แม่ค้าออนไลน์รายหนึ่งโวยผ่านทวิตเตอร์ ถูกกระทรวงการคลังเรียกเงินคืนโครงการเราชนะและคนละครึ่ง ระบุว่า ทำผิดเงื่อนไข ย้าย GPS ในแอปฯ เนื่องจากขายของออนไลน์เลยต้องทำแบบนี้ พบเมื่อ 5 เดือนก่อนกรมประชาสัมพันธ์เคยเตือนแล้ว เราชนะ ห้ามสแกนซื้อออนไลน์ ห้ามแลกเป็นเงินสด
วันนี้ (26 มิ.ย.) ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยรีที!! ตอนนี้มีแม่ค้าออนไลน์ 2,000 กว่าร้าน กำลังถูกเอาเปรียบจากการคลังและรัฐบาล ถูกเรียกเงินคืนทั้งทุนและกำไรตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน ทั้งๆ ที่ตอนไปเปิดถุงเงิน ธ.กรุงไทย แจ้งว่าเปิดได้ ช่วยพวกเราด้วยค่ะ ประกบมือประกบมือ #ล็อกดาวน์กรุงเทพ”
อ่านเธรดทวิตเตอร์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
“เขาให้จ่ายใน 30 วัน พวกเราผิดอะไร อาชีพเราก็ไม่ได้หาเลี้ยงครอบครัวหรอคะ ช่วยพวกเราด้วยค่ะ ธนาคารกรุงไทยแจ้งเรามาว่าขายได้ แต่พอขายไปขายมากลับผิดเงื่อนไขซะงั้น”
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า “คือว่าพวกเราโดนการคลังสั่งปิดฟังก์ชันเราชนะและคนละครึ่ง (ในแอปถุงเงิน) เขาบอกว่าพวกเราทำผิดเงื่อนไข (ย้าย GPS ในแอป) เนื่องจากพวกเราขายของออนไลน์ค่ะเลยต้องทำแบบนี้ และตอนที่เราไปเปิดร้านถุงเงินที่กรุงไทย กรุงไทยบอกขายของออนไลน์ได้ แต่ตอนนี้การคลังบอกขายไม่ได้ค่ะ”
“ไม่คิดว่าประโยคในหนัง The Hunger Games จะเป็นจริง “อย่ารับอาหารจากรัฐบาล ไม่คุ้มถ้าจะใส่ชื่อลงในโถ” มันคือชีวิตจริงของคนไทย รับอะไรมาก็ต้องจ่ายคืน 2 เท่า #โครงการส้นตีน”
“การคลังไม่ใช่แค่เรียกเงินคืนทั้งหมดทั้งทุนและกำไรของเรา แต่เรียกเงินในโครงการร่วมที่รัฐบาลเคยแจก เช่น เราชนะ คนละครึ่งคืนทั้งหมด สรุปแล้วโครงการพวกนี้มีไว้ทำไม ? #ล็อกดาวน์กรุงเทพ”
“คุณทำเหมือนว่าอาชีพของเราผิดกฎหมาย ทั้งๆ ที่เราหากินสุจริต ไม่ได้คดโกงใคร เราจำเป็นต้องขายออนไลน์ เพราะไม่ต้องเช่าที่และเราถนัดมากที่สุด คุณไม่คุยกันให้ดี บางสาขาบอกเปิดได้ บางสาขาเปิดไม่ได้ แต่พอเราเปิดมา กลับบอกว่าพวกเราผิดเงื่อนไข ถูกต้องแล้วหรอคะ?”
“หลังจากโดนสั่งปิดเเละเรียกเงินคืน นอกจากจะสูญเสียรายได้แล้วยังทำให้จิตตก ซึมเศร้าด้วยค่ะ การที่รู้ว่าต้องมาจ่ายเงินเยอะขนาดนี้คืนคลังมันทำให้เราเครียดมากๆ เงินเก็บทั้งชีวิตเราจะทำยังไง มันน้อยสำหรับพวกคุณแต่มันคือทั้งชีวิตของเรา ไม่สิ เราแทบมีไม่พอจ่ายด้วยซ้ำ”
“ได้โปรดเถอะค่ะ อาชีพเราแค่ย้ายจากหน้าร้านไปในโลกออนไลน์ ซึ่งเราต้องเสียภาษีเหมือนอาชีพอื่นๆ แต่กลับไม่สามารถใช้ถุงเงินได้ มิหนำซ้ำ ข้อมูลที่ธนาคารให้มายังผิด แต่กลับมายัดความผิดให้พวกเรา”
“ประชุมออนไลน์ได้ แต่ขายออนไลน์ไม่ได้ งงค่ะ จะให้ขับรถไปสแกนข้ามจังหวัดหรอคะ ถ้าสมมติลูกค้าอยู่ใต้ แม่ค้าอยู่เหนือทำยังไงคะ #ล็อกดาวน์กรุงเทพ"
อย่างไรก็ตาม ได้มีชาวเน็ตแย้งว่า “เงื่อนไขการสมัครระบุไว้แบบนี้นะคะ ต้องรับชำระสินค้าหรือบริการโดยตรงจากประชาชน นั่นหมายความการขายออนไลน์ทำไม่ได้ไม่ทราบตอนลงทะเบียนได้สอบถามทางธนาคารหรืออ่านเงื่อนไขก่อนหรือเปล่า แล้วนี่คือเงื่อนไขที่ หากร้านค้าทำผิดกฎ หรือฝ่าฝืน ระบุว่าต้องจ่ายเงินคืน ภายใน 30 วัน มันเป็นเงื่อนไขในสัญญาตอนเราลงทะเบียนยอมรับนะคะ”
ก่อนหน้านี้ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 กรมประชาสัมพันธ์ โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 9 ก.พ. หรือเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ระบุว่า “เราชนะ ห้ามสแกนซื้อออนไลน์ ห้ามแลกเป็นเงินสด" ระบุว่า "เราชนะ ห้ามซื้อสินค้าโดยการสแกนออนไลน์ ห้ามแลกเป็นเงินสด หากตรวจสอบย้อนหลังพบกระทำผิด ท่านจะมีความผิดทั้งร้านค้าและประชาชน โดยเฉพาะผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ส่งภาพบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและรหัส 6 หลัก ไปให้ร้านค้าผู้รับจ้าง แอดมินแนะนำให้ท่านรีบเปลี่ยนรหัส 6 หลักนะคะ ถ้าเงินเข้ารอบต่อไป ท่านอาจจะไม่ได้ใช้เงิน กรณีพบร้านค้ากระทำดังกล่าว ลูกค้าสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เว็บไซต์คนละครึ่ง (halfhalf@fpo.go.th) หรือ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 -273 9020 ต่อ 3697,3527 ,3548, 3509 (เวลาราชการ) หรือ ธนาคารกรุงไทย โทร. 02-111-1144 ตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ”
