วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มมวลชนหมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่-ดาวดิน” พร้อมด้วย กลุ่มนักขับขี่รถจักรยานยนต์ฮาเลย์-เดวิดสัน ต้านนายกรัฐมนตรี ได้ขับขี่รถทยอยกันมาประจำจุดที่บริเวณหน้าป้ายรถเมล์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท โดยมีมวลชนกลุ่มหมู่บ้านเดินทะลุฟ้า ได้ทยอยเดินทางมาแล้วบางส่วน
กระทั่งเวลา 13.30 น. นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่-ดาวดิน ได้เดินทางมาถึงพร้อมกล่าวว่า วันนี้เป็นวันเข้าพรรษา ซึ่งพวกเราเป็นคนไทย ต้องทำตามขนบธรรมเนียมประเพณี หล่อเทียน ซึ่งวันนี้ทางกลุ่มจะรวมตัวที่นี่ จากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรี ที่มีผลการทำงานการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ล้มเหลว
ต่อมา เมื่อเวลา 15.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมทะลุฟ้า ตั้งขบวนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อทำกิจกรรมแห่เทียนพรรษา เชิงสัญลักษณ์ เคลื่อนขบวนไปขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีทั้งขบวนเทียนพรรษา จำนวน 3 เล่ม ที่เป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ของกลุ่ม คือ เทียนรูปเป็ด เทียนรูป 3 นิ้ว และเทียนรูปพานรัฐธรรมนูญ มาอยู่ในขบวน รวมถึงยังมีนางรำต่างๆ ด้วย
ซึ่ง นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า เตรียมเคลื่อนขบวนแห่เทียน ไปทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า ใช้งานประเพณีทำกิจกรรมตามหน้าที่ในการ “แห่เทียน ไล่นายกฯ” และที่เริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพราะเมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 64) มีคนเสียชีวิตที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้วย จึงเป็นการมาเริ่มต้นกิจกรรมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในการจัดการปัญหาโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ดังนั้น จึงมองว่า เมื่อรัฐบาลล้มเหลว ก็ควรที่จะลาออก ซึ่งการเคลื่อนขบวนแห่เทียนวันนี้ จะไปยังทำเนียบรัฐบาล ไปให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาล เพราะมองว่า กลไกของอำนาจนิติบัญญัติไม่สามารถจัดการได้
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม MOTORCYCLE MOB นำโดย นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือ จัสติน ขี่รถฮาเลย์-เดวิดสัน พร้อมแนวร่วมที่นำรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์มาร่วมขบวนไปทำเนียบรัฐบาลด้วย
ต่อมาเวลา เวลา 16.25 น. กลุ่มมวลชนหมู่บ้านทะลุฟ้า ถึงทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแนว พร้อมวางรั้วหีบเพลง รถฉีดน้ำ และคอนเทนเนอร์ 2 ชั้น
ต่อมาเวลา 16.57 น. มีการราดน้ำมันบนหุ่นศพจำลอง 3 ป. ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า และอีก 1 สมาชิกราษฎรมูเตลู ทำพิธีเผาหุ่น โดยท่องคาถา จากนั้นต่อเพลิงจากแท่งเทียนพรรษาที่ประชาชนร่วมกันหล่อมาจุดที่หุ่น ก่อนเทน้ำตาเทียนลงบนหุ่นศพ เพื่อส่งสัญญะแทนน้ำตาประชาชนที่สูญเสียจากการบริหารล้มเหลวของรัฐบาล ท่ามกลางฝนที่โปรยลงมา ขณะควันพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ราษดรัมรัวกลองขณะทำพิธี โดยประชาชนร่วมบันทึกภาพและส่งเสียงเฮ
ด้านประชาชนอีกส่วนหนึ่งพ่นสเปรย์สีเขียวบริเวณแนวลวดหนามเพื่อส่งสัญญาณว่าประชาชนมาขีดเส้นบอกเจ้าหน้าที่ วันนี้มาเท่านี้ มางานบุญ ไม่ล้ำเส้น แต่วันหน้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยืนข้างประชาชน เจอดีแน่
นายจตุภัทร์ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งประกาศให้ยุติการเผาเพลิง เนื่องจากเกรงว่าเพลิงจะลุกลาม ว่า ถ้าปล่อยให้รัฐบาลอยู่ต่อไป ก็จะลุกลามไปถึงชีวิตพี่น้องประชาชน
“ผมบอกพวกพี่ไว้ก่อน นี่เป็นแค่วันแห่เทียน ที่เราต้องการจะทำบุญ แต่หลังจากวันนี้ จงจำไว้ว่าจะเจอการตอบโต้ของประชาชนทุกรูปแบบ ถ้ายังปกป้องรัฐบาล ปกป้องทำเนียบอยู่ ศึกษาไว้ รอบนี้เราไม่ตัด รอบหน้าเราตัดแน่ (รั้วหีบเพลง)” นายจตุภัทร์กล่าว
กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการสาดสีแดง และวางตุ๊กตาบนรั้วหีบเพลง ประท้วงการเสียภาษีผ้าอนามัยแบบสอด ซึ่งถูกจัดอยู่ในหมวดเครื่องสำอาง ประชาชนร่วมเบิลรถฮาร์เลย์ และรถจักรยานยนต์ ส่งเสียงความอัดอั้นตันใจ
นายจตุภัทร์ นำมวลชนเปล่งเสียง “ประยุทธ์ออกไป” และเบิ้ลรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยชู 3 นิ้ว ก่อนร่วมกันพร้อมใจชูนิ้วกลาง และส่งเสียงโห่ ร่วมกันชู 1 นิ้ว พร้อมท่องกลอน 14 ตุลา ของ วิสา คัญทัพ
“ดูความโกรธแค้นของประชาชนไว้ นี่แค่มาแห่เทียนเฉยๆ ถ้ายังไม่อยู่ข้างประชาชน จะเจอกับประชาชน วันนี้เรามาแค่นี้ รอบต่อไปเราจะเข้าไปทำเนียบ เดี๋ยวเจอกัน เห็นแล้วใช่ไหมพี่น้อง การหยิบกุญแจออกมาสตาร์ตรถ ไม่ยากเลย” นายจตุภัทร์ กล่าว
นายจตุภัทร์ กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสู้ ขอบคุณที่เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ เห็นคุณค่าของคนที่นอนตายข้างถนน และว่า ให้รอฟังประกาศจากเพจทะลุฟ้าต่อไป ก่อนยุติกิจกรรมในเวลา 17.35 น. “ชนะเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่เมื่อออกมาร่วมกันอยู่แบบนี้ เราก็ไม่แพ้”
จากนั้นประชาชนเริ่มทยอยกลับ บางส่วนยังคงบีบแตร เบิ้ลรถอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทีมงานเปิดเพลงเราคือเพื่อนกัน ส่งท้าย บางส่วนร่วมโยกย้ายอย่างสนุกสนาน