องค์การเภสัชกรรม และ กรมควบคุมโรค ตอบคำถามคาใจประชาชน ปมการนำเข้าวัคซีนทางเลือก ไฟเซอร์-โมเดอร์นา หลังมีการแฉภาครัฐไม่ยอมเซ็นสัญญาซื้อ ระบุ ต้องรอ รพ.เอกชน นำเงินจองมาให้ก่อน เพื่อยืนยันความต้องการ จึงสามารถไปเซ็นสัญญาได้ ส่วนร่างสัญญาซื้อไฟเซอร์ อัยการตรวจสอบแล้ว จะนำเข้า ครม.อังคารนี้
จากกรณี นพ.บุญ วนาสิน เจ้าของเครือ รพ.ธนบุรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า รัฐบาลไทยไม่ยอมเซ็นสัญญาสั่งซื้อวัคซีน ทั้งไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา ทำให้ไทยยังไม่ได้วัคซีนชนิด mRNA ที่เป็นวัคซีนที่ดีที่สุด ทั้งที่ประเทศในเอเชียได้กันเกือบทุกประเทศ แล้วนั้น วันนี้ (3 ก.ค.) ในการแถลงข่าวของ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ได้ชี้แจงว่า ได้มีการติดต่อโมเดอร์นา ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 64 ขอนำเข้าวัคซีนในช่วงกลางเดือน มิ.ย. และได้รับการตอบกลับในวันที่ 28 ก.พ.ว่า วัคซีนมีจำกัด เนื่องจากความต้องการสูงมาก สามารถส่งเร็วที่สุด คือ ไตรมาสแรกของปีหน้า นอกจากนี้ องค์การเภสัชฯ ยังได้ติดต่อไปยังวัคซีนชนิดอื่นอีก 2 เจ้า แต่ก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน คือ ไม่สามารถส่งได้ทันในปีนี้
นอกจากนี้ ยังได้พยายามติดต่อกับ บ.ซิลลิค ซึ่งเป็นตัวแทนของโมเดอร์นาแต่เพียงผู้เดียว เพื่อขอนำเข้าวัคซีนโดยเร็ว ซึ่ง บ.ซิลลิค ก็ยืนยันว่า ต้องจัดซื้อผ่านรัฐเท่านั้น ซึ่งเป็นนโยบายของโมเดอร์นากับทั่วโลก
สำหรับสาเหตุของความล่าช้าเกิดจากวัคซีนชนิดนี้ ไม่มีการจัดงบประมาณจากภาครัฐ และตามกำหนดเดิมวัคซีนจะได้ในช่วงปีหน้า แต่มีการเจรจาต่อรองจนได้มาในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ คือ เร็วขึ้นกว่าเดิม 1 ไตรมาส ซึ่งในไตรมาส 4 ปีนี้ จะได้ 4 ล้านโดส ปีหน้า 1 ล้าน จะได้ต้นปีหน้า ซึ่งทางอเมริกาก็ไม่ได้แจ้งมาว่าเดือนไหน
สาเหตุที่ องค์การเภสัชกรรม ยังไม่เซ็นสัญญา คือ ต้องการจะให้เวลากับทางโรงพยาบาลเอกชนที่ต้องการสั่งจองได้รวบรวมเงินมาก่อน เอาเงินมาแล้ว จึงจะไปเซ็นสัญญาได้ หากไปเซ็นก่อนโดยที่ความต้องการไม่มีอยู่จริง องค์การเภสัชกรรมรับผิดชอบไม่ไหว เนื่องจากเป็นวัคซีนราคาแพง และจำนวนมาก เราจึงต้องรอ ซึ่งได้ตกลงกับทางโรงพยาบาลเอกชนไว้แล้วว่าภายในเดือน ก.ค.นี้ ให้นำเงินมัดจำมาวาง จากนั้นจะมีการเซ็นสัญญากับ บ.ซิลลิค ภายในสัปดาห์แรกของเดือนหน้า ซึ่งก็ได้สื่อสารออกไปโดยตลอด ส่วนตัวสัญญามีการร่างเอกสารไว้หมดแล้ว และข้อจำกัดของเอกสารที่เป็นความต้องการของต่างประเทศ เราก็ได้ส่งหนังสือไปหารือกับอัยการสูงสุดตามขั้นตอน และเราก็เพิ่งจะได้รับเอกสารจาก บ.ซิลลิค ตอนเช้าเมื่อวานนี้ ก็ได้รวบรวมและลงนามตอนเที่ยง เพื่อส่งไปให้อัยการตรวจสอบ ซึ่งบางเรื่องอาจจะต้องหารือใน ครม.ด้วยซ้ำ เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจ ซึ่งเราต้องทำอย่างรอบคอบ
สำหรับวัคซีนชนิดอื่นๆ ทางองค์การเภสัชฯ ก็เฝ้าจับตาอยู่ตลอด ด้านวัคซีนที่ประเทศไทยผลิดเอง ได้ผ่านวิจัยในเฟส 1 แล้ว ผลออกมาน่าพอใจ กำลังจะมีการวิจัยในเฟส 2 ปลายเดือนนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 10 สิงหาคมนี้
ต่อมา นายแพทย์ โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวถึงประเด็นได้รับมอบหมายภารกิจหาวัคซีนเจรจาซื้อวัคซีนไฟเซอร์ จะมาในไตรมาสที่ 4 โดยทางรัฐบาลจะเป็นผู้จัดซื้อโดยตรง ซึ่งก็ได้สั่งซื้อไป 20 ล้านโดส ตั้งแต่เดือน เม.ย. แล้ว โดยมีการลงนามข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล และลงนามข้อตกลงแบบผูกพันทางกฎหมายไปเมื่อเดือนที่แล้ว ก็เหลือแต่ “สัญญาซื้อ” ที่ยังไม่ได้เซ็น ซึ่งต้องมีการตรวจสอบเงื่อนไขอย่างรอบคอบเช่นเดียวกับโมเดอร์นา ไม่ให้ไทยเสียเปรียบมากเกินไป ซึ่งทางสำนักอัยการสูงสุด ได้ตรวจสอบแล้ว และจะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติในวันอังคารนี้ ถึงจะดำเนินการ “เซ็นสัญญาสั่งซื้อ” ได้ ซึ่งเดิมของไฟเซอร์นั้น ได้รับคำตอบว่า จะส่งให้ได้ Q3 แต่ล่าสุด ได้รับแจ้งว่า ไฟเซอร์ขอเลื่อนไปเป็น Q4 เหมือนกัน ซึ่งก็คงกำลังต่อรองกันอย่างเต็มที่เหมือนกันว่าจะได้เร็วกว่านี้หรือไม่ หรือได้มาบางส่วนก่อนได้หรือไม่
