พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมสิ่งของต่างๆ เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือ และบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวเนปาลที่ติดเชื้อและได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ณ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล
วันนี้ (29 พ.ค.) เวลา 10.29 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เป็นผู้เชิญเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์พร้อมสิ่งของต่าง ๆ เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือ และบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวเนปาล โดยส่งมอบแก่นายคเณศ ประสาท ธกาล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลประจำประเทศไทย ณ ฝูงบิน 601 กองบิน 6 กองบัญชาการกองทัพอากาศ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองทัพอากาศ ดำเนินการจัดส่งเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น พร้อมสิ่งของพระราชทานต่างๆ ไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล สำหรับมอบแก่รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เพื่อนำไปใช้ในการรักษาเยียวยาผู้ป่วย และยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันประกอบด้วย หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันส่วนบุคคล หน้ากากป้องกันใบหน้า ชุดตรวจแอนติเจน เครื่องวัดระดับออกซิเจนในร่างกายแบบจับปลายนิ้ว ปรอทวัดไข้ดิจิทัล เครื่องช่วยหายใจชนิดอัตราไหลสูง
ถุงมือยาง และเครื่องผลิตออกซิเจนอัตโนมัติ การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานสิ่งของและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือชาวไทยในเนปาลให้กับวัดไทยลุมพินี ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอรูปันเดฮี แคว้นลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ด้วย
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลพระราชทานชุดป้องกันส่วนบุคคลเพิ่มเติมแก่บุคลากรด้านสาธารณสุขเนปาลอีกด้วย
ทั้งนี้ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 5 แสนคน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ8,000 - 9,000 คน มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 8,000 คน โดยศูนย์ควบคุมโรคระบาดและโรคติดต่อของเนปาลเปิดเผยว่า ขณะนี้เนปาลกำลังประสบภาวะผู้ป่วยโควิด-19 ล้นโรงพยาบาล ขาดแคลนเตียง และออกซิเจน รัฐบาลเนปาลได้ประกาศล็อกดาวน์ในกรุงกาฐมาณฑุและในเมืองใหญ่ และระงับเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น