชนคนไทย ถือว่าเป็นมิตรเก่าแท้ของสหรัฐฯ ก็จะขอเพิ่มวัคซีนให้ประเทศไทยอีกต่างหาก 1 ล้านโดส รวมแล้วเป็น 2.5 ล้าน ล็อตแรก 1.5 ล้านโดส ก็ไปถึงเมืองไทยแล้วสัปดาห์นี้ แล้วก็หาล็อตที่ 2 สถานทูตฯ กำลังประสานกับทางทำเนียบขาวอยู่ เพื่อให้เขาเร่งรัดให้รีบส่งให้เมืองไทย

นายมนัสวี ระบุว่า ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทางสถานทูตฯ ได้ทำงานอย่างหนัก ในทุกช่องทางที่เป็นไปได้ในการประสานกับหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ในสหรัฐฯ เพื่อเจรจาเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของทุกประเทศทั่วโลกทั้งฝ่ายบริษัทผู้ผลิตโดยตรง ฝ่ายรัฐบาลและทำเนียบขาวกับกระทรวงต่างประเทศ กับ ส.ส. (สมาชิกสภาผู้แทน) และ ส.ว (สมาชิกวุฒิสภา) ของสหรัฐฯ เพื่อผลักดันให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งไทยเข้าถึงวัคซีนเหล่านี้ได้ เพราะจะเป็นคำตอบเรื่องของสาธารณสุขและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสนับสนุนให้ชุมชนไทยสื่อกับนักการเมืองของสหรัฐฯ ให้ช่วยนึกถึงประเทศไทยให้เป็นผลักดันกับทางรัฐบาลสหรัฐฯ อีกทางหนึ่งด้วย

“วิธีที่จะเข้าถึงฝ่ายรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่แค่ข้าราชการด้วยกันเอง ต้องไปถึงกลุ่มต่างๆ ภาคเอกชน เข้าถึงภาคสถาบันวิชาการซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการส่งข้อมูลให้กับทางสภาฯ หรือให้กับทางรัฐบาล เราก็เห็นว่า การที่ผมไปพบกับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายรัฐสภาฯ ไม่เพียงพอ เราต้องพยายามหาแนวร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งของไทยกับของสหรัฐฯ ที่จะช่วยโน้มน้าวรัฐบาลในการในการเดินหน้าความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐฯ” นายมนัสวี ระบุ

นอกจากนี้ ทางสถานทูตฯ กำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะขอให้มีการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดส ที่รัฐบาลไทยได้ลงนามจัดซื้อและมีกำหนดส่งมอบในไตรมาสที่ 4 หรือในปลายปีนี้ ให้มีการส่งมอบได้เร็วขึ้นหากเป็นไปได้ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย และยังอาศัยเครือข่ายเพื่อนประเทศไทย (Friends of Thailand) บุคคลที่รู้จักชาวสหรัฐฯ ที่รู้จักและมีเส้นสายต่างๆ ให้ช่วยรณรงค์ให้ประเทศไทยอีกรอบหนึ่ง

ทั้งนี้ ขอชื่นชมบริษัทสัญชาติอเมริกันที่อยู่ในเมืองไทย มีความเป็นห่วงต่อธุรกิจและคนงานด้วย ก็ใช้ทุกรูปแบบ ที่ผ่านมา ก็ถือว่าประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง ตอนนี้ก็เป็นเรื่องของการเข้าถึงวัคซีนที่ไทยลงนามสัญญาสั่งซื้อว่า ถ้าได้เร็วขึ้นช่วยบรรเทาบรรเทาสถานการณ์ได้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ทางทูตอาเซียน 10 ประเทศ กับทำเนียบขาว ก็มีการปฏิสัมพันธ์กันทุก 2-3 สัปดาห์ต่อเดือน ตอกย้ำเรื่องการเข้าถึงวัคซีน รัฐบาลสหรัฐฯ ก็บอกว่า เมื่อการผลิตเพิ่มขึ้น ก็จะหาทางเพิ่มความช่วยเหลือทางด้านวัคซีนให้กับโลกอีกอีกรอบหนึ่ง เพราะฉะนั้นขอให้ใจเย็นๆ จะประกาศออกมาเป็นระยะๆ

นอกจากนี้ ทางสถานทูตไทยฯ ได้ติดต่อกับทุกบริษัทวัคซีนของสหรัฐฯ เพื่อร่วมกันวิจัยและผลิตวัคซีน ซึ่งก็เดินหน้าไปต่อไป ตอนนี้ และพยายามจับเชื่อมโยงองค์การ สถาบัน หรือบริษัทต่างๆ ที่มีความชำนาญ ที่จะสามารถมาช่วยเป็นพันธมิตรในการผลิตวัคซีนในประเทศไทยแล้วทางกรุงเทพฯ ก็ได้มีการติดต่อโดยตรงกับบริษัทเหล่านี้ ที่มีตัวแทนอยู่ในเมืองไทย ซึ่งไทยมีโอกาสในสถาบันต่างๆ ที่มีมาตรฐานสูง และมีผลงานที่เด่นชัดแล้ว จากประสบการณ์ในอดีตเคยร่วมผลิตยารักษามาลาเรีย

อ่านประกอบ : ทูตไทยในวอชิงตันเผยเบื้องหลังดีลวัคซีนกับสหรัฐฯ จากเว็บไซต์ วีโอเอไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น