โฆษกกรมสรรพสามิต ชี้แจงกรณีดรามาแม่ค้าน้ำส้มถูกล่อซื้อ เผย ร้านเข้าข่ายโรงอุตสาหกรรมผลิต ทำไม่ได้มาตรฐาน ยัน จนท.แค่เข้าไปให้คำแนะนำ เพื่อให้เข้ามาอยู่ในระบบและเสียภาษีอย่างถูกต้อง โดยไม่ได้เรียกค่าปรับเงิน 12,000 บาท ตามที่เป็นข่าว
จากกรณีโซเชียลฯ แห่วิจารณ์ หลังแม่ค้าน้ำส้มดีใจหลังมีลูกค้าสั่ง 500 ขวด แต่กลับถูกกลุ่มบุคคลอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ระบุว่า หากขายน้ำส้มต้องมีใบอนุญาต และต้องเสียค่าปรับสูงถึง 12,000 บาท
อ่านข่าวประกอบ - แม่ค้าน้ำส้มเซ็ง! คิดว่าขายดีรับออเดอร์ 500 ขวด สุดท้ายถูกล่อซื้อ อ้างไม่มีใบอนุญาต
ล่าสุด วันนี้ (16 มิ.ย.) มีรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต และในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต นายณัฐกร อุเทนสุต ออกมากล่าวถึงประเด็นดรามาแม่ค้าน้ำส้มที่ถูกล่อซื้อว่า
ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง ว่า มีบางโรงอุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่มที่ไม่ได้มาตรฐานและยังไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต ซึ่งกรมสรรพสามิตได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้าทำการตรวจสอบ และได้ดำเนินการให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเข้าระบบและเสียภาษีอย่างถูกต้องแล้ว จำนวน 4 ราย ซึ่งรายนี้เป็นรายที่ 5
โดยโรงอุตสาหกรรมของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ผลิตเครื่องดื่มที่ไม่ได้มาตรฐานและยังไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตจึงได้ทำการให้คำแนะนำเพื่อให้เข้ามาอยู่ในระบบและเสียภาษีสรรพสามิตอย่างถูกต้อง โดยไม่ได้เรียกค่าปรับเงิน จำนวน 12,000 บาท ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
โฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้มอบนโยบายไปยังเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งให้คำแนะนำไปยังผู้ประกอบการให้เข้ามาอยู่ในระบบ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และ ความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าโดยทั่วไป
“หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ และจะมอบสินบนนำจับให้ ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว”