ต้องยอมรับว่า "เมืองไทย" เป็นอีกชาติในโลกนี้ที่มีรายการประกวดร้องเพลงในโทรทัศน์เยอะมากๆ แต่สำหรับ "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" (Last Idol Thiland) รายการแฟรนไชส์จากญี่ปุ่นของ "ยาซุชิ อากิโมโตะ" ผู้สร้างตำนานไอดอล 48 กรุ๊ป ที่มีการคัดเลือกสมาชิกแบบท้าดวลตัวต่อตัว (survival audition) โดยมีสมาชิกชั่วคราวตั้งต้น 7 คน รอคอยให้ผู้เข้าแข่งขันมาท้าชิงในทุกๆ สัปดาห์ มีกรรมการคอยตัดสิน หากสมาชิกแพ้ก็จะต้องตกรอบและให้ผู้ที่ชนะขึ้นมายืนในตำแหน่งแทน ซึ่งถ้าใครได้อยู่จนจบซีซั่น ก็จะได้เป็นตัวจริงของวง ก็ดูอาจสร้างความแตกต่างและเรียกน้ำตาให้กับผู้ชมไม่มากก็น้อย
และแน่นอนความกดดันก็กลับมาสู่ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปยืนรอรับความท้าทายจากบุคคลแปลกหน้า ผู้จัดการออนไลน์ จึงไม่พลาดที่จะไปพูดคุยกับ "ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์" , "ม่านมุก-ชดาธาร ด่านกุล" , "ขนมหวาน-ศุจินทรา โพธิ์สม" , "หงษ์หยก ควรประดิษฐ์" , "ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา" , "เก๋-พรรณิภา วงษาชัย" และ "ตาล-สุดารัตน์ วงษ์กล่ำ" ถึงที่มาของพวกเธอ
ทำไมถึงได้มาเป็นสมาชิกชั่วคราว?
ตาล สุดารัตน์ : พวกเราถูกคัดเลือกโดยการไปสมัครเข้าออดิชั่น โดยทำการสมัครผ่านทางเว็บไซต์ จากนั้นก็ไปทำการออดิชั่นในรอบ 200 คน โดยโชว์ความสามารถที่เรามั่นใจ เช่น การร้อง หรือ การเต้น และได้ร้องเพลง "แบนด์วากอน" (Bandwagon เพลงเปิดตัวรายการ) หนูคิดว่ากรรมการอาจจะเห็นเสน่ห์ในตัวแต่ละคนเลยคัดเลือกเข้ามา หรือเห็นแววว่าแต่ละคนสามารถที่จะไปเป็นไอดอลได้หนูไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถูกรับเลือกมาเพราะอะไร กรรมการอาจจะเห็นเสน่ห์แปลกๆ ในตัวหนูหรือเปล่า (หัวเราะเบาๆ) ก็เลยได้รับเลือกมา
ซีโมน ปุณณาสา : สำหรับหนู หนูคิดว่าหนูมีเสียงที่เอกลักษณ์ คือหนูเป็นคนที่เสียงห้าวพอสมควร เวลาร้องเพลง เลยอาจจะได้รับการคัดเลือกจากตรงนี้ด้วย เราอาจจะมีเสน่ห์เวลาร้องเพลงตรงนี้ด้วย
หงส์หยก : ที่คิดว่าหนูถูกคัดเลือกเข้ามา เพราะว่า หนูมีคาแรคเตอร์ที่ค่อนข้างน้อง เพราะว่าหนูโตช้านิดนึง โตช้าทุกอย่าง รวมถึงเสียงด้วย เสียงหนูเหมือนเด็ก 3 ขวบ
เก๋ พรรณิภา : เก๋คิดว่า เก๋อาจจะเป็นคนที่แปลกประหลาดนิดนึง แบบมีความมั่นใจแบบผิดๆ (หัวเราะ) เช่น เรื่องการแต่งตัว ประมาณว่า เก๋อาจจะมองว่าทรงผมทรงนี้เหมาะแล้ว แต่ คนอื่นอาจจะมองว่า ทรงนี้จะไปประกวดนางสาวไทยหรือเปล่า (หัวเราะ) เก๋มั่นใจในเรื่องการเต้นของตัวเอง คิดว่าจะมีเสน่ห์อย่างนึง
ม่านมุก ชดาธาร : แน่นอนว่า เหตุผลแรกน่าจะเป็นเพราะหน้าตาดี (หัวเราะทั้งวง) คือถ้าเกิดพูดถึงเรื่องความพยายามแล้ว หรือถ้าพูดถึงเรื่องไอดอล มุกว่า ม่านมุกไม่แพ้ใครในโลกหล้านี้แน่นอน ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลที่เขาเลือกเรามาเป็น Last Idol
ไม่เกี่ยวกับการเป็นสมาชิกตัวท็อปในวง Sweat16 ?
ม่านมุก ชดาธาร : จริงๆ แล้ว สมาชิก "สเวท ซิกซ์ทีน" (Sweat16) ก็มีมาสมัครรายการนี้หลายคนอยู่เหมือนกัน แต่ว่าก็เป็นม่านมุกที่ได้รับโอกาสเข้ามา จริงๆ แล้ว คิดว่าเป็นเรื่องของตัวท็อปรึเปล่านั้น ไม่เกี่ยวหรอก มุกคิดว่า เขาคงเล็งเห็นอะไรบางอย่างในตัวเรา ทั้งความตั้งใจ หรือว่า สิ่งที่เขาอาจจะมองภาพในอนาคตว่า เราสามารถทำในจุดๆ นี้ได้นะ เขาก็เลยให้โอกาสตรงนั้นมา ซึ่งการคัดเลือกเนี่ย ไม่ใช่แค่โปรดิวเซอร์คนไทยเท่านั้น ก็ยังมี "ยาซุชิ อากิโมโตะ" ด้วยนะ ที่เป็นคนสร้าง "48 กรุ๊ป" และ "ซากามิจิ ซีรีส์" (ไอดอลตระกูล 46) ที่เป็นคนตัดสินด้วย เลยอาจจะมีเสน่ห์แปลกๆ แบบญี่ปุ่น ที่อาจจะรู้สึกว่าถ้าเอาเข้ามา อาจจะดีก็ได้ ก็เลยได้รับโอกาสตรงนั้นมา
อย่าง "ม่านมุก" เคยไปเข้าร่วมแข่งขัน "โยชิโมโตะ ซากะ46" ด้วย
ม่านมุก ชดาธาร : ใช่ นั่นก็เป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจเหมือนกัน ที่เราไป โยชิโมโตะซากะ 46 มา 2 ปี โดย "อากิโมโตะ" เหมือนกัน แต่เขาไม่เคยเลือกเลย แบบเขาไม่เหลียวแล (หัวเราะเบาๆ) จริงๆ มุกก็เป็นแฟนคลับของเขา ชอบผลงานของเขามากๆ ก็มีความฝันอยากจะทำงานร่วมกับเขา อยากให้เขามาโปรดิวซ์เพลงของเรา ซึ่งการมา Last Idol ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในฝันขั้นแรก แต่ถ้าคาดหวังในอนาคต ก็อยากจะเดบิวต์เป็นสมาชิกตัวจริงให้ได้
แล้วทาง "ขนมหวาน" กับ "ต้นน้ำ" ล่ะ
ขนมหวาน ศุจินทรา : เพราะหนูคิดว่า หนูมีเอกลักษณ์เวลายิ้ม รู้สึกว่าจะออกแนวญี่ปุ่นนิดนึงรึเปล่า แล้วก็เขาอาจจะเห็นอะไรในตัวเรา แล้วหนูโชว์ความเป็นตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด ไม่มีเฟค แล้ววันนั้นหนูไม่ได้แต่งหน้าเลย วันนั้นหนูเตรียมเต้นไป เพราะว่า มั่นใจในการเต้นมากที่สุด ก็ได้โชว์ศักยภาพที่ตัวเองมีออกไป ก็เลยคิดว่า น่าจะมีจุดเด่นเวลาเราเต้น หรือยิ้ม ทำให้ทุกคนมีความสุขได้ เขาก็เลยเลือกเราที่จะมาเป็น Last Idol
ต้นน้ำ บัณฑิฏา : ต้นน้ำอาจจะคิดว่า เขาอาจจะเห็นอะไรแปลกๆ ในตัวหนูหรือเปล่า (หัวเราะ) เขาอาจจะเห็นว่าเราพยายาม ซึ่งก็น่าจะรวมกับทุกคนด้วย ต้นน้ำเชื่อว่าเสน่ห์ของเราก็คือ การเป็นตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้น วันที่ออดิชั่น เราก็เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด น่าจะเห็นความเป็นตัวของตัวเองของเรา ก็เลยเลือกมา (หัวเราะเบาๆ)
ส่วนหนึ่งที่เขาเลือกเพราะ "ต้นน้ำ" เคยเป็นพิธีกรรายการเด็ก (ดิสนีย์ คลับ) มาด้วยรึเปล่า?
ต้นน้ำ บัณฑิฏา : หนูว่าไม่น่าเกี่ยวนะ เพราะว่า การเป็นพิธีกรรายการเด็ก ขอพูดตรงๆ นะ ก็ไม่ใช่เราซะทีเดียว เพราะเราก็ไม่ใช่เป็นคนลักาณะอย่างงั้น ต้นน้ำจะออกเป็นคนหล่อเท่ (เพื่อนร่วมวงแซว) ส่วนการได้รับเลือกเป็นเซ็นเตอร์เพลงแบน์วากอน อาจจะเป็นเสน่ห์แหละ ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร เพราะเราก็เชื่อว่า พี่ๆ ทุกคนก็ร้องและเต้นเก่ง ก็น่าจะเป็นเสน่ห์ของแต่ละคน
นอกจาก "ม่านมุก" แล้ว ใครเคยมีประสบการณ์ในการออดิชั่นเกี่ยวกับไอดอลหรือเกิร์ลกรุ๊ปมาบ้าง?
เก๋ พรรณิภา : ก็มีทั้งเกาหลี แล้วก็ญี่ปุ่นด้วย รวมถึงประเทศไทยด้วย หลายที่เลย เคยมีติดอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นเด็กฝึกอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ก็โดนยกเลิกสัญญา เลยออกมาหาทางใหม่ที่ดีกว่า (หัวเราะเบาๆ) ส่วนระหว่างก่อนมาเจอ last idol ก็หนึ่งปีได้ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้มาสมัครรายการนี้เหมือนกัน เพราะว่า เก๋เลือกเรียนทางด้านพยาบาล แล้วมันก็หนักพอสมควร เหมือนจะหมดแพชชั่นในเรื่องไอดอลไปช่วงหนึ่งเลย เพราะช่วงเรียนพยาบาลรู้สึกว่าเครียดมากเลยค่ะไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เลยไปหาอะไรที่ ถ้าเราสบายใจที่เราอยากจะทำ ก็เลยลองสมัครดู
สาเหตุที่ทั้ง 7 คนเลือกมาสมัคร last idol
เก๋ พรรณิภา : ตอนแรก เก๋ไม่คิดจะมาทางเวย์ญี่ปุ่นเลย เราชอบทางเกาหลีมากๆ แต่ว่าเพื่อนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า ควรจะไปทางเวย์ญี่ปุ่นนะ หน้าตาดูเข้า ก็เลยลองมา ปรากฏว่า ดี ที่เชื่อคำพูดเพื่อน (หัวเราะ)
หงส์หยก : เริ่มจากที่หนูเป็นโอตะ หนูก็ชอบร้องและเต้นด้วย แล้วด้วยความที่เรามองดูไอดอลบนเวที ก็เริ่มมีความฝันแล้ว ก็เลยมาสมัคร
ซีโมน ปุณณาสา : หนูก็มีศิลปินที่ชื่นชอบอยู่แล้ว และเขาก็สามารถทำให้เรายิ้มได้ เวลาที่เราท้อ แล้วเราก็อยากเป็นรอยยิ้มตรงนั้นให้กับคนอื่นบ้าง
ตาล สุดารัตน์ : ส่วนตาล เราอยากจะท้าทายตัวเอง เพราะเราเป็นคนที่ไม่มีความกล้าแสดงออกเท่าไหร่ ก็เลยมาทดลองทำงานในด้านนี้ ได้ฝึกการแสดงออก ส่งความสุขให้ผู้อื่น
ขนมหวาน ศุจินทรา : สำหรับตัวหนูแล้ว หนูก็ชอบวงการบันเทิง ชอบร้องชอบเต้นอยู่ที่บ้านคนเดียว ก็เลยอยากลองออกมาหาประสบการณ์ดู แล้วก็อยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ด้วย
ต้นน้ำ บัณฑิฏา : ต้นน้ำเคยไปแคสต์งานอยู่ที่สถานที่หนึ่ง แล้วก็ไปเจอโปสเตอร์รับสมัคร last idol ต้นน้ำก็เหมือนติดใจโลโก้เขา ต้นน้ำชอบมากเลย ก็เลยไปเสิร์ชกับทางอินเตอร์เน็ทว่ามันคืออะไร มันเป็นรายการอะไร ก็เลยมาสมัคร เป็นรูปม้าเพกาซัส แล้วมีผู้หญิงขี่หลังและถือธง หนูชอบมาก หนูหลงรักตั้งแต่แรกพบเลย
แต่สำหรับ "ม่านมุก" มันคือ challenge ด้วยมั้ย?
ม่านมุก ชดาธาร : จริงๆ ถือว่าเป็นชาเลนจ์ ก็ได้ เพราะว่า การเป็นไอดอลสำหรับม่านมุกคือ is my heart my soul เลย เพราะเราก็เป็นโอตะมาตั้งแต่แรกด้วย มีความฝันที่อยากจะเป็นไอดอลมาตลอดด้วย เรามีคนที่เราชื่นชอบ แล้วเราก็อยากจะเป็นแบบเขาในซักวันหนึ่ง ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่เรามีโอกาสที่จะมาทำตรงนี้ เพราะตอนแรก เราคิดว่า เราไม่น่าจะมาสมัครได้ เพราะอายุก็เต็มเพดานแล้ว แต่มันก็พอดีเลย แล้วเราก็ไม่อยากให้ ไหนๆ มันก็ผ่านมาแล้ว ไม่อยากให้มันผ่านไปเฉยๆ แล้วก็ไม่อยากให้ตัวเองมาเสียใจทีหลังว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ทำมันนะ ก็เลยมาสมัคร ก็เลย idol is my heart my soul ค่ะ ชอบมาก ชอบการเป็นไอดอลค่ะ(ทั้งวงปรบมือ)
การที่จะต้องมาเจอผู้ท้าชิง เราตั้งรับและเตรียมตัวตรงนี้ยังไงบ้าง?
ต้นน้ำ บัณฑิฏา : อย่างต้นน้ำก็ฝึกซ้อมทุกวัน ตอนหลังเลิกเรียน ก็มี วิ่ง เวิร์คเอาท์ แล้วก็ซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลง แล้วก็บริหารเสน่ห์ของตัวเอง (หัวเราเบาๆ)
ขนมหวาน ศุจินทรา : สำหรับการเตรียมตัวของหนูนะ ก็ซ้อมร้อง ซ้อมเต้นหนักพอสมควร เพื่อที่จะได้เพิ่มศักยภาพตัวเองให้ได้มากขึ้น เพื่อที่จะรักษษตำแหน่งให้ได้ด้วย ไม่ได้มีอะไรมาก ก็คือต้องทำให้เต็มที่ที่สุดเลย
ตาล สุดารัตน์ : ส่วนตาลจะเน้นไปที่ ทำบุญ สวดมนต์ ขอพรเยอะๆ (หัวเราะทั้งวง) ส่วนเวลาที่เหลือเพียงเล็กน้อยนะ ตาลก็จะเอาไปฝึกซ้อม ฝึกร้อง ฝึกเต้น แล้วก็ฝึกแสดงสีหน้าท่าทางให้มีเสน่ห์
ซีโมน ปุณณาสา : ของหนูก็จะจัดการเวลาให้ดี แล้วก็เดหมือนหลังเลิกเรียน หนูก็จะมาออกกำลังกาย ซ้อมร้องเพลง ซ้อมเต้นก่อน แล้วก็อ่านหนังสือ ซึ่งเราก็ต้องทุ่มเทกับทั้งสองอย่าง และเสาร์-อาทิตย์เราก็ฝึกซ้อม ซึ่งทางรายการ ก็จะให้มีการฝึกซ้อมร้องและฝึกเต้นให้ด้วย
หงส์หยก : ของหนูก็ซ้อมเหมือนกับทุกคนเลย แต่สิ่งที่จะทำให้เราชนะ คือ ขังผู้ท้าชิงในห้องน้ำ (หัวเราะทั้งวง)
เก๋ พรรณิภา : พี่ตาลทำบุญ เก๋เตรียมบวชเลย (หัวเราะ) ก็มีซ้อมเต้นทุกวันกับครูที่สอน ส่วนหลังเลิกเรียน ก็มีซ้อมวิ่ง แล้วก็พยายามดูกระจก ว่าตัวเองสวยหรือโอเครึยัง
ม่านมุก ชดาธาร : ตามที่น้องๆ บอกไปหมดแล้วนะ ก็มีการซ้อมร้องเพลง ซ้อมเต้น และเรียนส่วนตัวกับครูใช่มั้ย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามา นั่นคือการอ่านการ์ตูน (หัวเราะ) เพราะว่าจริงๆ แล้วการอยู่ตรงนี้มันเป็นสิ่งที่กดดันมากๆ ถึงแม้เราจะพยายามซ้อมแค่ไหน แต่พอมาถึงเวลาจริงๆ มันก็จะตื่นเต้น และรู้สึกว่าเหมือนทำตัวไม่ถูก เพราะฉะนั้นการ์ตูนบางเรื่อง มันก็คอยให้คติสอนใจเราว่าเราต้องคอยพยายามนะ ถ้าเกิดเราอยากให้บนเวทีมันเป็น 100% ได้ เราต้องพยายามฝึกยิ่งกว่า 100% คือ 120% เท่านั้น และทำทุกอย่างให้เต็มที่ เหมือนกับที่เรากินข้าว หายใจ ให้ทุกอย่างมันเป็นปกติ ก็คือเป็นคนเบียวๆ นี่แหละ (หัวเราะ) การอ่านการ์ตูนมันทำให้เรารู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาได้
คู่ต่อสู้ที่คิดว่าน่ากลัวของแต่ละคน
ม่านมุก ชดาธาร : คู่ต่อสู้ที่น่ากลัวสำหรับม่านมุกก็คือ คู่ต่อสู้ที่เป็นเด็ก (หัวเราะ) ประมาณอายุ 12 ถ้าเจอแบบ ท้าพี่ม่านมุกค่ะ อายุ 12 ก็จะรู้สึกว่า เหมือนอยู่กับน้อง ลูก ก็เหมือนกับใจมันอ้อนแอน ก็ใครที่เด็กอยู่อย่าท้าพี่เลยนะ ใจอ่อน
ต้นน้ำ บัณฑิฏา : ผู้ท้าชิงที่ต้นน้ำกลัวที่สุดนะ คือมาสายขี้อ้อนเลย เพราะว่าต้นน้ำเป็นคนที่อ้อนไม่เป็น แล้วก็เป็นคนที่ใจอ่อนง่ายด้วย ถ้าสมมุติว่าผู้ท้าชิงมาแนวนี้ ไม่ไหวจริงๆ แพ้เลย หมายถึงแพ้ทางนะ ไม่ได้ยกตำแหน่งให้
ขนมหวาน ศุจินทรา : ผู้ท้าชิงที่หนูกลัวนะ ก็จะเป็นสายมั่นใจมากๆ เลย เพราะว่า ถ้าเขามั่นใจมากๆ ก็จะทำให้เรากลัวขึ้นมาก็ได้ แต่ว่าหนูก็ไม่ได้กลัว ไม่อยากบอกอะไรมาก เดี๋ยวเขารู้ทาง
ตาล สุดารัตน์ : ผู้ท้าชิงที่ตาลกลัวนะ ก็คงเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่น แล้วก็มีความมั่นใจมาก หรืออาจจะมีสายมู เสน่ห์มหานิยมที่หนูไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้ ซึ่งหไม่รู้ว่าหนุจะทำบุญพอมั้ย
ซีโมน ปุณณาสา : จะกลัวคนที่มีไทป์เพลงแบบเดียวกัน เพราะว่า มันจะเกิดการเปรียบเทียบได้ชัด แต่หนูก้ไม่บอกนะว่าไทป์เพลงหนูเป็นแบบไหน ต้องชมในรายการนะ
หงส์หยก : หนูกลัวผู้ท้าชิงที่แข็งแรง เพราะหนูกลัวว่า สมมุติว่าถ้าหนูชนะใช่มั้ย เขาจะมาต่อยหนู (หัวเราะ) หนูกลัวว่าจะต่อยกลับไม่ได้ แล้วก็กลัวเขางัดห้องน้ำออกมาด้วย
เก๋ พรรณิภา : เก๋ไม่มีผู้ท้าชิงที่ต้องกลัว เพราะเก๋รู้สึกว่าเก๋มั่นใจในตัวเองมาก แล้วน้องขนมหวานต้องกลัวเก๋ เพราะเก๋เป็นคนมั่นใจ
ความคาดหวังอะไรที่เราต้องการจากรายการ Last Idol Thiland
หงส์หยก : ก็คงคิดว่าทุกคนคงเป็นแบบหนู ก็คืออยากเป็นตัวจริงจนไปถึงสัปดาห์สุดท้าย แล้วเราก็จะเกาะกันไปถึงฝั่งให้ได้เลย
สมมุติว่าถ้าในสมาชิกชั่วคราวมีใครซักคนหลุดออกไป?
ซีโมน ปุณณาสา : ก็รู้สึกเศร้านะ เพราะว่า เราก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาหลายเดือน เราอาจจะอยู่ด้วยกันมา 3-4 เดือน แต่เราสนิทกันมากๆ เลย สามารถที่จะกล้าพูดคุยได้ เหมือนถ้าขาดคนใดคนหนึ่ง ก็เศร้า แบบ คนนั้นที่เคยอยู่ด้วย เขากลายไปไหนแล้ว
ในเมื่อทุกคนสนิทกันอย่างนี้แล้วจะไม่มีปัญหากับคนที่มาใหม่?
ซีโมน ปุณณาสา : (นิ่งคิด) ยังไง เราก็ต้องยอมรับความจริงนะ สมมุติว่าใครคนนึงเข้ามา ก็ต้องมีใครคนหนึ่งออกไป ซึ่งถ้าเราทำเป็นคนหวงที่ มันก็ไม่ได้ ก็สงสารคนที่มาใหม่เหมือนกัน เราก็ต้องให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นเหมือนกัน เราก็ต้องเป็นแบบพี่ที่ออกไป ถ้าเราใส่ใจพี่เขาแบบไหน เราก็ต้องใส่ใจสมาชิกคนที่เข้ามาด้วย
แล้วสมมุติว่าไม่ได้ไปต่อ เราจะยังเดินเส้นทางนี้ต่อไปมั้ย?
ตาล สุดารัตน์ : ถ้าตาลไม่ได้ไปต่อ ตาลก็คงไปทำงานตามสายที่เรียนมา ก็คือ วิศวะ แล้วก็เล่นหุ้นและทำขนมคุกกี้ด้วย
ซีโมน ปุณณาสา : อย่างที่หนูบอกไปนะว่า หนูอยากจะเป็นรอยยิ้มให้กับทุกคน เหมือนที่ศิลปินที่หนูชอบ เป็นรอยยิ้มให้หนูใช่มั้ย ดังนั้น หนูก็จะเดินทางสายนี้ต่อไปแน่นอน จนกว่าเราประสบความสำเร็จตามที่ฝันไว้
หงส์หยก : ถ้าวันหนึ่ง หนูโดนออกจากรายการใช่มั้ย หนูก้แค่ออกเฉยๆ ความฝันหนูไม่มีทางหยุดลง เพราะความเป็นไอดอลของหนู ไม่ได้หยุดแค่นั้น หนูต้องหาทางไปต่อให้ได้ ไม่หยุดแค่นี้แน่นอน ก็ฝากเป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะ
เก๋ พรรณิภา : เก๋รู้ว่า การที่จะมาอยู่ตรงนี้มันยากมากๆ ถึงออกจากรายการนี้ไป เก๋ก็จะพยายามทำสิ่งที่ตัวเองฝันให้ได้ เพราะเรารู้แล้วว่า เราต้องการอะไร อนาคตมันต้องเป็นอย่างที่เราหวัง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องคว้ามันมาให้ได้
ม่านมุก ชดาธาร : Idol is my heart my soul ถึงแม้ว่าจะต้องออกจากรายการไป แต่ม่านมุกก็จะเป็นไอดอลต่อไป จนกว่าสังขารจะไม่ไหวแล้ว (หัวเราะ) เพราะว่าจริงๆ ไอดอลมันก็มีเยอะแยะ ที่มีเวลาอายุที่จำกัด ใช่มั้ย แต่ว่ายังอยากที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ นะ มุกมีแนวคิดที่ว่า ถ้าเรามีความสุขกับสิ่งไหน การทำสิ่งนั้น มันทำให้เราแฮปปี้และมีความสุขในการใช้ชีวิต ตอนนี้รักการเป็นไอดอลมากๆ ก็จะเป็นไอดอลเรื่อยๆ
ต้นน้ำ บัณฑิฏา : ถ้าต้นน้ำโดนโค่นออกจากรายการนะ ต้นน้ำก็เดินทางสายนี้ต่อไป เพราะต้นน้ำมีความสุขที่จะได้ทำ และต้นน้ำเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจพยายามทำจริงๆ ซักวันมันต้องมาถึง เพราะฉะนั้นเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคน
ขนมหวาน ศุจินทรา : อย่างที่ทุกคนบอกไป ถ้าการเป็นไอดอล มันเป็นสิ่งที่เราชอบ หรือว่ามันเป็นสิ่งที่เรารักจริงๆ เราก็ไม่ควรที่จะหยุดทำมัน ควรทำตัวเองให้มีคุณค่า แล้วก็ พยายามทำมันต่อไป อย่างที่บอก ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
โดยรายการ last idol Thailand ออกอากาศตอนแรก 6 มิ.ย.นี้ เวลา 12.30-13.30 น.ทุกวันอาทิตย์ ทาง ช่อง 7 HD
เรื่อง : ดรงค์ ฤทธิปัญญา , สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ , วิดีโอ : ดรงค์ ฤทธิปัญญา