นายกิตติทัศน์ ผาทอง สมาชิกภาคียาสูบแห่งประเทศไทยและชาวไร่ยาสูบจังหวัดพะเยา-เชียงราย เป็นตัวแทนชาวไร่ยาสูบจากทั่วประเทศกว่า 3 หมื่นครอบครัว ยื่นหนังสือต่อ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเร่งให้รัฐบาลเบิกจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้ชาวไร่ยาสูบ รวมทั้งขอให้ช่วยติดตามการพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบที่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากกระทรวงการคลังและรัฐบาล
“ท่านอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เคยรับปากไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ว่า จะดำเนินการเรื่องเงินชดเชยชาวไร่ยาสูบจำนวน 159 ล้านบาท ให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้ผ่านมา 4 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าเลยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้วและชาวไร่จะได้รับเงินเมื่อไร พวกเราจึงหวังพึ่งท่านธรรมนัส และ ส.ส.พปชร ในพื้นที่ปลูกยาสูบ ให้ช่วยติดตามทวงถามการจ่ายเงินชดเชยให้พวกเราภายในเดือนสิงหาคมนี้ ชาวไร่จะได้นำเงินที่ได้มาเป็นทุนทำมาหาเลี้ยงชีพ ทำการเกษตรต่อ ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากใคร”
“จังหวัดพะเยามีชาวไร่กว่า 1,000 คน ที่ปลูกยาสูบเป็นอาชีพเลี้ยงปากท้องมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ส่งใบยาสูบขายให้การยาสูบแห่งประเทศไทย และส่งออกปีละกว่า 1 ล้านกิโลกรัม สร้างรายได้ให้จังหวัดพะเยาปีละไม่ต่ำกว่า 110 ล้านบาท ซึ่งท่าน ร.อ. ธรรมนัส เป็นคนในพื้นที่ ท่านทราบดีว่าตอนนี้ชาวไร่ยาสูบกำลังเดือดร้อนมากติดต่อกันมา 3 ปี จากผลของการขึ้นภาษีสรรพสามิต เมื่อปี 2560 แล้วตอนนี้ยังมีการระบาดของโควิด-19 อีก พวกเราจึงมายื่นหนังสือเพื่อขอให้ท่านช่วยเร่งรัดติดตามการจ่ายเงินชดเชย และขอความเมตตาท่านแจ้งไปยังกระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตไม่ให้มีการขึ้นภาษียาสูบแบบสุดโต่งจาก 20% เป็น 40% ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพราะจะทำให้ชาวไร่ยาสูบต้องหมดสิ้นอาชีพเพาะปลูกยาสูบ”
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้รับหนังสือจากชาวไร่ พร้อมกล่าวว่า รับทราบปัญหาของชาวไร่ยาสูบเป็นอย่างดี เนื่องจาก น.ส.พิมพ์พร พฤฒิพันธุ์ และ นายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส.เพชรบูรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ ได้เคยนำเรื่องมาปรึกษาไว้ และยินดีที่จะช่วยติดตามทั้งสองข้อร้องเรียนของชาวไร่ยาสูบอย่างดีที่สุด
