รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 5 - 11 มิ.ย. 2564)
อันดับ 1 : โหมโรงแอสตร้าเซนเนก้า ปูพรมทั่วประเทศ ก้าวกระโดดที่ 3 ในอาเซียน นายกฯ ย้ำทุกคนได้ฉีดแน่นอน
สิ้นสุดการรอคอย สำหรับการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ หลังได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าลอตแรก 1.8 ล้านโดส พบว่าเฉพาะวันแรกมีผู้รับวัคซีนเข็มที่ 1 มากถึง 388,872 คน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ย้ำว่าทุกคนได้ฉีดแน่นอน เดือนนี้จะทยอยกระจายวัคซีนเป็นงวดๆ ทุกสัปดาห์ตามสัดส่วนประชากร ความเสี่ยงพื้นที่และคลัสเตอร์ใหม่ๆ ภายหลังกล่าวว่า อะไรที่ทุกคนยังไม่สบายใจก็ต้องขอโทษด้วย จะทำให้ดีที่สุด เราทุกคนตั้งใจทำเพื่อคนไทยทุกคน
ด้านการจัดหาวัคซีนพบว่า รัฐบาลมีการเจรจาจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติม ได้แก่ ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส อีกด้านหนึ่งมีวัคซีนซิโนแวคลอตใหม่ 1 ล้านโดส มาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ทำให้ปัจจุบันจีนส่งออกและบริจาควัคซีนซิโนแวคให้แก่ไทยทั้งหมด 10 ลอต รวม 7.5 ล้านโดส ขณะที่วัคซีนทางเลือก ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ออกกฎซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มที่ประกาศขายเข็มละ 888 บาท และห้ามมีการหาผลประโยชน์จากวัคซีน ขณะที่ ศบค. ปลดล็อกให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนทางเลือกได้ แต่ยังต้องซื้อของรัฐและไม่ซ้ำซ้อนกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
อนึ่ง ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิ.ย. มีการจัดสรรวัคซีนทั้งหมด 6,927,357 โดส จำนวนผู้ได้รับวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. รวม 1,448,964 โดส และนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. รวม 5,667,058 โดส เป็นอันดับ 3 ในอาเซียน รองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
อันดับ 2 : ลุงพลเข้าสภาฯ ทนายจี้สอบตำรวจออกหมายจับ นายกฯ บิ๊กตู่ถึงกับอึ้ง "เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย"
หลังจากนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล อายุ 45 ปี เข้ามอบตัวในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ และศาลจังหวัดมุกดาหารอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ นำลุงพลพร้อมนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ภรรยา มายื่นหนังสือต่อนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ ให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับลุงพล ที่รัฐสภา เรื่องนี้ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมว่า มีแถลงข่าวข้างล่าง ก็เอาผู้ต้องหาคดีมาแถลงข่าวที่สภาฯ ก็ไม่รู้อะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็มองว่าไม่เหมาะสม และเตรียมเรียกมาชี้แจงอีกด้วย แต่นายสิระอ้างว่าชี้แจงกับผู้ใหญ่ของพรรคไปแล้วว่า เป็นเรื่องปกติที่รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล รัฐสภาเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยทั่วไปคนที่มีปัญหาก็มาพึ่งสภาฯ ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดตัวทีมทนายความ เพื่อช่วยเหลือนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ตามที่ได้รับมอบอำนาจ โดยมีนายวินัย ชุมสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าทีม ยืนยันว่าการสู้คดีไม่มีค่าใช้จ่าย
อันดับ 3 : ผ่านฉลุย พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน นายกฯ แจงไม่ได้กู้ทีเดียว ภูมิใจไทยเด็กดีไม่มีใครกล้าแตกแถว
หลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5 แสนล้านบาท อย่างดุเดือด ในที่สุดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. มีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 270 เสียง ไม่เห็นชอบ 196 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง จากทั้งหมด 469 เสียง โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงว่า พ.ร.ก.กู้เงินฉบับนี้สาระสำคัญคือ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัคซีน 3 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยา 3 แสนล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม 1.7 แสนล้านบาท ยืนยันกระทรวงการคลังจะทำด้วยความรอบคอบ อยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การบริหารจัดการเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท พยายามเร่งเบิกจ่ายเต็มที่ ส่วนเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ไม่ได้กู้ทีเดียว เป็นการทยอยกู้ ไม่เกินกรอบร้อยละ 60 เรื่องหนี้สาธารณะอย่าทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ตนเข้ามาปี 2557 มีหนี้สาธารณะร้อยละ 46 แม้จะทำให้เพิ่มขึ้นมากว่า 10% แต่ให้นำผลงานมาเทียบกัน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้พรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่อภิปรายโจมตีอย่างดุเดือด เช่น นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เย้ยว่าต้องกู้หน้านายกฯ และรัฐบาลก่อนกู้เงิน แต่พบว่าบรรดา ส.ส.ภูมิใจไทยไม่มีใครกล้าแตกแถว
อันดับ 4 : แฉท้องถิ่นฉาวเสาไฟกินรีร้อยล้าน ติดยันถนนลูกรังซอยเล็กๆ อีกแห่งเสาไฟประติมากรรมเครื่องบินก็มา
เสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟ ที่ติดตั้งโดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ กลายเป็นที่สนใจบนโลกโซเชียล เมื่อมีผู้ร้องเรียนระบุว่ามีการติดเสาไฟประติมากรรมกินรี แม้แต่บนถนนลูกรังซอยเล็กๆ แถมข้างทางมีแต่โพรงหญ้า โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2556-2564 มีการจัดซื้อจัดจ้างรวมแล้วกว่า 10 สัญญา คิดเป็นเงินกว่า 734,410,000 บาท และเสาไฟกินรีแต่ละต้นมีราคามากกว่าต้นละ 94,000 บาท ทำให้นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นร้องเรียน และตำรวจ ปปป.ลงพื้นที่ อบต.ราชาเทวะ ซึ่งนายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ ชี้แจงว่าทุกอย่างโปร่งใส มีที่ไปที่มาอย่างชัดเจน
อีกด้านหนึ่ง ยังมีการแฉอีกว่า มีเสาไฟประติมากรรมเครื่องบิน พร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ในโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในบริเวณที่ทำการ อบต.หนองปรือ จ.สมุทรปราการ พบว่าต้นละ 106,800 บาท ทำให้นายอุดม กลิ่นพวง นายก อบต.หนองปรือ ชี้แจงว่า โครงการนี้มีชาวบ้านได้ร่วมทำประชาคมกันขึ้นมา เป็นไปตามขั้นตอนตามระเบียบทุกอย่าง และไม่ได้มีแค่โคมไฟ แต่ยังมีสีเคลือบผิวจราจร ลานจอดรถ ปรับต้นไม้ ไฟสนามอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแฉทั้งเสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ของ อบจ.อ่างทอง เสาไฟมโนราห์ของเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยตั้งข้อสังเกตว่าราคาสูงผิดปกติ
อันดับ 5 : ใครบอกไม่มีผัวไม่ตาย สาวโสดเล่นเซ็กส์ทอย เครื่องไหม้เกือบช็อตของลับ ตำรวจสาวลึกจับได้ถึงแหล่ง
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) จับกุมนายทวีศักดิ์ ชายทวีป อายุ 28 ปี ที่บ้านพักในซอยอ่อนนุช 36 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ พร้อมของกลางเซ็กซ์ทอย 15 รายการ รวม 169 ชิ้น จึงแจ้งข้อหาข้อหาประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามก และโฆษณาไม่เป็นธรรม โดยคดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพเซ็กซ์ทอยที่มีสภาพไหม้บริเวณรอยต่อสายไฟกับตัวเครื่อง พร้อมข้อความระบุว่า "ใครมันเป็นคนบอกไม่มีผัวก็ไม่ตาย ไฟเกือบช็อต...ตาย" ทำเอาโลกโซเชียลฯ แชร์ไปเป็นจำนวนมาก
ตำรวจได้สืบสวนจึงทราบว่า นายทวีศักดิ์ลักลอบจำหน่ายสินค้าเซ็กซ์ทอย โดยโพสต์ขายผ่านเพจออนไลน์ จึงนำหมายค้นของศาลอาญาพระโขนง เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว และพบของกลางข้างต้น สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่าโพสต์ขายเซ็กซ์ทอยให้ผู้สนใจทั่วไป โดยไม่คิดว่าสินค้าจะไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ลูกค้าถึงกับบาดเจ็บ ขณะที่ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการ ปคบ. เตือนว่า เซ็กซ์ทอยยังเป็นอุปกรณ์ที่ผิดกฎหมาย เพราะยังไม่อนุญาตให้นำมาจำหน่ายในประเทศได้ และยังไม่มีสถาบันทางการแพทย์รับรองคุณภาพมาตรฐาน หากผู้บริโภคซื้อมาใช้ อาจเสี่ยงอันตรายต่ออวัยวะเพศได้
อันดับ 6 : อุเทนถวายตีนโหด 12 รุ่นพี่เตะรุ่นน้องตาย ขอขมาหน้าแม่อ้างไม่ตั้งใจ ตำรวจขีดเส้นตาย 10 วันมอบตัว
เหตุรับน้องสะเทือนขวัญเกิดขึ้น เมื่อนางมนัสนันท์ ตามกลาง ชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมหลายหน่วยงาน หลังนายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือน้องปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย รุ่น 89 ถูกรุ่นพี่ชั้นปีที่ 3 รวม 12 คน เวียนเตะหน้าอกจนสาหัส เมื่อเย็นวันที่ 27 พ.ค. เหตุเพราะไม่แสดงความคิดเห็นเตรียมจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ รักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียว และย้ายไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 8 วัน ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. แต่พบว่านักศึกษารุ่นพี่ยังไม่มีใครออกมายอมรับ
ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. รุ่นพี่ 12 คนที่รุมทำร้ายนายวีรพัฒน์จนเสียชีวิต มาขอขมาศพต่อหน้าแม่ที่วัดเก่าหนองกี่ อ้างที่ทำไปไม่ได้ตั้งใจให้ถึงชีวิต แต่นางมนัสนันท์ถามกลับไปว่า กระทำรุนแรงไปหรือไม่ ถ้าเราเป็นเขา โดนแบบนี้พ่อแม่จะเสียใจแค่ไหน หลังจากนี้คงจะต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการ ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย. ได้มีพิธีฌาปนกิจศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ด้าน พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ขีดเส้นตายให้รุ่นพี่ 12 คน เข้ามาพบกับตำรวจภายใน 10 วัน และพยานรุ่นน้องอีก 28 คนเข้ามาให้การภายใน 7 วัน ส่วนทางมหาวิทยาลัยสั่งให้รุ่นพี่ทั้ง 12 คนพ้นสภาพนักศึกษาแล้ว
อันดับ 7 : อย่ามโนทิพย์ อ้างเจอกล่องของเล่น มีคนดักรอถ่ายรูปรีดไถ ตำรวจเช็กไม่เจอ เจ้าตัวอ้างเข้าใจไปเอง
ทำเอาโลกโซเชียลฯ แตกตื่นกันใหญ่ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Uncleout Eatto โพสต์ข้อความอ้างว่า เข้าห้องน้ำที่โลตัส เตาปูน เจอกล่องของเล่นไดโนเสาร์วางแอบอยู่ข้างๆ โถส้วม แวบแรกดีใจว่าได้ของฟรี แต่มาเอะใจเลยเอาเท้าเขี่ยออกมาแล้วถ่ายรูปไว้ และไม่หยิบกล่องนั้นเลย พอเปิดประตูข้างนอก มีชายหนุ่มหัวเกรียน 2-3 คน ยืนถือมือถือเตรียมถ่ายรูปหน้าห้องน้ำ เจ้าตัวอ้างว่า เคยมีคนเจอกล่องลักษณะนี้ พอหยิบจับขึ้นมา ลายนิ้วมือจะติดอยู่ และเมื่อมีคนเห็นก็จะถ่ายรูปไว้ อาจจะมีขบวนการตำรวจนอกเครื่องแบบปลอม เข้ามาจับกุมขอตรวจค้น แล้วเจอสิ่งผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ถูกข่มขู่รีดไถเงิน
ปรากฎว่าฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน ลงพื้นที่ตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ห้างโลตัส สาขาประชาชื่น และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่ามีกลุ่มชายหัวเกรียน ลักษณะคล้ายตำรวจ ติดตามผู้โพสต์ข้อมูลแต่อย่างใด และกล่องที่เห็นเป็นกล่องของเล่นไดโนเสาร์ ซึ่งมีผู้เก็บนำไปให้ประชาสัมพันธ์ของห้างโลตัสแล้ว พร้อมแฮชแท็ก #อย่ามโนทิพย์ และเมื่อเรียกผู้โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงและตรวจสอบกล้องวงจรปิด เจ้าตัวก็อ้างว่าเข้าใจว่าเป็นลักษณะนั้น ส่วนบุคคลที่ลืมของเล่นไว้ พบว่าซื้อจากร้าน Mr.DIY คนเดียว ได้หลงลืมไว้ในห้องน้ำและออกไป แนะว่าหากพบสิ่งของควรแจ้ง รปภ.ห้างหรือตำรวจ