นับเป็นครั้งแรกของวงไอดอลสาว "บีเอ็นเคโฟร์ตี้เอต" (BNK48) ภายใต้สังกัด Independent Artist Management (iAM) ที่ได้นำ "ดีอะ" เพลงซึ่งแต่งเองมาใช้เป็นเพลงหลักของซิงเกิลที่ 10 ของวง จากเดิมที่ต้องใช้เพลงของวงพี่อย่าง "เอเคบีโฟร์ตี้เอต" (AKB48) มาโดยตลอด และคราวนี้ "ผู้จัดการออนไลน์" จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับ "โมบายล์-พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค" เซ็นเตอร์ของเพลง "เฌอปราง อารีย์กุล" หัวหน้าวง , "เจน-กุลจิราณัฐ อินทรศิลป์" , "มิวสิค-แพรวา สุธรรมพงษ์" , "ไข่มุก-วรัทยา ดีสมเลิศ" และ "ตาหวาน-อิสราภา ธวัชภักดี" ตัวแทนสมาชิกของเพลงทั้ง 16 คน ถึงเรื่องราวความพิเศษที่ทาง "ญี่ปุ่น" ถึงยอมให้วงน้องได้ใช้ Original Song
เฌอปราง :ครั้งนี้พวกเราได้มีโอกาสทำ "เพลงต้นฉบับ" (Original Song) เป็นซิงเกิลหลักด้วย เพราะช่วงที่ผ่านมา เรามีกิจกรรมนั่นคือ AKB48 Group Asia Festival Online 2021ก็คือเป็นงานที่เขาอยากให้เพิ่มสีสัน ให้กับวงน้องสาวที่อยู่ในต่างประเทศ ทำให้มีรูปแบบขึ้นมาว่า ให้ทุกวงมีoriginal song ในการเข้าร่วมงานครั้งนี้ ก็เลยถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราได้พิสูจน์ตัวเองมาซักพักใหญ่แล้วว่าพวกเราทำได้ พวกเรามีทีมงานเบื้องหลังที่แกร่งมากๆ พอที่จะทำเพลงเหล่านี้ให้กับแฟนๆ แล้วก็พวกเราก็รอคอยเวลานี้มานานมากๆ แล้วด้วยว่าเมื่อไหร่จะมีเพลงแบบนี้ซะที ซึ่งในที่สุดพวกเราก็มีเพลงนี้ออกมาแล้ว
ในซิงเกิลที่ 10 นี้
ตอนที่ส่งเพลงนี้ไปให้ทางญี่ปุ่นเป็นเพลงนี้เลย หรือว่า มีเพลงอื่นด้วย
เฌอปราง :ไม่มีนะ จากที่หนูทราบมา น่าจะเป็นการรวมตัวกันจากนักแต่งเพลงของหลายๆ ที่
ว่ามุมมองของBNK48 เข้ามาประชุมกับผู้ใหญ่ กับผู้บริหารว่ามีแนวคิดแบบไหนยังไง แต่สุดท้าย "ครูเอ๊ะ" (พงษ์จักร พิษฐานพร : ผู้อำนวยการฝ่ายดนตรีBNK48) ก็ยังไม่ถูกใจจนประมาณว่าทำเองนี่แหละ น่าจะใช่สุด
โมบายล์ พิมรภัส :เพราะเขาอยู่กับเรามานานแล้ว รู้จักความเป็นตัวเราที่สุดเหมือนเป็นคนใกลบ้ตัวที่สามารถอธิบายตัวเราได้ว่าเป็นยังไงสามารถแลกเปลี่ยนความคิดกับตัวสมาชิกได้
เฌอปราง :รวมถึงเขาเป็นคนที่เริ่มโปรเจกต์นี้มาตั้งแต่แรกๆ ตั้งแต่ตอนที่ประกาศว่าเริ่มมี BNK48 ซึ่งมี "ครูเอ๊ะ" อยู่ในงานครบรอบ 10 ปี AKB48 วันนั้นด้วย ก็ถือว่าอยู่กับพวกเรามานาน ก็ควรจะเป็นครูเขานี่แหละที่ควรจะทำเพลงพวกนี้ขึ้นมา และเขาได้ใกล้ชิดกับพวกเราด้วยค่ะ ก็เป็นทีม Platform Makkason ที่ทำเพลง ‘ดีอะ’ ขึ้นมา
หลังจากส่งไปแล้วทางญี่ปุ่นว่ายังไงบ้าง
โมบายล์ พิมรภัส :อันนี้ไม่ทราบ เขาแค่วางโจทย์มาให้ว่า ถึงเวลาที่คุณจะมี original song ได้แล้วนะ ซึ่งเพลงนี้ดู้เป็นเรามาที่สุด ก็เลยเป็นเพลงนี้ขึ้นมา
เฌอปราง :แต่หนูคาดว่า เขาก็น่าจะได้ฟังพร้อมพวกเราละค่ะ (หัวเราะทั้งวง) พวกคุณคิดว่ายังไงดี เอาเลยๆ ทุกคนรู้มั้ย (หันไปถามทุกคน)
ไข่มุก วรัทยา :หนูคิดว่าเขาน่าจะฟังไม่ออก (หัวเราะทั้งวง) แต่คิดว่าต้องสนุกแน่นอน แล้วเขาก็แอบเต้น โยกอยู่ เอาเพลงนี้เลย BNK48 เหมาะแล้ว เพลงนี้ต้องวงเรา
เจน กุลจิราณัฐ :แต่หนูว่า เขาต้องฟังออกคำนึง จะมีคอรัสคำว่า ‘อิเนะ’
เฌอปราง :จริงๆ เล่านิดนึงละกัน พอดีเพิ่งมีการไลฟ์ร่วมกับทางAKB48 ในกิจกรรมที่ว่ามานี่แหละ ซึ่งเขาก็เพิ่งรู้ว่าพวกเราได้ปล่อยเพลงนี้แล้ว ก็เชิญชวนให้ทุกคนไปเล่นได้ใน Tiktok นะ แล้วก็เชิญชวนสมาชิกทางนั้นมาเล่นอยู่เหมือนกัน
โดยส่วนตัวแล้วแต่ละคนคิดว่าซิงเกิลนี้ เป็นหมุดหมายสำคัญของ BNK48 ด้วยรึเปล่า
โมบายล์ พิมรภัส : ก็สำคัญนะ เพราะว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเราได้รับมา แล้วก็ทำออกมาให้เต็มที่ที่สุด เหมือนเราได้โชว์ศักยภาพของเราเองด้วยว่า BNK48 เป็นรูปแบบไหน เขาก็เลยทำเพลงนี้ขึ้นมา
เฌอปราง : ต้องบอกว่าเป็นโอกาสที่เรารอคอย จากที่เราได้แต่ลุ้นว่า จะได้เพลงอะไรมาแปล ถ้าแปลแล้วจะเข้าปากเรามั้ย แล้วคนจะฟังรู้เรื่องมั้ย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราจะได้เป็นเพลงที่แต่งโดยคนไทย และออกแบบเพื่อคนไทย (หัวเราะเบาๆ)
ตาหวาน อิสราภา : ใช่ ทั้งคำร้อง ภาษา เพราะว่าถ้าเป็นเพลงแปล บางทีเราต้องร้องคำที่ติดๆ กัน ซึ่งบางทีคนไทยอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง ถามว่าเมโลดี้มันเพราะมั้ย มันเพราะ แต่เวลาที่เอาคำไทยมาใส่ พยัญชนะ เสียงสระมันไม่เข้ากัน แต่คราวนี้เป็น original song ที่อย่างที่บอกว่า ทำเพื่อคนไทย เราฟังแล้วรู้สึกติดหูและร้องตามได้ง่าย
เฌอปราง : จริงๆ เราก็มีซิงเกิลก่อนหน้านี้ อย่าง สายซับ , มปร. , โดดดิด่ง , จากใจผู้สาวคนนี้ , it’me ฯลฯ ก็ทำได้ดีมาตลอด เพราะฉะนั้น ซิงเกิลซักทีเถอะนะ (หัวเราะเบาๆ)
มิวสิค แพรวา : เพราะจริงๆ ไม่ใช่ว่าวงเราไม่เคยมี original song มาก่อน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้นำมาเป็นเพลงหลัก ซึ่งหนูรู้สึกว่าก็มีความสำคัญตรงที่มันทำให้ภาพลักษณ์ของวงเรามันชัดเจนขึ้น แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า เพลง original song อื่นๆ ของ BNK48 ก็ดีเหมือนกัน
ที่มาของคำว่า ‘ดีอะ’
โมบายล์ พิมรภัส : ก็บอกก่อนเลยว่าความหมายของเพลงนี้ อารมณ์ประมาณว่า สาวๆ นั่งจับกลุ่มเมาท์มอยกัน ว่า อุ๊ย (ทำท่าประกอบ) คนนั้นก็ดีอะ คนนี้ก็ดีอะ คือคำว่า ‘ดีอะ’ มันเหมือนลักษณะโค้ดลับสำหรับสาวๆ หรือว่า หนุ่มๆ ก็สามารถใช้ได้ง่ายๆ เหมือนเรานั่งดูซีรีส์เกาหลี ประมาณว่า ‘คนนี้ดีอะ’ อะไรอย่างงี้
เฌอปราง : หรือจริงๆ ก็คือคำทั่วไป ที่เราใช้แบบ ‘ทานอันนี้ แล้วมันดีจังเลย ฉันชอบ’ ประมาณนี้
ความพิเศษของ คำร้อง ทำนองของเพลงนี้
โมบายล์ พิมรภัส : สมาชิกในซิงเกิลนี้คือ มีท่อนร้องเป็นของตัวเอง เพราะโดยปกติแล้วจะเป็นการร้องแบบกลุ่ม แต่คุณครูบอกว่า ให้สิทธิ์ในการร้องทีละคนเลย ก้เป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกดีค่ะ ก็จะได้ยินเสียงเราแบบชัดๆ
เฌอปราง : ซึ่งคุณครูก็มาถามแต่ละคนก่อนว่า ท่อนนี้โอเคมั้ย อยากปรับคำมั้ย อะไรอย่างงี้ แล้วก็อยากใส่และร้องแบบไหน ร้องว้ายไปกี่รอบ (หันไปที่โมบายล์)
โมบายล์ พิมรภัส : แล้วแต่เราเลย ซึ่งตอนที่อัดเสียง คุณครูก็บอกเลยว่าร้องไปจนกว่าเราจะพอใจเลย ซึ่งพออัดเสร็จปุ๊บ ครูก็ถามต่อว่า ได้ตามที่เราโอเคมั้ย ก็รู้สึกว่า เราได้ทำงานที่จริงจังมากขึ้น
เจน กุลจิราณัฐ : แต่ครั้งแรกที่ฟังเพลง ก็รู้สึกว่า พอฟังไปในแต่ละท่อน ก็นึกถึงหน้าเมมเบอร์ของแต่ละคนก็ลอยมาเลยว่าท่อนนี้ต้องคนนี้แน่นอน มันเข้ากับแต่ละคนเลย ก็เลย ครูสุดยอดมากๆ เลย ที่แต่งแต่ละท่อนมาให้เข้ากับเมมเบอร์แต่ละคนด้วย
ในตอนที่แต่งเนื้อร้อง "ครูเอ๊ะ" วางไว้แล้วว่าแต่ละคนร้องตรงไหนใช่มั้ย
ตาหวาน อิสราภา : คิดว่าใช่ คือเหมือนว่ารอให้เนื้อเพลงออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้วมาดูว่า ท่อนนี้เป็นคาแรกเตอร์ของใคร อย่างคำพูดของ "พี่แก้ว" (ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ) พี่เขาก็พูดคำนี้ออกมาจริงๆ ก็เลยตามที่ออกมาได้ยินเลย แต่หนูรู้สึกว่า เสน่ห์ของซิงเกิลนี้อยู่ที่ดนตรี คือดนตรีดีมาก ที่จะมีหลายพาร์ท ทั้งบริดจ์ แล้วก็มีการใส่ลูกเล่นต่างๆ นาๆ เข้าไป รวมถึงมีการแร็ปด้วย แล้วตัวท่อนหลัง มีเสียงกลองเสริมด้วย ก็ทำให้รัสึกว่าเป็นเพลงที่สนุกมากๆ มีหลายมิติ มีความหลากหลายมากขึ้น
ไข่มุก วรัทยา : อย่างซิงเกิลนี้ ก็รู้สึกว่าตื่นเต้นที่จะได้ร้องท่อนเดี่ยว ซึ่งเป็นอะไรที่ท้าทายเนอะ เพราะปกติ เราก็จะร้องกันกลุ่มละ 3 คนบ้าง 4 คนบ้าง แต่พอเป็นท่อนเดี่ยว เราก็รู้สึกว่า มันเป็นพาร์ทของเราคนเดียวนะ เราต้องทำให้ดีที่สุด อะไรอย่างงี้ ก็รู้สึกว่า จะทำยังไงให้คนฟังรู้สึกว่า รู้สึกว่าถูกเราอ้อนอยู่ ก็เลยตั้งใจร้องออกมาให้เต็มที่ที่สุด
ตาหวาน อิสราภา : คือจะบอกว่าท่อนนี้ จากที่ฟังเดโม่มาใช่มั้ย "คุณไข่" ร้องแบบตัว "คุณไข่" เลย เพราะจำได้ว่าตอนที่ฟังในห้องอัด คุ้นๆ ว่า ร้องไม่กี่รอบเองมั้ง แต่เป็นแบบเทค 2 เทค แล้วผ่าน แล้วพอมาฟังแล้ว ใช่ "คุณไข่" จริงๆ ส่วนท่อนของหนูเป็นท่อนบริดจ์
เฌอปราง : ต้องบอกว่าพอฟังเดโม่ปุ๊บ ตาหวานยกมือบอกเลยว่า ท่อนนี้ของฉัน
ตาหวาน อิสราภา : คือหนูถูกใจดนตรีท่อนนี้ ก็เลยบอก "ครูเอ๊ะ" เฉยๆ ว่า หนูชอบท่อนนี้ อยากร้องท่อนนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าครูเขาก็คิดเหมือนเราเหมือนกัน
โมบายล์ พิมรภัส : รวมๆ แล้วที่เราเล่ามา ก็ประมาณว่า ขอแค่ได้มโนก็พอใจแล้ว มีความสุขแล้ว จริงๆร้องสองท่อน ก็เป็นท่อนเปิด ฟังครั้งแรกก็ตกใจ เป็นตอนที่อัดกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วเราก็เอาเพลงนั้นไปเต้นในเอ็มวี ตอนที่เราซ้อมกัน ก็ตใจว่านี่เสียงใครนะ ก็เลยขอแก้ใหม่ เพราะรู้สึกว่ายังไม่พอใจ คือท่อนที่หนูร้องก็รู้สึกว่าความหมายมันดีนะ เป็นท่อนเปิดที่แบบว่า เราต้องเมาท์มอยกันก่อน แบบ ‘ฉันเห็นแล้ว ว้าย เก็บไว้ก่อน แล้วค่อยเมาท์กับเพื่อน’ ประมาณนี้
เฌอปราง : อยู่เป็นหนี่งพอยท์ รักเดียวใจเดียว ตอนที่ได้ท่อนนี้รู้สึกยังไงเหรอ ตอนนั้นหนูก็ไม่รู้ว่าได้ท่อนไหน เพราะว่าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตรงไหนโอเค หนูก็เลยแบบว่า ท่อนนี้ก็ได้ "ครูเอ๊ะ" ก็บอกว่า ท่อนนี้โอเคเลย เอาเสียงแมวๆ (หัวเราะเบาๆ) หรืออาจจะมองว่าเป็นเสียงดุๆ ก็ได้ ต้องไม่หลายใจ (ทำเสียงเข้ม) ก็เลยว่า ครูอยากได้แบบไหน
แสดงว่าก็ร้องให้ไป 2 รอบ
เฌอปราง : ไม่ ตอนที่อัดคือลองไปหลายๆ แบบแล้วว่า ‘ครูคะ ครูชอบแบบไหนคะ’
โมบายล์ พิมรภัส : เวลาตอนอัด เราก็ลองร้องได้แบบหลายๆ โทน
เฌอปราง : ก็เลือกเอาว่า ถ้าชอบโทนนี้ ก็อัดเพิ่มแล้วลองดูว่าถ้าเป็นแบบนี้แล้วเป็นยังไง
มิวสิค แพรวา : ของหนูก็ความหมายตรงตัว จริงๆ ไม่ได้เลือกท่อนนี้ แต่คุณครูบอกว่าท่อนนี้ดูเป็นตัวเราดี ซึ่งหนูเองก็ไม่ติดนะ หนูก็ชอบเหมือนกัน แล้วก็เข้าปากด้วย
เจน กุลจิราณัฐ : ของ "เจน" คือท่อนต่อจาก "โมบายล์" จะเป็นแบบออร่าเปล่งปลั่ง ออร่าเรืองแสง คือทุกท่อนคุณครูจะเป็นคนวางและเลือกให้ว่าใครร้องท่อนไหน
โมบายล์ พิมรภัส : มันอาจจะไม่ได้มาจากตัวเราหมดเลย เป็นแค่ตัวที่สื่อสารออกไป
เฌอปราง : แต่ตอนแรกครูก็ถามก่อนนะว่าชอบท่อนไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะตรงกับท่อนที่ครูวางไว้ให้อยู่แล้ว
มีใครมั้ยที่กว่าจะร้องท่อนนี้ได้คือยากมาก
มิวสิค แพรวา : น่าจะเป็นท่อนของ "โมบายล์" เพราะว่า คำแรกของท่อน ถ้าเป็นแบบแรงเกินไป มันก็จะดูอีกแบบ แล้วหนูรู้สึกว่า "โมบายล์" เล่าเรื่องได้ดีมาก มันดูสมูธ
โมบายล์ พิมรภัส : อย่างมีท่อนนึง เรียกได้ว่าเป็นท่อนที่แอ๊วมากที่สุดละกัน ซึ่งซอร์ฟสุดแล้ว เทคอื่นคือดูเดหมือนตกใจ แต่ท่อนนี้ดูเหมือนมีความซอฟหน่อย มีความแอ๊วๆ นิดนึง ถ้าลองสังเกตดีๆ นะ ส่วนคำว่าว้ายนี่ จะมีหนูกับ "พี่เป้" (จิรดาภา อินทจักร) แล้วก็ไปแกล้งกันอยู่ 2 คน ตลอดทั้งสามวันที่อัดเสียงร้องเลย อย่าง "พี่เป้" จะเป็นแบบว่า พออัดเสียงไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นแบบว่ายังเลือกไม่ได้ซักที จนแบบว่า ‘ครูคะ อันที่แล้วก็ดีอยู่แล้ว’ (หัวเราะทั้งวง) แต่สรุปแล้วก็เอาเทคที่ได้ยินกันนี่แหละค่ะ ตลกดี
จากเท่าที่ฟังมา ‘ดีอะ’ จะมีการใส่ลูกเล่นแบบไทยๆ อยู่ในเพลงด้วย
เจน กุลจิราณัฐ : เห็นครูบอกว่า ในแต่ละท่อน จะมีการใส่ดนตรีที่แตกต่างกันออกไป อันนี้ก็เพิ่งรู้ในตอนที่อ่านรายละเอียดเหมือนกัน ซึ่งรายละเอียดในเพลงนี้คือเยอะมากๆ เหมือนกับเพลงนี้ทำทำนองออกมาแล้วรู้สึกว่าอยากเต้นตาม แต่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป มีแบบพอขยับตามได้นิดหน่อย
โมบายล์ พิมรภัส : หนูรู้สึกว่าความพิเศษของเพลงนี้คือ จะหาท่อนฮุคไม่เจอ ไม่ใช่ว่าจะหาตรงไหนนะ แต่มันน่าร้องไปหมดทุกฮุคเลย จะเป็นแบบว่า ท่อนนี้ก็ขายได้ ท่อนนี้ก็เอามาเล่นได้เหมือนกัน
เจน กุลจิราณัฐ : เหมือนตอนแรกก็สับสนว่า ท่อนนี้ไม่ใช่ท่อนฮุคเหรอ
โมบายล์ พิมรภัส : มันมีหลายท่อนจำหลายอันมาก
เฌอปราง : ปัจจุบันก็เรียกไม่ถูกนะว่าท่อนไหนคือท่อนฮุค
มาที่เรื่องชุดของซิงเกิลนี้
เฌอปราง : ชุดนี้เป็นสไตล์สตรีทลักชูรี่ ให้ดูแบบเท่ๆ สปอร์ตๆ หน่อย มีหมวก มีสร้อย มีเครื่องประดับ
โมบายล์ พิมรภัส : ตรงรูปการ์ตูน เราได้พี่ "ยุรี เกนสาคู" ศิลปินชื่อดังมาออกแบบและวาดให้ รวมถึงสีต่างๆ ที่เรายังไม่เคยทำมาในชุดของเราด้วย
เจน กุลจิราณัฐ : เป็นสีแพนโทนของปีนี้ จะเป็นสีส้มและสีฟ้า เรียกว่านำเทรนด์ สมัยใหม่เรื่อยๆ
เฌอปราง : ส่วนตัวนกนั้น "พี่ยุรี" บอกว่า ฟังเพลงแล้วนึกถึงนกตัวน้อยมาเมาท์มอยอาบน้ำกันในตอนเช้า พวกนกหงส์หยก , นกแก้ว แบบเมาท์เก่ง อะไรอย่างงี้ แล้วเรื่องสถานที่ก็เป็นแบบออนเซน ก็เหมือนกับช่วงเวลาไพรเวท ช่วงเวลาที่ผู้หญิงเมาท์มอยกัน แบบจับกลุ่มกันไป เพราะไม่สามารถเข้าห้องน้ำคนเดียวได้ ก็มีภูเขาแล้วก็มีนก มีแปะหัวอยุ่ข้างบน แล้วก็เป็นชุดที่เคลื่อนไหวง่าย เต้นง่าย
ตาหวาน อิสราภา : คือตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว เข้าห้องน้ำต้องถามเพื่อน แบบ เธอจะมีใครไปเข้าห้องน้ำมั้ย คือต้องไปกันเป็นแกงค์ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
ท่าเต้นเพลงนี้
มิวสิค แพรวา : จริงๆ คนที่ออกแบบท่าเต้นหลักๆ เลย จะมี ครูติ๊ก (ณัฐธีร์ ติวาไชยพันธ์), ครูวรรณ (ปิยะวรรณ สุวรรณอุดมกิจ) และ ครูนน (ณพวุฒิ จารัตน์) ซึ่งครูทั้ง 3 คนนี้ เขาก็จะมีสไตล์เป็นของตัวเอง คนนึงก็เป็นสายแซ่บ อีกคนก็เป็นสายแมนๆ อีกคนก็เป็นสายสวยแบบผู้สาวจ้า อะไรอย่างงั้นเลย (หัวเราะทั้งวง) แล้วพอมารวมกันทั้ง 3 คน ก็รวมความหลากหลายของแต่ละคนมา เพื่อที่จะทำให้คนที่จะรับท่าทั้งหมด เขามีความรู้สึกว่า ท่านี้มันเต้นง่ายแล้วเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือว่าสายสวย สายแซ่บ หรือ สายแมน ก็จะเป็นท่าที่ทุกคนเต้นได้ทั้งหมด
เจน กุลจิราณัฐ : ได้ทุกเพศทุกวัย (ชูมือขึ้นมา) อันนี้คือไม่มีแหวนนะจ๊ะ
โมบายล์ พิมรภัส : ความหมายนึงคือ เป็นโสดมาตั้งนานแล้ว มีความฮอทๆ
เฌอปราง : ก็รู้เลยว่าเป็นท่า "ครูนน"
ตาหวาน อิสราภา : แล้วก้จะมีท่าท่อนบริดจ์ที่แยกเป็น 2 ฝั่ง เป็นท่าที่เต้นสวยๆ เป็นไลน์แจ๊ส ก็จะเป็นไลน์ของ "ครูวรรณ" แล้วก็จะมีอีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบเลย แต่ไม่รู้ว่าใครชอบมั้ย ก็คือ ตรงแดนซ์เบรก น่าจะเป็นครูทั้งสามท่านที่ช่วยๆ กันคิด จะเป็นท่อนที่ทุกคนเก็บแรงเพื่อมาเต้นท่อนนี้ แบบว่าเอาให้สุด จัดเต็ม โยนไมค์เลย แล้วก็เต้น (ทำท่าประกอบ)
เฌอปราง : คือตอนที่รับท่ามา พวกเราก็ถามครูว่า ‘ครูคะ พอถึงท่อนแล้ว จะต้องถือไมค์ร้องมั้ย’ (หัวเราะเบาๆ) แต่สุดท้ายก็ออกแบบกันว่า ถ้าไป Perform กัน ก็จะมีเสียงร้องทับมาให้ แบบท่อนนี้เต้นไปเลย ไม่ต้องร้องแล้ว ค่อยมาร้องในท่อนต่อไป เพราะเมมฯ ไม่รู้จะร้องยังไงกีบท่านี้จริงๆ
ยากมั้ย
โมบายล์ พิมรภัส : นิดหน่อย ครูบอกว่าจะเพิ่มทักษะในเรื่องการเต้นเข้าไปด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วท่าญี่ปุ่นเขาจะเน้นมือมากกว่านะ เน้นมือ เน้นหัว เน้นความสดใสแล้วแต่เพลงไป แต่คราวนี้ใช้ทางลำตัวด้วย ดูมีทักษะมากยิ่งขึ้น
มิวสิค แพรวา : มีรายละเอียดเยอะขึ้นย้ำเลยว่าพวกเรามีการเปลี่ยนที่เยอะมาก ด้วยความที่เป็นเพลง original song ครูเขาก็เลยบอกว่า เริ่มมาอาทิตย์ใหม่ ครูว่าท่านี้ขอเปลี่ยนตรงนี้ได้มั้ย จากท่าที่เป็นอย่างงี้ ครูเขาก็ขอเปลี่ยนเป็นอย่างงี้ มันก็เลยยากตรงที่รายละเอียดมันเยอะมาก อย่างเช่นท่อน ‘แค่อยู่ใกล้ๆ กัน’ มันจะเป็นท่าที่เหมือนกับเราจะยื่นซบใครซักคน มันไม่ใช่แค่ปกตินะ มันจะมีความช้าด้วย แบบช้าๆ ชัดๆ
เฌอปราง : แต่เพลงครูเร็วมากเลย
โมบายล์ พิมรภัส : หนูว่าความยากอีกอย่างนึง คือเรื่องบล็อกกิ้ง คือ 16 คน แต่สามารถทำให้ทุกคนโดดเด่นและฉายออกมาให้ตัวเองได้ จะมีการสลับตำแหน่งแบบ เธอไปซ้าย ฉันไปขวา ต้องหลบและคุยกัน
เฌอปราง : เฌอก็วิ่งทั่วเวทีนิดนึง
เจน กุลจิราณัฐ : แต่ตอนเต้นก็จะชอบท่อน "พี่ไข่" นะ ที่ทุกคนจะแบบจะเต้นแข็งแรง แต่ "พี่ไข่" จะมาแบบสวยๆ มาเลย
ตาหวาน อิสราภา : มีความลีดมือ หนึ่งกรุบ
เฌอปราง : ก็เป็นประมาณนั้น บล็อกกิ้งก็ออกแบบโดยครูเต้นของพวกเรานี่แหละ ถ้าพวกเราเดินไม่สะดวก ก็บอกครูได้ ก็ปรับแก้กันได้ หนูชนกับ "คุณไข่" บ่อย (หัวเราะเบาๆ)
พูดถึงเพลงนี้ เหมือนในมิวสิควิดีโอมีลูกเล่นบางอย่าง เช่น มีการแบ่งถ่ายเป็นคู่ๆ
เฌอปราง : ตอนแรกเราคาดว่าจะมีพระเอกเอ็มวี
ตาหวาน อิสราภา : ใช่ เราคุยเล่นกัน
มิวสิค แพรวา : แต่เห็นที่เขาบอกมาได้ยินมา เขาบอกว่ามีเป็นความรู้สึกที่ บางทีสมาชิกก็จะแบบ ‘เอ๊ย ถ้าเกิดเราอยู้กับคนนั้น ก็คงจะดี’ นู่นนี่นั่น ซึ่งบางทีถ้าเราอยู่กันเองมันก็ดีเหมือนกัน เป็นความรู้สึกที่แบบตัวเองก็ได้จ้า ดีเหมือนกัน
ตอนถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง
เฌอปราง : สนุก เพราะมีคนที่อยู่หน้ากล้อง แล้วก็มีคนเป็นกล้องที่อยู่เบื้องหลัง แล้วก็โดนแซวกันไปเอง
มิวสิค แพรวา : มีตากล้องที่เป็นสมาชิกกันเองด้วย ก็รู้สึกสนุกดี เพราะว่า เวลาโดนเพื่อนแซว เราก็แซวเพื่อนกลับ
ตาหวาน อิสราภา : อย่าให้ถึงตาเธอบ้างนะ ก็ช่วยทำให้บรรยากาศมันผ่อนคลาย เหมือนตอนถ่ายมันก็จะมีความแบบ ทั้งความเช้า หรือว่ามีความเขินอายอะไรก็ไม่รู้ คือเราไม่ได้เขินกันเองนะ แต่เขินทีมงานตากล้องต่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร แต่พอมีเพื่อนๆ มาช่วยแซว มันก็ทำให้บรรยากาสมันผ่อนคลายขึ้น สนุกมากขึ้น
อย่างความรู้สึกของ "เฌอปราง" กับ "มิวสิค" ที่เคยถูกแฟนคลับเรียกว่าเป็นคู่จิ้น "เรือหลวง" พอรู้ว่าเป็นคอนเซปต์แนวนี้
มิวสิค แพรวา :จริงๆ ก็โดนทุกคน ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างงั้น จริงๆ เดือน มิ.ย.นี้ สำหรับหนูก็ถือว่าเป็น pride month ด้วย มันก็เป็นการเปิดตอนรับเดือนนี้พอดี คือก็อยู่ด้วยกัน คือจริงๆ ไม่เฉพาะกับพวกเรา กับคนอื่นยังได้เลย ไม่เป็นไร "สิค-เจน" ก็ยังได้ (หัวเราะ)
เฌอปราง :คือก็ได้หมด เพราะว่าก็รู้จักกันมานาน ตั้งแต่แรกๆ เขาก็เลยเหมือนกับชิปไว้ แล้วคนชอบ อะไรอย่างงี้ แต่ชอบคู่นี้เหมือนกัน "ไข่-ปู๊ป"
ไข่มุก วรัทยา :ก็เป็นโมเมนต์ที่คนไม่ค่อยได้เห็นเนอะ เขาเรียกว่าเรือดำน้ำ นานๆ จะโผล่มาที (หัวเราะเบาๆ) มันก็เป็นโมเมนต์น่ารักๆ ที่ทุกคนจะได้เห็นในเอ็มวีเนอะ ว่าอยากเห็นอะไรที่พิเศษ ก็สามารถเข้าไปดูในเอ็มวีซิงเกิลนี้ได้ ซึ่งปกติ "เป้" จะไม่เล่นอะไรแบบนี้แน่นอน (หัวเราะเบาๆ)
โมบายล์ พิมรภัส :ส่วนคู่หนูกับ "พี่แก้ว" เหรอ ก็
เจน กุลจิราณัฐ :มันจะมีบอกว่าเป็นคู่พี่สาว-น้องสาว
โมบายล์ พิมรภัส : ใช่ ด้วยความที่อายุห่างเยอะมาก แต่ก็มาสนิทกัน อย่างตอนถ่ายทำ ก็ไม่ค่อยเขินเท่าไหร่ เพราะว่าอย่างตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็ทำโมเมนต์ปกติอยู่แล้ว แล้วเราก็มีเพลงที่แบบเรารู้ใจกันว่าเราจะเอาเพลงนี้ เพราะว่าเป็นเพลงที่ชอบฟังมากอยู่ช่วงนึง ประมาณปีนึง ที่ฟังเพลงนั้นอยู่เพลงเดียว ก็สนุกดี ที่ได้คู่กับ "พี่แก้ว" ได้ผ่อนคลายดี คืออยู่ด้วยกันตลอดเวลา เลยไม่เกร็ง
"โมบายล์" ที่ได้กลับมาเป็นเซ็นเตอร์ของซิงเกิล รู้สึกยังไงบ้าง
โมบายล์ พิมรภัส :รู้สึกดีใจมากๆ อยากขอบคุณทางผู้บริหารด้วย ที่เลือกสิ่งดีๆ ให้กับโมบายล์ด้วย ซึ่งเมื่อได้รับมาแล้ว ก็จะพยายามทำออกมาอย่างเต็มที่ สุดความสามารถเลย รู้สึกตื่นเต้นและยินดีกับสิ่งที่กำลังจะเจอ แต่ว่าหนูก็ไม่ได้กดดันอะไร เราแค่เป็นตัวตนของเราให้มากที่สุด แล้วก็เอาเพลงนี้ออกไปให้ทุกคนได้รับฟัง และมีความสุขกับเพลง แค่นั้น
เรื่อง : ดรงค์ ฤทธิปัญญา , สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ , วิดีโอ : ดรงค์ ฤทธิปัญญา
