xs
xsm
sm
md
lg

เพจ "เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล" ไขข้อสงสัยสาเหตุฉีด "แอสตร้าเซนเนก้า" แล้วเว้นระยะเข็ม 2 นาน พร้อมเตือนข้อระวังหลังฉีด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจ "เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล" โพสต์ข้อความอธิบายถึงสาเหตุของการเว้นช่วงในการฉีดเข็มแรกและเข็มที่ 2 ของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เผยสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง และสามารถไปเพิ่มเป็นวัคซีนเข็มแรกเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันหมู่ได้ นอกจากนี้ยังเตือนถึงข้อควรระวังหลังการฉีดอีกด้วย

จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เป็นวันดีเดย์เริ่มฉีดวัคซีนในกลุ่มคนทั่วไปอย่างเป็นทางการ โดยในช่วงแรกนี้ประชาชนกลุ่มสูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้รับจะเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (Az) และพบว่า Az ถูกฉีดให้คนอายุน้อยในพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงด้วย อย่างไรก็ตาม พบว่ามีคำถามเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนของ "แอสตร้าเซนเนก้า" ถึงระยะเวลาในการฉีดเข็มที่ 2 ที่มีการเว้นช่วงระยะเวลานาน อาจจะทิ้งช่วงเวลานานถึง 15-16 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (8 มิ.ย.) เพจ "เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล" ได้ออกมาระบุข้อความอธิบายถึงวัคซีน "แอสตร้าเซนเนก้า" ควรฉีดห่างกันกี่สัปดาห์และข้อควรระวังหลังการฉีด โดยทางเพจได้ระบุข้อความอธิบายไว้ว่า

"เมื่อวานมีข้อสงสัยพอสมควรว่าในคนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็น AZ ว่านัดหมายเข็มที่สองมันนานจัง หากเป็น SinoVac เข็มสองจะห่างเข็มแรก 21-28 วัน ส่วน AZ นี้ เมื่อวานเท่าที่เห็นจะเป็น 15 กับ 16 สัปดาห์ อย่างตัวอย่างที่เพื่อนเพจส่งมาในรูปนี้ คือ นัดเข็มที่สอง 20 กันยายน = 15 สัปดาห์

ในล็อตแรกที่เรานำเข้ามา (ตั้งแต่ช่วงระบาดระลอกใหม่ที่สมุทรสาคร) เราใช้ระยะห่างระหว่างเข็มเป็น 8-10 สัปดาห์ ถามว่ามันจะใช้ได้ไหม ก็ต้องบอกว่าใช้ได้ครับ แต่ตามมาตรฐาน หรือคำแนะนำมาตรฐานจากบริษัทผู้ผลิต จากทั่วๆ ไปจะยังเป็น 4 -12 สัปดาห์ แต่จะมีบางประเทศที่แนะนำว่าสามารถยืดไปได้ถึง 16 สัปดาห์ อย่างตัวอย่างรูปด้านล่าง เป็นคำแนะนำจากแคนาดา โดยมีการศึกษาว่า ระดับสามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันได้ดี หรือกระตุ้นภูมิขึ้นสูงกว่าเสียอีก

เนื่องจากภาวะที่วัคซีนมาช้าการระบาดเยอะ การเลื่อนเป็น 16 สัปดาห์เพื่อให้คนได้รับเข็มแรกมากๆ จึงเป็นยุทธวิธีที่เราเลือกใช้ได้ ทั้งนี้ เข็มแรกของ AstraZeneca ก็สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ตั้งแต่ 2-4 สัปดาห์แรกหลังฉีดแล้ว แต่ต้องเตือนตัวเองว่าอย่างไรมันก็ไม่เท่าการฉีดสองเข็มนะครับ ข้อมูล 16 สัปดาห์นั้นก็ยังเป็นแค่ข้อมูลด้านเดียว การป้องกันจริงๆ จะเป็นอย่างไร ระหว่างนั้นภูมิที่ตกลงมาจะมีผลเรื่องการป้องกันไหม? ก็เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอยู่

ข้อควรระวังหลังฉีด
สรุปว่าใน กทม.นั้นมีการฉีด AstraZeneca ให้กับทุกคนไม่ได้แยกกลุ่มเสี่ยง (อายุเกิน 60, มีโรคประจำตัว) ซึ่งไม่ได้ผิดหลักการใช้ AstraZeneca ที่ยอมรับกันในขณะนี้นะครับที่ต้องพูดอย่างนี้ เพราะมันมีการปรับมาเป็นระยะตามข้อมูลที่มีออกมาเรื่อยๆ เช่น ช่วงแรก จากงานวิจัยมีข้อมูลการใช้ในคนสูงอายุไม่มาก บางประเทศจึงลังเลที่จะใช้กับผู้สูงวัย ต่อมาข้อมูลเยอะขึ้นก็ใช้กันเป็นปกติ แต่ทว่าพอใช้มากขึ้นกลับพบว่าในคนอายุน้อย ผู้หญิงนั้น เกิดเหตุที่เรียกว่า วัคซีนกระตุ้นภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ขึ้น Vaccine induced prothrombotic immune thrombocytopenia ที่คงพอจะเห็นข่าวจากต่างประเทศ โอกาสโดยรวมคือ 1 ในล้านคนที่รับวัคซีนในอังกฤษแนะนำว่าควรเลี่ยง ในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 40 ยุโรปหลายประเทศก็ตัดที่อายุต่างกันไป 55, 50, 60 (คร่าวๆ เท่าที่จำได้)

ในประเทศไทย เรื่องนี้มีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญว่าโอกาสเกิดคงจะน้อยมาก น้อยกว่าในยุโรปเสียอีก จากผลเรื่องพันธุกรรม แต่เมื่อเริ่มฉีด เราก็ต้องช่วยกันสังเกตอาการกันไป ทั้งนี้สำหรับคนอายุไม่มากหลังฉีด AstraZeneca อาจจะพบอาการไม่พึงประสงค์ที่หนักหน่อย ไข้สูง ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย น่าจะเจอได้มากกว่า SinoVac เพราะการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจะมากกว่า

ส่วนอาการที่ต้องระวังว่าเกิดลิ่มเลือดอุดตันหรือเปล่านั้นก็จะมีอาการได้ตามอวัยวะที่เกิดลิ่มเลือด โดยมักจะมีอาการได้ตั้งแต่ 4-28 วันหลังการฉีดวัคซีน หากมีลิ่มเลือดในสมองก็มีอาการปวดหัว มักจะปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อนหรือแขนขาอ่อนแรงได้ หากเกิดลิ่มเลือดในปอดก็จะทำให้มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติกิจวัตรเดิมที่ทำได้ไม่เหนื่อยกลับเหนื่อย รู้สึกหายใจติดขัด ไม่เต็มอิ่ม สองอวัยวะหลักน่าจะประมาณนี้ หากหลังรับวัคซีน 4 วันขึ้นไปแล้วมีอาการก็คงต้องไปพบแพทย์ หมออย่างเราๆ ก็คงต้องรับมือที่จะตรวจ จะให้ความรู้ แนะนำหรือจะวินิจฉัยภาวะนี้กันไว้ด้วย คงเป็นรางวัลที่หนึ่งที่ไม่มีใครอยากได้ ทั้งหมอทั้งคนไข้"

กำลังโหลดความคิดเห็น