หมอวรงค์ชมคนภูเก็ตค้านกลุ่มปลดแอกจัดคาร์ม็อบ ต้องการทำลายโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โลกโซเชียลฯ เผยรายชื่อแกนนำกลุ่มคาร์ม็อบภูเก็ตล้วนแล้วแต่เป็นคนของพรรคก้าวไกล ที่ปรึกษา ส.ส.โรม แต่บอกร่วมสังเกตการณ์ อ้างไม่มีแกนนำ ฝันอยากเห็นภูเก็ตจัดการตนเอง
วันนี้ (26 ก.ค.) เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์วิดีโอคลิปเหตุการณ์ที่ชาวจังหวัดภูเก็ตรวมตัวกันคัดค้านกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มภูเก็ตปลดแอก จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ โดยระบุว่า “#ภูเก็ตโมเดล พี่น้องชาวภูเก็ตออกมาต่อต้านม็อบสามกีบ ถือป้าย #saveภูเก็ต ที่จัดคาร์ม็อบต้องการทำลายโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวภูเก็ต ประชาชนบอกว่าต้องการทำมาหากิน แต่คนเหล่านี้มาป่วนเพื่อให้โครงการล้มเหลว และมีการแพร่เชื้อ แต่สุดท้ายคนพวกนี้ต้องหนี เพราะเจอพลังชาวภูเก็ต ยกย่องชาวภูเก็ตครับ”
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ในโลกโซเชียลฯ มีการส่งต่อรายชื่อของคนที่ถูกระบุว่าเป็นแกนนำกลุ่มคาร์ม็อบภูเก็ต ประกอบด้วย
นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ตัวแทนพรรคก้าวไกล เขต 2 แกนนำก้าวไกลพื้นที่ จ.ภูเก็ต
นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล แกนนำก้าวไกลภูเก็ต, ที่ปรึกษา ส.ส.รังสิมันต์ โรม/สนับสนุน
นายทรงศักดิ์ สวนอักษร แกนนำก้าวไกลภูเก็ต, ที่ปรึกษา ส.ส.รังสิมันต์ โรม/สนับสนุน
นายธนู แนบเนียร แกนนำก้าวไกลภูเก็ต, ที่ปรึกษา ส.ส.รังสิมันต์ โรม/สนับสนุน
นายจีรเวทย์ วินิจไพโรจน์ ตัวแทน New gen ภาคใต้, ฝ่าย IT ของกลุ่มฯ
นายธีรยุทธ ศิริมาศ แกนนำกลุ่มภูเก็ตปลดแอก
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความเคลื่อนไหวพบว่าเฟซบุ๊ก “Chalermpong Saengdee เฉลิมพงศ์ แสงดี” ของเฉลิมพงศ์ แสงดี หรือโค้ชแซม ตัวแทนพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า “เมื่อคืนนอนฝันอีกแล้ว อยากเห็นภูเก็ตจัดการตนเอง ระยะเวลา 2 ปีของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ทำให้หลายคนได้เห็นแล้วถึงความล่าช้าของการตัดสินใจ การใช้อำนาจรัฐที่ไม่ทันท่วงที การเยียวยาที่ไม่ทั่วถึง ระบบเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวที่ล้มและฟื้นตัวยาก งบประมาณที่จะมาสนับสนุนมีไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับการสร้างรายได้ภาษีให้แก่ประเทศ ถ้าเทียบแบบภูมิประเทศจังหวัดภูเก็ตบริหารจัดการได้ง่ายมาก ซึ่งปัจจุบันเป็นรัฐรวมศูนย์ ถ้ากระจายอำนาจรัฐก็จะเกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ
คนภูเก็ตที่รักภูเก็ตจริง มาช่วยทำความฝันผมให้เป็นจริงเสียทีเถอะครับ คนภูเก็ตก็ต้องการวัคซีนที่ดี คนภูเก็ตต้องการการเยียวยาที่เท่าเทียมและทั่วถึง คนภูเก็ตก็ต้องการอาชีพเดิมที่เรารักกลับมาเหมือนเดิม คนภูเก็ตก็อยากให้ปัญหาโควิดหมดสิ้นไปเสียที คนภูเก็ตคิดริเริ่มโครงการ Phuket sandbox ได้เป็นโครงการที่ดี ผมว่าภูเก็ตจัดการตนเอง ก็ออกมาช่วยกันทำได้ครับ โครงการ Phuket sandbox ตั้งแต่เริ่มมาสร้างรายได้ 400 กว่าล้าน รายได้ทั้งหมดตกอยู่ภูเก็ตเท่าไหร่ไม่ทราบ? คนภูเก็ตได้อะไรบ้าง? แต่คนภูเก็ตต้องสูญเสียทรัพยากร เสียขวัญและกำลังใจในการใช้ชีวิต เพราะกลัวโรคระบาดจะแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น ถ้าเราสามารถบริหารจัดการตนเองได้ กองทุนที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวหลักก็สามารถทำได้เร็ว การเยียวยาที่มีอย่างทั่วถึงก็สามารถทำได้ งบประมาณในการบริหารจัดการโรคระบาดก็ทำได้อย่างรวดเร็ว Campaign ภูเก็ตจัดการตนเอง ต้องมาแล้วครับ #โค้ชแซม #ป่าตอง #ภูเก็ตจัดการตนเอง”
ด้านเฟซบุ๊ก “ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล - Thitikan Thitipruethikul” ของนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส.รังสิมันต์ โรม โพสต์ข้อความระบุว่า “24 กรกฎาคม 2564 ผมร่วมสังเกตการณ์กิจกรรม #CarMob ภูเก็ต เพื่อประท้วงรัฐบาล ประยุทธ์ โดยมีข้อเรียกร้องจากผู้ชุมนุม 3 ข้อ คือ 1. ประยุทธ์ต้องลาออก โดยไม่มีเงื่อนไข 2. ปรับลดงบประมาณสถาบัน-กองทัพ เพื่อมาสู้โควิด 3. เปลี่ยนวัคซีนซิโนแวค เป็น mRNA ทั้งนี้ บางส่วนก็เรียกร้องให้มีการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบที่จังหวัดภูเก็ตด้วย ไม่ใช่เยียวยาเฉพาะ 10 จังหวัด มีญาติของพยาบาลโรงพยาบาลวชิระที่ติดเชื้อโควิด ขอวัคซีนคุณภาพให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ทั้งๆ ที่ตอนแรกบอกจะฉีดแอสตร้าฯ ให้ แต่กลับได้ซิโนแวค 2 เข็ม จนต้องมาติดเชื้อ มีพนักงานสถานบันเทิง คนกลางคืนที่ได้รับผลกระทบแต่ขาดการเหลียวแล ฯ
มีการกระทบทั่งกัน ตั้งแต่จุดสะพานหิน และบริเวณหน้าศาลากลาง จากฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับผู้ชุมนุม โดยที่ผู้ชุมนุมยืนยันที่จะชุมนุมโดยสันติ อยู่ในรถ ไม่ทำลายทรัพย์สิน แต่กลับมีผู้ชุมนุมโดนทำร้ายร่างกาย เห็นต่างกันได้ แต่ไม่ควรทำร้ายร่างกายกันนะครับ เพราะการแสดงออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน #บีบแตรให้สะเทือน #Carmobภูเก็ต
ส่วนเฟซบุ๊ก “ทรงศักดิ์ สวนอักษร - Songsak Sounaksorn” ของนายทรงศักดิ์ สวนอักษร ที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความระบุว่า “24 กรกฎาคม 2564 ผมร่วมสังเกตการณ์การชุมนุม #Carmobภูเก็ต ที่มีผู้สนใจร่วมกิจกรรมจำนวนมาก และมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันบริเวณสะพานหิน ก่อนที่จะมีการเจรจากันสามฝ่ายเพื่อให้การชุมนุมสำเร็จลุล่วง โดยต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่มีการทำลายทรัพย์สินระหว่างทาง และผู้ชุมนุมอยู่ในรถ
ทั้งนี้ การชุมนุมในครั้งนี้ไม่มีแกนนำ ทำได้เพียงสื่อสารในเพจ ภูเก็ตปลดแอก เท่านั้น ผู้ที่ออกมาเรียกร้อง ไม่ว่าจะเรื่องขอวัคซีนคุณภาพ ขอลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็น หรือขอรับการเยียวยาจากรัฐบาล เพราะภูเก็ตก็ได้รับผลกระทบรุนแรง แต่คนภูเก็ตร่วมแรงร่วมใจกันไม่ให้มีการกระจายเชื้อที่รุนแรง แต่ไม่ได้หมายถึงพวกเราไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ มีกลุ่มคนกลางคืนที่ตกงานกะทันหัน และอีกหลายภาคส่วนที่เดือดร้อน และไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
ทุกคนบอกว่า อนาคตเป็นของคนรุ่นใหม่ ก็ให้คนรุ่นใหม่เขาเลือกเองว่าต้องการจะมีชีวิตแบบไหน เราให้ได้แค่คำปรึกษา และสนับสนุนในสิ่งที่ถูกต้อง ตักเตือนหากออกนอกลู่นอกทาง เรามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ให้เด็กๆ คนรุ่นใหม่เขามีชีวิตที่ดีกว่าเราเถอะครับ #การแสดงออกคือสิทธิขั้นพื้นฐาน”
